Trip : Singapore (Oct. 2016)
Saturday
มีเหตุให้ได้มาสิงคโปร์อีกครั้ง เพราะมาเยี่ยมเพื่อนคนสิงคโปร์ที่เพิ่งคลอดลูกชายจ้ำม่ำน่ารัก บิน Jetstar เพราะราคาดี นั่งแป้บเดียวก็มาถึงสนามบินสิงคโปร์ที่ปรับปรุงดูแลให้ใหม่และทันสมัยอยู่เสมอ เพื่อนสาวกับสามีเอารถมารับที่สนามบินก็เลยสบายไม่ต้องลากกระเป๋าไปขึ้นรถบัสหรือรถไฟ

คราวนี้เลือกที่พักแถวไชน่าทาวน์ ก็เน้นกินอยู่ง่าย เก็บของเข้าที่พักแล้ว บ่ายว่าง คุณแฟนละคุณน้องที่มาด้วยยังไม่เคยไป Garden by the bay ก็เลยตกลงไปเที่ยวเล่นที่นี่ เพื่อนสิงคโปร์บอกว่าฉันขับไปส่งเธอนะ เที่ยวเสร็จแล้วโทรหานะ เดี๋ยวมารับ นางบอกขี้เกียจเข้าไปเปลืองเงิน 555
เราเคยมาแล้วเมื่อ 3 ปีก่อน ครั้งนั้นเดินมาจาก Marina Bay Sand ต้องมานั่ง Shuttle bus เข้าด้านในเสียเงิน 2$ คราวนี้เพื่อนมาส่งก็เลยได้เข้าด้านหน้าเลย ลงรถก็ถึงที่ขายตั๋ว เดินเข้าไปหน่อยเดียวก็ถึง ไฮไลต์ของที่นี่ “Supertree Grove” ได้เดินวนเวียนถ่ายรูปเล่นกันพักใหญ่ แต่คราวนี้ไม่ได้ขึ้นไปเดินด้านบน


เดินต่อเข้าไปที่ โดมดอกไม้ (Flower Dome) กับ โดมป่าเมฆ (Cloud Forest Dome) คราวก่อนเราเข้า Flower Dome อันเดียว คราวนี้มีเวลาเหลือเฟือเลยซื้อบัตร Double Pack เข้าทั้ง 2 โดมเลย
เริ่มแรกที่ Flower Dome ซึ่งด้านในจะมีการจัดสวนปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ที่เราประทับใจตั้งแต่ครั้งก่อนคือโครงสร้างของโดม โค้งสวยงามมาก เข้าไปเดินชมดอกไม้ใบหญ้า ซึ่งส่วนมากก็เป็นพันธ์ไม้เขตร้อน แอร์เย็นๆ เดินได้เพลินๆ





ไปต่อที่ Cloud Forest Dome ด้านในเหมือนป่าดิบชื้น ไฮไลต์คือน้ำตกสูง 30 ม. การเดินก็ต้องเดินตามทางเดินวนที่จัดไว้ วนขึ้นไปเรื่อยๆ ผ่านป่า มุดถ้ำอะไรไป จนถึงด้านบนสุด เขาจัดทางเดินไว้ได้ดีพอสมควร แต่คนไทยที่มีป่าเขามากมายอย่างพวกเราก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรนัก ก็เดินจนถึงด้านบน แล้วก็ลงลิฟต์กลับมา





พรรณไม้บางชนิดเอามาไม่ได้ ก็ทำปลอมมันซะเลย หม้อข้าวหม้อแกงลิงเลโก้ก็มีจ้า



แดดร่มลมตกพอดิบพอดี ถ่ายภาพแสงเย็นกันนิดหน่อย แล้วเดินกลับมาตรงต้นไม้ยักษ์ รอดูแสงสีเสียงตอนเกือบๆสองทุ่ม การแสดงก็ไม่มีอะไรมาก มีเปิดแสงวูบวาบวิบวับไปมาที่ต้นไม้ยักษ์ประกอบเสียงเพลง ดูได้พักเดียวพวกเราก็เบื่อ เลยโทรบอกเพื่อนว่าเสร็จล่ะ กลับเถอะ 555



คืนนี้เพื่อนและสามีขอเป็นเจ้ามือ กินดื่มเม้าท์มอยกัน ที่ Harbour Front มาช่วงเดือนตุลาคมเป็น Oktober fest ด้วย กรึ่มๆกันได้ที่ก็กลับที่พักกัน

Sunday
เช้าที่ 2 คุณเพื่อนมารับตอนสายๆพาไปกินบักกุ๊ดเต๋ที่ร้าน Song Fa ร้านดังฮ็อตฮิตพอสมควร เพื่อนว่าโชคดีที่วันนี้ไม่มีคิว มาถึงก็ได้โต๊ะเลย ให้นางเป็นคนสั่ง นางสั่งมาหลายๆถ้วยแยกกัน กระดูกหมูถ้วยนึง ตับถ้วยนึง แบบนี้ มีปาท่องโก๋ที่นางว่าให้เอาจิ้มน้ำซุปกิน ก็แปลกดี





Song Fa Bak Kut Teh 松發肉骨茶 มีหลายสาขามาก เลือกหาสาขาใกล้ที่พักไปลองชิมกันได้ https://songfa.com.sg/
อิ่มกันแล้ว พวกเราไปเดินเล่นกันแถว Keppel Bay เดินดูท่าเรือยอร์ชหรูๆหราๆ กับตึกเพนเฮาส์หรูหราแถบนั้น แล้วมานั่งจิบชากาแฟเม้ามอยกันที่ Marina at Keppel Bay





บ่ายๆแยกย้ายกันไป ก่อนไปเจอกันอีกทีช่วงเย็นที่บ้านเธอ เป็นปาร์ตี้ต้อนรับหลานชาย เด็กชาย Rhys จัดเลี้ยงกันที่ริมสระน้ำคอนโดมิเนียมของนาง ปาร์ตี้พี่น้องเพื่อนฝูง ซึ่งการมาสิงคโปร์คราวนี้ก็เพื่องานเลี้ยงนี่แหละ การเที่ยวเป็นของแถม 555
จบงานเลี้ยงแต่พวกเรายังไม่จบ มาสิงคโปร์ทั้งทีต้องไปแฮงค์เอ้าท์แถบ Clarke Quay กันหน่อย ด้วยว่าคืนนี้เป็นคืนวันอาทิตย์ ก็รู้สึกว่าเงียบเหงาไปหน่อย หรือว่าเดี๋ยวนี้มันไม่คึกคักเหมือนเมื่อก่อนก็ไม่รู้นะ ตามร้านก็มีคนนั่งแหละ แต่สมัยก่อนนี่คนแน่นชนิดเดินต้องเบียดกันเลย ตอนนี้เดินสบาย เลือกร้านนั่งจิบเบียร์ฟังเพลงคุยกันตามชอบ

Monday
เช้าวันที่ 3 พวกเราชาวไทย 3 คน นั่งรถไฟไป Fort Canning Park ไปดูทางเดินหอยโข่ง (เราตั้งเอง 555) กับอุโมงค์ต้นไม้สักหน่อย กว่าจะไปถึงก็สายโด่งเกือบ 11 โมง เราว่าแสงมันไม่สวยแล้ว เดินวนไปวนมาหามุมถ่ายรูปจนมึนก็ไม่เจอมุมสวยๆ อาจเป็นเพราะมาสายเกินและไม่ได้เอาเลนส์ไวด์มา (ทำไมไม่เอามาฟะ?!!!)

จากสถานีรถไฟเดินมาเรื่อยๆตามป้ายทางไปสวนจะผ่านบ่อมังกรที่น้ำขลุกขลิกแบบนี้ตลอดเวลา

สิงคโปร์มีดีที่สะอาด ทุกที่ไม่มีขยะ แม่จะอยู่ในซอกหลืบ




เดินวนไปวนมา ขึ้นไปชมสวนสาธารณะสักหน่อย และเดินต่อไปถึง Gothic Gate ลอดเข้าไปมีอาคาร Exhibition สีขาว ที่เป็นอาคารเก่าแก่ สวยงามกับสนามหญ้าสีเขียวสดด้านหน้า ก็ร้อนจนขี้เกียจไปต่อ ตามจริงแล้วดูจากแผนที่ยังมีที่ให้เดินไปดูได้อีกหลายอย่าง เช่นแนวกำแพงป้อมเก่า ปืนใหญ่ อะไรพวกนั้น แต่ควรมาบ่ายแก่ๆหรือเย็นๆนะ เดินสบายๆหน่อย เดินตอนใกล้เที่ยงแบบนี้เหงื่อไหลย้อยไม่ไหวจริงๆ




จะว่าร่มรื่นก็ไม่ใช่ จะว่าร้อนบรรลัยก็ไม่เชิง



Fort Canning Park > เดินทางโดย MRT ลงที่สถานี Dhoby Ghaut MRT Station เดินไปตามป้ายบอกทางไป Fort Canning Park


เดินร้อนๆกันมาสักพัก ก็ย้อนกลับมาแถบอุโมงค์หอยโข่ง แล้วข้ามสะพานที่นำไปสู่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติของสิงคโปร์ (National Museum) ซึ่งมันอยู่ตรงข้ามกันนั่นแหละ แค่ตัวอาคารแบบนีโอคลาสสิกก็สวยแล้ว มีทั้งส่วนอาคารเก่าและใหม่สร้างได้อย่างกลมกลืนกัน เข้าไปพักหลบแดด จิบกาแฟ แลประวัติศาสตร์ชาติสิงคโปร์กันสักพักค่ะ




พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสิงคโปร์ (National Museum of Singapore) > อยู่ตรงข้ามกับ Fort Canning Park
เย็นนี้มีนัดกับเพื่อนสมัยเรียนที่แต่งงานมาทำงานอยู่ที่สิงคโปร์นี้อีกคู่ มาสิงคโปร์คราวนี้ยังไม่ได้กินปูเหมือนมาไม่ถึง 555 เพื่อนเลยพาไป No Signboard สาขา Geylang ซึ่งเธอบอกว่าถูกกว่าสาขาในเมืองอย่างแถว Esplanarde หรือ Clarke Quay ที่คนนิยมไปกัน คนสิงคโปร์มักมากินกันที่นี่ เรื่องความอร่อยไม่ต้องพูดถึง ก็อร่อยเหมือนที่เคย อิ่มแล้วยังไม่จบ ต้องไปต่อของหวานกันที่เต้าฮวย เป็นเต้าฮวยเนื้อเนียนนุ่มใส่น้ำเชื่อมน้ำตาลทรายแดง นอกจากเต้าฮวยแล้วก็ยังมีขนมอื่นๆอีก อย่างถั่วแดง ทาร์ทไข่ ปาท่องโก๋ แต่เต้าฮวยนี่อร่อยสุด ติดใจเลยเจ้านี้



No Signboard Seafood ตอนนี้มี 4 สาขาแล้ว เลือกสาขาใกล้ที่พัก หรือยากได้ของดีราคาถูกกว่านิดหน่อยก็ไปสาขา Geylang อย่างเราได้ ดูรายละเอียดแต่ละสาขาและทางไปที่ > http://www.nosignboardholdings.com/restaurant-locator.html
Roh Chor Beancurd House มี 3 สาขา แต่ที่ Geylang เปิด 24 ชม. สาขาอื่นปิดประมาณตี 1 – ตี 2 ดูรายละเอียดและทางไปที่ > https://rochorbeancurdhouse.wixsite.com/home
Tuesday
เช้าวันสุดท้าย เดินเล่นเก็บตกแถวไชน่าทาวน์ แวะวัดพระเขี้ยวแก้ว แล้วเดินดูตึกสวยๆเก๋ๆ ไปจนถึง Maxwell Food Center กินข้าวมันไก่ กับลูกชิ้นปลา ปิดท้ายทริป

อาหารเช้า ไม่ระบุร้าน เจอร้านไหนเปิดก็จัดเลย อร่อยพอๆกันหมด





สีสันไชน่าทาวน์


Maxwell Food Center บรรยากาศเต๊นท์อาหารบ้านเรา แต่มีข้าวมันไก่เจ้าดังที่ไก่แสนนุ่มอร่อยซ่อนอยู่
/ ร้านข้าวมันไก่ Tian Tian Hainanese Chicken Rice สังเกตุง่ายๆ มีคนต่อคิวตลอดเวลา
แวะซื้อของฝาก Bee Cheng Hiang สาขาตรงไชน่าทาวน์สักหน่อย หรือใครจะไปซื้อที่สนามบินก็ได้ ตอนนี้มีสาขาทั่วไปหมดล่ะ แนะนำซื้อแบบชั่งกิโลอร่อยนุ่มกว่าทั้งหมูทั้งเนื้อ อันแบบทำสำเร็จใส่ห่อแยกเล็กๆมันแข็งกว่าแห้งกว่า ซื้อที่นี่จะได้ใส่กระเป๋าโหลดไปเลย เรียบร้อยก็ไปสนามบินด้วยแท็กซี่ มาคราวนี้หรูหรานั่งรถตลอด 555 มานึกๆดู มาสิงคโปร์คราวนี้ไม่เจอสิงโตเลยแฮะ 55555

Leave a comment