1093 เส้นทางสายทะเลหมอกและดอกไม้
ทริปเที่ยวเชียงรายหน้าฝน | ตุลาคม 2563
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1093 อดีตถนนสายยุทธศาสตร์ในการปราบปรามคอมมิวนิสต์ คดเคี้ยวลัดเลาะไปตามแนวเทือกเขาดอยผาหม่น จาก อ. เทิง ไป บ้านผาตั้ง อ.เวียงแก่น ดินแดนบนดอยสูงแถบนี้เคยเป็นพื้นที่สีแดงของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) มาก่อน จากการเข้ามาปลุกระดมหาแนวร่วมในเรื่องความไม่เท่าเทียมและความยากไร้ของชาวไทยภูเขาตั้งแต่ปีพศ.2500 การต่อสู้ระหว่างผกค.และเจ้าหน้าที่รัฐยาวนานอยู่หลายปี ในขณะที่การสู้รบเริ่มลดลงแต่ก็ยังไม่สงบ ในเดือนกุมภาพันธ์ พศ. 2525 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ได้เสร็จไปเยี่ยมเยียนประชานชนและเจ้าหน้าที่เพื่อนเป็นขวัญกำลังใจ และยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าประชาชนชาวไทยจะอยู่ไกลและลำบากอย่างไรพระองค์ก็ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน จนถึงปี พศ.2527 การสู้รบด้วยอาวุธจึงหยุดลง มีการทำความเข้าใจกับชาวไทยภูเขาและผู้เข้าร่วม เปิดโอกาสให้เข้ามอบตัว กลายเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย และร่วมมือกันพัฒนาพื้นที่ต่อไป มีการก่อตั้งหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทยและสปป.ลาว ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จำนวน 10 หมู่บ้าน

ทางหลวง 1093 ที่เคยเป็นถนนสายยุทธศาสตร์ทางการรบ เปลี่ยนเป็นถนนสายยุทธศาสตร์ทางการท่องเที่ยว ตลอดทางมีจุดชมวิวบนยอดเขาที่เห็นแนวเทือกเขาสลับซับซ้อนทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว มีน้ำโขงสีขุ่นในหน้าฝนไหลเป็นแนวกั้นดินแดนอยู่ด้านล่าง จุดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ “ภูชี้ฟ้า” ที่ใครหลายๆคนได้เคยไปชมทะเลหมอกและแสงแรกของวัน ภูชี้ฟ้าได้รับตำแหน่งจุดชมวิวและชมทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดเชียงรายมาเนิ่นนาน เดี๋ยวนี้มีการพัฒนาจุดชมวิวเพิ่มขึ้นอีกหลายจุดอย่าง ภูชี้ดาว ภูชี้เดือน จุดชมวิวดอยผาหม่น ให้แวะเที่ยวชมได้ตลอดทางหลวง 1093 ซึ่งไปสุดถนนที่ดอยผาตั้ง จุดชมวิวชื่อดังอีกแห่ง ที่ดังมาพร้อมๆกับภูชี้ฟ้า

ภูชี้ฟ้า
วนอุทยานภูชี้ฟ้า บ้านร่มฟ้าไทย อ.เทิง จ.เชียงราย
ความสูง 1,628 ม.จากระดับน้ำทะเล
จากถนน 1093 ต้องขับรถแยกเข้าไปอีกราว 2 กม. เป็นทางชันคดเคี้ยวแต่ถนนดี มีที่จอดรถกว้างขวาง มีชาวบ้านเปิดเพิงขายของ ขายอาหาร มีห้องน้ำ จากจุดจอดรถเดินขึ้นไปอีกราว 750 ม. ทางเดินขึ้นเขาไม่ชันมาก ถ้าไม่มีรถส่วนตัวมาหรือไม่อยากขับรถขึ้นไปเอง ให้บอกที่พักเรียกรถให้ จะมีรถมารับพาขึ้น ถ้าช่วงฤดูท่องเที่ยวก็นั่งรวมกันไปค่ารถขึ้นลงคนละ 60 บาท ถ้าไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว หรือช่วงคนน้อยอาจต้องเหมารถไปส่ง







ขึ้นภูชี้ฟ้าได้ 2 ทาง คือทางบ้านร่มฟ้าไทยกับบ้านร่มฟ้าทอง ถ้าขึ้นฝั่งบ้านร่มฟ้าไทย ระยะทางเดิน 700 เมตร ความชันน้อยกว่า ขึ้นทางฝั่งบ้านร่มฟ้าทอง ระยะทางเดิน 400 เมตร แต่ชันมากกว่า
ที่ได้ชื่อว่า”ชี้ฟ้า”เพราะยอดเขามีลักษณะแหลมและชี้ขึ้น บริเวณยอดเขามีพื้นราบให้ยืนชมวิวได้ มองเห็นหุบเขาด้านล่างฝั่งไทยและลาวได้ดี สามารถขึ้นมาชมวิวได้ทั้งวัน แต่คนส่วนมากชอบไปตอนเช้าเพื่อรอดูพระอาทิตย์ขึ้น และชมทะเลหมอกซึ่งจะมีมากในช่วงปลายฝนต้นหนาว ทะเลหมอกจะมีให้ดูจนถึงช่วงสาย บางคนก็เลยขึ้นมาชมช่วงสาย ถ้าจะขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นให้เตรียมไฟฉายเล็กๆไปด้วย เพราะควรเดินขึ้นไปให้ถึงด้านบนก่อน 6 โมงเช้า ตอนเดินขึ้นก็จะมืดๆหน่อย ถ้ามาช่วงฤดูหนาว (ธค.-มค.) จะมีพญาเสือโคร่งสีชมพูเพิ่มความสวยของเทือกเขาไปอีก










ปีนี้จังหวะไม่ดี ฟ้าเปิดแค่แป๊บเดียว นอกนั้นฟ้าปิดหมอกฟุ้งขาว มองแทบไม่เห็นรูปพรรณสัณฐานของภูชี้ฟ้าเลย ขอเอารูปตอนปี 2006 มาให้ดูว่าถ้าฟ้าเปิดจะเห็นมันชี้ฟ้าแบบนี้

ภูชี้ดาว
บ้านร่มโพธิ์เงิน ม.11 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
ความสูง 1,670 ม.จากระดับน้ำทะเล
จากภูชี้ฟ้าไปตามถนน 1093 อีก 13 กม. มาจนถึงหมู่บ้านร่มโพธิ์เงิน จะมีทางแยกขึ้นไปจุดชมวิวบนภูชี้ดาว แต่ไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวทุกชนิดขึ้น ต้องติดต่อรถของหมู่บ้านเพื่อพาขึ้นไปเท่านั้น ทางขึ้นเป็นทางแคบชันและถนนไม่ดี ช่วงปากทางอาจเห็นเป็นถนนคอนกรีต แต่แค่ไม่กี่เมตรก็เป็นทางขึ้นเขาขรุขระนั่งรถกระเด้งกระดอนไปตลอดทาง ปกติเหมาขึ้นลงราคาคันละ 500 บาท แต่ถ้าเป็นฤดูท่องเที่ยว จะมีรถมาจอดรอตรงทางขึ้น นั่งรวมไปกับนักท่องเที่ยวอื่นๆได้ ราคาคนละ 100 บาท






ต้องการติดต่อรถล่วงหน้าได้ที่ 082-184-0504 หรือแจ้งที่พักให้โทรเรียกก็ได้ มีที่พักในละแวกใกล้เคียงหลายที่ หรือบางคนนอนแถวภูชี้ฟ้าเพราะสะดวกกว่า มีร้านขายของขายอาหารเยอะกว่า ก็ขับรถมาตอนเช้ามืดได้
นั่งรถขึ้นไป 3 กม. ประมาณ 20 นาทีก็ถึงจุดจอดรถ จากนั้นเดินขึ้นไปบนยอดเขาอีก 350 ม. เป็นขั้นบันไดเดินสะดวกแต่ค่อนข้างชัน ขึ้นถึงด้านบนแล้วจะเป็นลักษณะสันเขายาว มีรั้วกันตกทำไว้ตลอดแนว มาแต่เช้าๆระมัดระวังด้วย และอย่าปีนรั้ว เดินไปทางขวาตามแนวรั้วจะไปที่ปลายยอดเขามีป้ายภูชี้ดาวสีแดงแปร๊ด วันที่ฟ้าเปิดมองไปเห็นภูชี้ฟ้าได้ชัดเจน ถ้าเดินไปอีกด้านของสันเขา ปีนขึ้นยอดเขาอีกด้าน จะมองกลับมาเห็นยอดภูชี้ดาวกับแนวรั้วและทะเลหมอกรอบด้าน ควรค่าแก่การปีนขึ้นไปมากๆ













ภูชี้เดือน
บ้านร่มฟ้าหลวง ม.12 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย
ความสูง 1,742 ม.จากระดับน้ำทะเล
จากภูชี้ดาวไปตามถนน 1093 ต่ออีกแค่ 1 กม. จะเป็นทางขึ้นจุดชมวิวอีกจุดคือ ภูชี้เดือน ซึ่งไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวทุกประเภทขึ้นไปเช่นกัน ต้องติดต่อรถอีกหมู่บ้าน ไม่สามารถเหมารวมจากภูชี้ดาวได้ เขาคงตกลงแบ่งรายได้กันไว้ สามารถโทรติดต่อรถมารับจากที่พักก็ได้ ถ้าเป็นฤดูท่องเที่ยวก็จะมีรถมาจอดรอนักท่องเที่ยวเหมือนที่ภูชี้ดาวนั่นแหละ ราคาก็เท่ากันทุกอย่าง ติดต่อรถล่วงหน้าที่ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านวีรยุทธ 095-139-0666






จากทางแยกขึ้นไปเป็นทางผ่านป่าผ่านไร่กาแฟ คดเคี้ยวโค้งชันและทางแย่กว่าทางขึ้นภูชี้ดาวอีก ขึ้นไปถึงจุดจอดรถก็ชมวิวได้แล้ว แต่ถ้าจะขึ้นถึงยอดภูชี้เดือนก็เดินขึ้นยอดเขาอีกไม่ถึง 100 ม. ขึ้นไปถึงด้านบนก็เห็นวิวรอบด้านแล้ว แต่แนะนำให้เดินไปทางซ้ายเดินขึ้นยอดสูงสุดอีก 400 ม. จะอยู่บนจุดสูงสุดที่ 1,742 ม. มองเห็นได้รอบทิศ 360 องศาจริงๆ เห็นตั้งแต่ ดอยผาตั้ง ดอยผาหม่น ภูชี้ดาว ภูชี้ฟ้า



เดินขึ้นยอดสูงสุดของภูชี้เดือน ศาลเจ้าพ่อภูชี้เดือน






ดอยผาหม่น
บ้านร่มฟ้าผาหม่น ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จ.เชียงราย
ต่อไปที่จุดชมวิวอีกแห่ง คือจุดชมวิวดอยผาหม่น ห่างจากภูชี้เดือนมาราว 8 กม. ต้องติดต่อรถเพื่อพาขึ้นเหมือนเดิม ทางขึ้นเป็นทางแคบคดเคี้ยวเหมือนทุกที่นั่นแหละ จากจุดจอดรถด้านบนเดินขึ้นจุดชมวิวอีกแค่ 300 ม. (เรายังไม่เคยไปชมวิวที่นี่ แต่ถามเพื่อนที่เคยไป ก็บอกว่าสวยงามเหมือนกัน)
มีเกร็ดเล็กๆเกี่ยวกับจุดชมวิวดอยผาหม่นมาเล่า ตอนขึ้นภูชี้เดือนชาวบ้านที่ไปปลูกกาแฟชี้ให้ดูว่ายอดดอยผาหม่นคือยอดไหน และบอกว่ายอดดอยผาหม่นนั้นอยู่ในเขตประเทศลาวขึ้นไปไม่ได้ ก็เลยทำจุดชมวิวที่ดอยใกล้ๆ ขึ้นไปเพื่อชมดอยผาหม่นได้ใกล้ๆ ตรงที่ขึ้นไปอยู่บนเทือกเขาดอยผาหม่นแต่ไม่ใช่ยอดดอยผาหม่น งงมั๊ย ฮา….
ติดต่อรถกระบะเหมาได้ที่ พ่อหลวงสุรชัย 098-821-6338

ดอยผาตั้ง
บ้านผาตั้ง ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย

จุดชมวิวจุดสุดท้ายในเส้น 1093 คือดอยผาตั้ง เป็นจุดหมายในการท่องเที่ยวแถบนี้ของหลายๆคน จากถนน 1093 จะมีทางแยกขึ้นไปอีก 2 กม. ขับรถขึ้นไปเองได้เลย จากจุดจอดรถเดินขึ้นไปอีก 100 ม. ก็จะเจอศาลาทรงจีนเป็นศาลาอนุสรณ์นายพลหลี่ จากนั้นเป็นเทือกเขาแนวยาว เดินเที่ยวชมป่าหินยูนนาน ไปชมวิวที่ช่องเขาขาด ไปเนิน 101 ไป 102 ถึงเนิน 103 ระยะทาง 350 – 450 – 950 ม. ทางเดินไม่ลำบากไม่สูงชัน เป็นทางเดินยาวข้ามเนินเขา ขึ้นๆลงๆ มองเห็นวิวได้กว้างไกลมาก มาชมทะเลหมอกก็ได้ ชมพระอาทิตย์ขึ้นก็ได้ พระอาทิตย์ตกก็ดี














ปัจจุบันมีเปิดจุดท่องเที่ยวเพิ่มคือเนิน 104 แต่ขึ้นคนละทางกับเนิน 101-103 ต้องติดต่อรถกระบะท้องถิ่นให้ขับพาขึ้นไป แล้วต้องเดินขึ้นเขาต่อไปอีกราวๆ 450 ม. เป็นทางชัน (ถามเขามา ยังไม่เคยไปหรอก)

มาเที่ยวดอยผาตั้งนอกจากมีจุดชมวิวที่สวยงามแล้ว บ้านผาตั้งยังเป็นชุมชนจีนฮ่อ มีร้านอาหารจีน มีร้านกาแฟ ร้านน้ำชา อาหารขึ้นชื่อคือขาหมูหมั่นโถว ที่ต้มจนเปื่อยนุ่ม อร่อยเหาะ

ที่พักและร้านอาหาร ร้านกาแฟ ที่เราไปพักไปกินมา ตามรายทางจากเมืองเชียงรายมาถนนสาย 1093 อ่านได้ที่ > เที่ยวเชียงรายหน้าฝน
จุดชมวิวทุกจุดอยู่ในทิศเดียวกัน ถ้าวันที่ฟ้าเป็นใจ หมอกเยอะ หมอกสวย ขึ้นจุดชมวิวจุดไหนก็สวยเหมือนกันหมด จะต่างกันแค่มุมมอง บางที่มองได้รอบทิศชัดเจน บางที่มีหินมีต้นไม้เป็นฉากหน้าฉากหลังเพิ่มเติม ก็สวยงามแตกต่างกันเล็กน้อยแล้วแต่ใครชอบ ถามว่าวันเดียวเที่ยวได้หมดหรือไม่ ตอบว่าได้แน่นอนคือมานอนใกล้ๆภูชี้ฟ้า ตั้งต้นจากภูชี้ฟ้า ดูพระอาทิตย์ขึ้น ดูทะเลหมอก ลงมาแล้วไปต่อภูชี้ดาวได้เลย ก็จะสายหน่อยแต่หมอกยังมี ลงจากภูชี้ดาว แล้วไปต่อภูชี้เดือนได้อีก แต่ถ้าสายมากแล้ว หมอกก็เริ่มสลายตัว บางส่วนอาจฟุ้งและลอยขึ้นข้างบนบังยอดเขาไปบ้าง จากภูชี้เดือน ไปต่อที่ดอยผาหม่นไม่น่าจะได้เห็นทะเลหมอกแล้ว แต่ได้ชมทิวทัศน์สวยงาม ดูภูเขาสลับซับซ้อน เห็นแม่น้ำโขงไหลคดเคี้ยวด้านล่าง ลงจากจุดชมวิวดอยผาหม่น ก็ไปต่อดอยผาตั้ง ซึ่งจริงๆแล้วถ้ามีเวลา ควรนอนเพิ่มสัก 1 คืน รอดูแสงยามเย็น ดูพระอาทิตย์ตกที่ดอยผาตั้งก็น่าจะดี
> ความคิดเห็นส่วนตัว (ไม่มีดอยผาหม่นเพราะยังไม่เคยไปนะ) <
