Trip : พัทลุง 2016
“พัทลุง” โดนจัดอยู่ในกลุ่มจังหวัดเมืองรอง คนมักจะมองข้ามไม่ค่อยได้อยู่ในจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวภาคใต้ อาจเป็นเพราะว่าพัทลุงไม่มีสนามบินก็เป็นได้ การจะมาถึงพัทลุงด้วยการนั่งเครื่องบิน จึงต้องต่อรถมาจาก สนามบินนครศรีธรรมราช, สนามบินหาดใหญ่ หรือสนามบินตรัง ถ้าจะเดินทางมาลงที่จังหวัดพัทลุงเลย ก็ต้องใช้บริการรถไฟไทย หรือรถทัวร์
เมื่อคราวที่ต้องลงไปทำงานหาดใหญ่ เลยได้โอกาสหาวันว่างเช่ารถขับไปเที่ยวพัทลุงกัน ใช้เวลาอยู่รอบๆทะเลน้อย ล่องเรือดูนกน้ำและดอกบัวในทะเลน้อย ขับรถชมสะพานเฉลิมพระกียรติ ๘๐ พรรษา แวะเยี่ยมเยียนควายน้ำ นอนบ้านปากประ ตื่นเช้าล่องเรือในทะเลสาบที่เต็มไปด้วยยอ สวยงามน่าประทับใจกับบรรยากาศทุกช่วงเวลา เมืองลุง ไม่น่าใช่เมืองรองแล้วนะ

สะพานเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา
สะพานยกระดับเชื่อมต่อ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ไป อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา ระยะทางประมาณ 5.5 กิโลเมตร เป็นเจ้าของสถิติสะพานยาวที่สุดในไทยแทนที่สะพานติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา แต่เดิมทางเส้นนี้เป็นถนนลูกรังที่โดนน้ำท่วมอยู่บ่อยๆเพราะตัดผ่านพื้นที่ชุ่มน้ำ (Ramsar Site) ที่ขนาบข้างไปด้วยทะเลน้อย ของจังหวัดพัทลุง และทะเลหลวง ของจังหวัดสงขลา ทางจังหวัดจึงมีโครงการสร้างเป็นทางยกระดับขึ้นมา โดยมี เอกชัย ศรีวิชัย มาจัดคอนเสิร์ทช่วยระดมทุนก่อสร้างด้วย สะพานนี้จึงมีชื่อเล่นว่า “สะพานเอกชัย” ชื่อจริง “สะพานเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐” และมีหมายเลขทางหลวงชนบท พท. 5050



ระหว่างทางจะมีจุดจอดรถให้ลงไปชมทิวทัศน์พื้นที่ชุ่มน้ำทั้ง 2 ด้าน ที่จะได้เห็นนกน้ำชนิดต่างๆ และพระเอก/นางเอกของที่นี่คือ “ฝูงควายน้ำ” ซึ่งมันคือ ควายปลักที่ปล่อยให้หากินอย่างอิสระในพื้นที่ชุ่มน้ำ ที่เพิ่งจะได้รับการประกาศให้เป็น “พื้นที่มรดกโลกทางการเกษตร” (Global Important Agricultural Heritage Systems หรือ GIAHS) นับเป็นพื้นที่มรดกโลกทางการเกษตรแห่งแรกของประเทศไทยด้วย ตามจุดจอดรถจะมีป้ายข้อมูลบอกชื่อสัตว์ต่างๆที่พบเห็นได้จากสะพาน มีการทำเลนจักรยานตลอดสะพานอย่างชัดเจน แม้รถจะไม่มาก แต่เมื่อจอดรถแล้วลงเดินถ่ายรูปก็ต้องระวังรถและจักรยานให้ดีด้วย


บ้านปากประ
ตำบลลำปำ อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง
ชุมชนชาวประมงเก่าแก่ริมคลองปากประ แหล่งน้ำสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดพัทลุงที่เอาไว้ใช้ในทางการเกษตร เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำมีป่าพรุขนาดใหญ่ และเป็นแหล่งประมงที่สำคัญ การมาเที่ยวบ้านปากประคือการมาพักผ่อน ทานอาหารใต้อร่อยๆจากร้านอาหารท้องถิ่น ตื่นเข้านั่งเรือออกไปดูวิถีชีวิตชาวประมง ถ่ายรูปแสงเช้ากับยอยักษ์นับร้อยในทะเลสาบลำปำ (ซึ่งก็คือผืนน้ำเดียวกับทะเลสาบสงขลานั่นแหละ ถ้าอยู่เขตจังหวัดพัทลุงเรียกทะเลสาบลำปำ อยู่เขตจังหวัดสงขลาเรียกทะเลสาบสงขลา)







การนั่งเรือเที่ยวบ้านปากประ ติดต่อเรือได้จากที่พักทุกที่ เขาจะติดต่อเรือให้มารับจากที่พักเลย ปกติก็จะพานั่งเรือล่องทะเลสาบ ดูยอยักษ์กับแสงเช้า แล้ววิ่งเรือลอดใต้สะพานเฉลิมพระเกียรต์เข้าสู่ทะเลน้อย ล่องนานแค่ไหนก็แล้วแต่ตกลงกัน




ทักทายน้องควายน้ำอีกครั้ง คราวนี้เจอน้องควายเผือกด้วย


ลอดสะพานเฉลิมพระเกียรต์เข้าทะเลน้อยแล้วนกจะเยอะมาก ถ่ายรูปสนุกสุดๆ






กลับมาที่พัก “ศรีปากประ” นอนต่ออีกหน่อยได้ สายๆค่อยเดินทางต่อ จากห้องพักวิวก็สวยไม่น้อย ชงกาแฟมานั่งจิบ รับลมเย็นดูวิวสวยๆ แถมมีเหยี่ยวบินโฉบไปมาให้ดูด้วย








อุทยานนกน้ำทะเลน้อย
ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
ทะเลน้อย แหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ของจังหวัดพัทลุง มีพื้นที่ประมาณ 30 ตารางกิโลเมตร ชุมชนชาวทะเลน้อยทำอาชีพประมง จับปลาน้ำจืดในทะเลสาบ และทำผลิตภัณฑ์จากต้นกระจูดที่มีอยู่ในทะเลสาบ รอบๆทะเลน้อยเป็นป่าพรุ มีสัตว์อาศัยอยู่มากมาย เช่นลิงแสม ลิงลม นาก เสือปลา และนกมากมาย เล่ากันว่าป่าแถบนี้เคยมีช้างป่าและจระเข้ชุกชุมมาก ตอนนี้ไม่เหลือแล้ว


เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย มีบ้านพักอยู่ใกล้ๆท่าเรือ สามารถเข้าไปจองได้ หรือจะนอนบ้านพัก รีสอร์ท ก็มีเปิดบริการใกล้ๆหลายที่ ร้านอาหารก็เยอะ นอนแถวนี้ตื่นแต่เช้าๆไปเช่าเรือนั่งล่องทะเลน้อย อากาศดี นกเยอะ มาถูกฤดูดอกบัวบานแน่นๆ สวยมากๆ ออกเรือแต่เช้าๆ สายแล้วแดดจะแรงมาก และบัวหุบ





ความโด่งดังของทะเลน้อยนอกจากมีนกมากกว่า 200 สายพันธุ์ ทั้งนกประจำถิ่นและนกที่อพยพมาตามฤดูกาล ให้นักส่องนกมาดู ก็เป็นทุ่งดอกบัวที่จะบานเต็มแน่นในช่วงเดือนมีนาคม ถึงเดือนพฤษภาคม ในทะเลน้อยมีบัว 4 สายพันธ์ุ คือ บัวหลวง บัวบา บัวเผื่อน และบัวสาย









นกที่เราเจอเยอะในทะเลน้อย คือ นกกระสา นกยางเปีย นกกระเต็น นกอีลุ้ม นกนางนวล นอกจากนั้นได้เจอเหยี่ยวแดงด้วย
พัทลุงยังมีที่เที่ยวอีกหลายที่ เช่น ทะเลหมอกควนนกเต้น หาดลำปำ น้ำตกอีกหลายที่ หรือย่านเมืองเก่าพัทลุง ครั้งนี้มีเวลาได้เที่ยวแค่แถบทะเลน้อยยังประทับใจขนาดนี้ พัทลุงมีดีกว่าเป็นเมืองรองนะเราว่า






















Leave a comment