Korea after Covid
May 2023

ได้กลับมาเกาหลีครั้งแรกหลังเปิดประเทศ ตั้งใจจะไปอัพเดตที่เที่ยวใหม่ๆ ย่านชิคๆ แต่ดวงไม่ดี ไป 4 วัน ฝนตกไป 2 วัน 2 คืน ☔️ เลยไม่ได้ไปไหนมากนัก หนักไปทางเข้าคาเฟ่ เดินช้อปปิ้ง ก็พอได้อัพเดตโซลหลังโควิดอยู่บ้าง

ไปเกาหลีหลังโควิด ก็มีขั้นตอนยุ่งยากกว่าสมัยก่อนนิดหน่อย
1️⃣ ขออนุมัติเข้าเมืองเกาหลีแบบออนไลน์ K-eta
การไปเกาหลีตอนนี้ก็ให้ทำเรื่องขออนุมัติเข้าเมืองล่วงหน้าก่อน โดยไปลงทะเบียน กรอกข้อมูลในเวปไซต์ http://www.k-eta.go.kr/ มีกรอกข้อมูล 4-5 step แต่ละ step ก็ไม่มากมาย ถามเรื่องทั่วๆไป ไม่ต้องแนบหลักฐานอะไรเลย มีแค่ต้อง upload passport กับรูปของเราเข้าไป และมีที่อยู่ที่เกาหลีที่ต้องใส่ก็หาชื่อโรงแรมไหนใส่ไปก่อนได้ (เมื่อได้รับอนุมัติแล้วก่อนบิน ให้เข้าเวปไป edit ที่อยู่ให้เป็นตามจริงด้วย) เมื่อกรอกไปจนครบจะมีให้จ่ายเงินค่าสมัครราคา 10,000 วอน ก็ประมาณ 300 บาท ตัดบัตรเครดิตหรือเดบิตได้เลย ข้อมูลที่ให้กรอกน้อยจนไม่รู้ว่าเขาพิจารณาอะไรว่าจะให้ผ่านหรือไม่ แต่เราไปเกาหลีมาแล้วหลายครั้งมาก ไม่เคยอยู่เกินกำหนดด้วย จึงมั่นใจว่าผ่าน และก็ผ่านตามคาด รอประมาณ 1-2 สัปดาห์แล้วแต่ช่วงคนขอเยอะหรือน้อย แล้วจะมี email มาแจ้งว่าคุณได้รับอนุมัติหรือไม่ ถ้าผ่านก็จะมีอายุ 2 ปี มีหลายคนสมัครไม่ผ่านเหมือนกัน วิธีนี้เราว่าดีนะ ไม่ผ่านก็ให้รู้ไปเลย ไม่ต้องบินไปแล้วโดนส่งกลับให้เปลืองค่าตั๋วเครื่องบิน
ดูวิธีการ apply k-eta จากวิดิโอนี้ได้ https://www.youtube.com/watch?v=uniP4VL3m6w หรือที่นี่ก็เวปคนไทยสอนละเอียดเลย https://www.youtube.com/watch?v=MilsN5cWNkg
ถ้า k-eta ได้รับอนุมัติแล้ว ก็ไม่ต้องไปใบกรอกใบขาเข้าอีก ไปถึงตม.เกาหลีก็ยื่นพาสปอร์ตให้เขาเลย เขาดูออนไลน์ก็เห็นแล้วว่าผ่าน หรือจะ Download ใบผ่านเอาไว้ในมือถือก็ได้ ใบจะหน้าตาเหมือนใบขาเข้าที่เคยกรอกสมัยก่อนเลย

เมื่อได้รับ email ว่า Approved ก็เข้าเวปไป Download มาได้หน้าตาแบบนี้ (แต่ไม่ต้องก็ได้นะ จนท.ไม่ได้ขอดู)
2️⃣ ลงทะเบียนข้อมูลสุขภาพเพื่อรับ Qcode
กรอกข้อมูลด้านสุขภาพที่เวป https://cov19ent.kdca.go.kr/cpassportal/biz/beffatstmnt/main.do?lang=en แนะนำให้ทำล่วงหน้าเพราะถามข้อมูลเยอะอยู่ และต้องมีข้อมูลที่พักด้วย เมื่อกรอกเสร็จแล้ว จะมี email กลับมาเป็น QR code ให้แคปหน้าจอไว้ได้เลย เมื่อตอนบินไปถึง ลงจากเครื่องแล้วเดินออกมาจะเจอเคาเตอร์ตรวจสุขภาพก่อน ซึ่งสมัยก่อนเป็นแค่เครื่องจับอุณหภูมิ ที่เราเดินผ่านไปได้เลย ยกเว้นตัวร้อนเกินมาตรฐานเครื่องจะแจ้งเตือน เจ้าหน้าที่จะเข้ามา แต่ตอนนี้ ต้องเอา QR code ที่ได้มาสแกนด้วยถึงผ่านได้ ถ้าไม่ทำมาก่อน ต้องไปยืนกรอกข้อมูลเอาไปส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจ เสียเวลา


ลงทะเบียนครบ จะได้รับ email ที่มี QR code เอาไปสแกนที่จุดตรวจ / ลงจากเครื่องจะเจอจุดตรวจ Q-code ก่อนเลย
ผ่านทั้ง 2 ขั้นตอนก็รับกระเป๋าแล้วเข้าเมืองได้เลย สมัยก่อนเราชอบนั่งรถบัสเข้าเมืองเพราะนั่งสบาย ลงรถใกล้ย่านที่พัก แต่รถบัสขึ้นราคาเกือบเท่าตัว เช่น จากสนามบินไปฮงแด เดิมราคา 10,000 วอน ตอนนี้เป็นราคา 17,000 วอน ก็เลยเลือกนั่งรถไฟเข้าเมืองประหยัดกว่า ซื้อบัตรเติมเงิน (T-money) ที่ร้านสะดวกซื้อไปเลย เติมเงินไว้ใช้เดินทางในโซลด้วย ค่ารถไฟเข้าเมือง 4,100 วอน ถ้าเลือกที่พักใกล้สถานีที่รถไฟจอดก็สบายและประหยัด ถ้าต้องต่อรถก็ลากกระเป๋าไปต่อรถไฟใต้ดินได้สะดวกอยู่ อย่างเราเลือกพักแถวสถานี Hong Ik Univer. ก็ง่ายเลยเพราะรถไฟจอดสถานีนี้ด้วย ลงแล้วลากกระเป๋าเข้าที่พักได้เลยไม่ต้องต่อรถอีก
✴️ เกาหลีมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างหลังโควิด ✴️
🔸ค่าเดินทางแพงขึ้นทุกอย่าง ทั้งค่ารถบัส ค่ารถไฟ ค่าแท้กซี่
🔸อาหารแพงขึ้น เครื่องดื่มแพงขึ้น
🔸ที่พักเล็กๆ ที่เคยพัก หลายที่ปิดกิจการไปเลย แต่ก็มีที่พักเปิดใหม่ขึ้นมาเหมือนกัน
🔸ร้านอาหารหลายร้านก็ปิดถาวรไปแล้ว แต่ร้านดังๆที่เคยกินอย่างร้านหมูย่าง ร้านไก่ ยังรอดอยู่
🔸ผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติแล้ว คนเกาหลีส่วนมากไม่ใส่ mask แล้ว แต่บางคนก็ใส่ซึ่งน่าจะป่วย ก็เป็นปกติมาตั้งแต่ก่อนมีโควิด
🔸นักท่องเที่ยวเริ่มเยอะ คนไทยก็แยะ เดินไปไหนได้ยินแต่ภาษาไทย
🔸ร้านเครื่องสำอางที่เคยมีทุกๆ 10 ก้าวเดิน หายไปจนหาแทบไม่เจอ เครื่องสำอางเข้าไปขายในชั้นวางตามร้าน Olive young และของมีแต่ตัวอย่าง จะซื้อจริงๆก็ไม่ค่อยมี เพื่อนบอกว่าเดี๋ยวนี้คนเกาหลีนิยมสั่งของ online ทั้งเครื่องสำอาง เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ทำให้หน้าชอปไม่ค่อยมีของ
🔸ร้านที่ผุดเป็นดอกเห็ดในตอนนี้คือ Selfie Studio คือร้านที่ให้เข้าไปถ่ายรูปเล่นได้ มีอุปกรณ์แต่งตัว มีฉาก มีไฟพร้อม ตุ๊กตุ่นตุ๊กตา หน้ากาก อะไรก็มี วัยรุ่นเกาหลีเข้าไปถ่ายรูปเล่นกัน ก่อนโควิดไม่เคยเห็น ตอนนี้มีเยอะมาก แต่ละร้านก็มีธีมเฉพาะตัวกันไป
➡️ ยอนนัมดง Yeonnam-dong 연남동

ไปคราวนี้ไม่ได้พักแถวฮงแดเหมือนที่เคย เพราะที่พักเต็มหมด! แม่เจ้า! มีรุ่นน้องแนะนำว่าให้พักเลยฮงแดไปหน่อย ที่ย่านยอนนัม ลงสถานีรถไฟเดียวกันคือสถานีฮงแด แต่ออกคนละ Exit เป็นย่านที่เราไม่เคยไป ตื่นตาตื่นใจมาก

ยอนนัม อยู่ถัดจาก ฮงแดไปนิดเดียว แต่อยู่คนละฝั่งถนน ถ้ามารถไฟใต้ดิน ก็ลงสถานีฮงแด แล้วออก Exit 3 เลย มีบันไดเลื่อน ลากกระเป๋ามา ขึ้นไปได้สบาย ออกมาแล้วจะเป็นปากทางย่านยอนนัมเลย บรรยากาศจะคล้ายๆกับย่านฮงแด มีถนนขนาบ 2 ข้าง มีเกาะกลางใหญ่มากตรงกลางที่เป็นทางเดินด้วย มีสวนสาธารณะด้วย ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีน่าจะสวยไม่น้อยเพราะเห็นต้นแปะก๊วยเต็มเลย แนวทางเดินนี้เดิมเคยเป็นเส้นทางรถไฟ มองเห็นแนวรางเก่าตลอดทาง สองข้างทางมีคาเฟ่เยอะมาก เน้นว่ามากกกก แถมน่ารักน่านั่งทุกร้าน ร้านช้อปปิ้งน้อยกว่าฮงแด แต่มีคาเฟ่เยอะ ผับก็มี ร้านอาหารก็มี เราชอบบรรยากาศมากเลย เดินลากกระเป๋าตรงเกาะกลางไปเรื่อยๆทางทำไว้ดีเรียบลื่น เดินสวนกับคนที่มาเดินเล่น มาวิ่งจ๊อกกิ้งก็มี มานั่งจีบกันก็เยอะ ทางเดินยาวประมาณ 1 กม. แต่ช่วงที่ร้านเยอะคึกคักมีประมาณครึ่งทาง ถ้าเดินต่อไปเรื่อย จะมีอาคารสูงเหมือนเป็นอาคารที่พักอาศัยเยอะๆ แต่ก็ยังแอบมีคาเฟ่เก๋ๆอยู่เหมือนกัน







เดือนพฤษภาคม ดอกไม้กำลังบาน มีกุหลาบปลูกเป็นแนวรั้วยาว กำลังออกดอกหอมฟุ้ง มีคนมาถ่ายรูปทั้งวัน






ร้านคาเฟ่ ร้านอาหาร wine bar ดูดีน่านั่งเต็มไปหมด ร้านนั่งดื่มมีเล่นดนตรีสดยามค่ำคืนก็มีหลายร้าน



➡️ ซองซูดง, Seongsu-dong, 성수동
ย่านชิคๆคูลๆใหม่ที่เราไม่เคยไป ก็เลยไปแวะเดินเล่นสักหน่อย นั่งรถไฟจากที่พักเราแถวฮงแดไปหลายสถานีหน่อย ใช้สายสีเขียว ลงที่ Tukseom station ย่านนี้กว้างมาก ถ้าออก Exit 3 เดินไปหน่อยจะเจอย่านชิคๆคูลๆอีกย่าน ที่เรายังไม่มีเวลาไปเดิน ขอติดไว้ก่อน คราวนี้เราออก Exit 8 เดินไปทาง Seoul Forest Park เข้าสู่ถนน Seoulsup 2-gil


Tukseom station เป็นสถานีที่ไม่ได้อยู่ใต้ดิน แต่ขึ้นลอยแบบ sky train ออก Exit 3 แล้วเดินตรงมาทาง Cartier store แล้วเลี้ยวซ้ายเดินไปเรื่อยๆ Seoul forest จะอยู่ขวามือ


ถ้ามารถเมล์ลงป้ายนี้นะ Seongsu 1-ga 2-dong Public complex ลงรถถึงเลย
Seoulsup 2-gil เป็นถนนที่ขนานไปกับสวนสาธารณะ ได้ชื่อว่า Seoul forest Cafe’ Street เพราะมีร้านคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขายของเก๋ๆ ร้าน selfie studio เท่ๆเยอะแยะ แต่ละร้านน่ารักน่านั่งไปหมด บ้านเรือนเป็นแบบดั้งเดิมแต่ปรับปรุงใหม่ให้เก๋ๆ มีทางเข้าไปในสวนได้ 2-3 ประตู กิจกรรมแถวนี้จึงมีการเช่าจักรยาน มีร้านที่จัด Picnic set ให้เอาไปนั่งปิคนิคในสวนแล้วค่อยเอาอุปกรณ์มาคืน จัดเป็นตะกร้าน่ารักมากๆ
หนุ่มๆสาวๆจะมาเดินเที่ยวเล่น เข้าคาเฟ่ ถ่ายรูปเก๋ๆ แต่มาเป็นครอบครัวก็เยอะ พาลูกๆมาเดินเล่น พาเข้าไปปั่นจักรยานในสวน แล้วออกมากินไอติม กินขนมหวาน บรรยากาศน่ารักดี


ร้านแรกปากทาง Seoulsup 2-gil คือ Samo Ondoh flagship store
ร้านกระเป๋าแบรนด์ดังที่กำลังฮอตฮิต ที่มีแต่ของวางโชว์ หยิบใบไหนไปถามก็ Sold out!











อยู่ชิดติดกับทางเข้าสวนได้เลย
🛏 แนะนำที่พัก
Park Avenue Cafe’ & Guesthouse
서울 마포구 성미산로26길 32-2
พิกัด 37.56246876288149, 126.9229623265416
https://naver.me/5BvtanhF
มาเที่ยวโซลคราวนี้ได้ที่พักแถวยอนนัม อย่างที่เล่าไว้ด้านบนแล้วว่า ให้ลงรถไฟสถานีมหาวิทยาลัยฮงอิก (รถไฟจากสนามบินก็จอดสถานีนี้) แล้วเดินมาตรง Exit 3 มีบันไดเลื่อน ขึ้นมาแล้วจะเจอถนน Yanghwa-ro 21-gil ที่มีเกาะกลางใหญ่ๆกับสวนเขียวๆ คือต้นทางของย่านยอนนัมแล้ว ที่พักของเราชื่อ Park Avenue Cafe’ & Guesthouse ไกลจากสถานีเข้ามาหน่อย คือเดินมาเรื่อยๆประมาณ 500 ม. ก็ครึ่งกม. แต่เดินสบายอยู่ล่ะ ไม่ถึง 10 นาทีก็ถึงแล้ว




ที่พักเป็นร้านกาแฟด้านล่าง ห้องพักอยู่ชั้น 2-3-4 มีลิฟต์ เจ้าของเป็นคู่หนุ่มสาวน่ารัก ผู้ชายพูดไทยได้นิดหน่อยด้วย ส่วนผู้หญิงภาษาอังกฤษดีทีเดียว ดังนั้นการสื่อสารราบรื่น ห้องพักขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ สะดวกสบายใช้ได้สำหรับ 2 คน ราคาคืนละ 88,000 วอน รวมอาหารเช้า ที่เขาจะตั้งป้ายบอกไว้ว่าพรุ่งนี้มีอะไร เป็นอาหารชุดเล็กๆพออิ่ม ถ้าไม่ติดว่าเดินไกลจากรถไฟไปนิด นับว่าดีเลยที่นี่ เราค่อนข้างชอบบรรยากาศโดยรอบ มีคนคึกคักตลอด แต่ไม่แน่นเหมือนย่านฮงอิก ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ เก๋ๆเยอะมาก แต่ร้านชอปปิ้งไม่ค่อยมี






นอน 3 คืน อาหารเช้า 3 มื้อ บิบิมบับ / บุโกลกิ / ข้าวผัดกิมจิ อิ่มอร่อยทุกวันเลย

ก่อนกลับต้องขอชิมกาแฟสักหน่อยว่า Best Americano จริงหรือเปล่า?
☕️ แนะนำคาเฟ่
มาเที่ยวเกาหลี โดยเฉพาะในโซล ก็จะมีคาเฟ่เต็มเมืองไปหมด ไม่ได้มาเกาหลีหลายปี ร้านเก่าๆบางร้านก็หายไป แต่ก็มีร้านใหม่ๆเพิ่มมาตลอด มาคราวนี้ก็เลยต้องมาอัพเดตร้านใหม่ๆกันหน่อย
Blue Bottle Coffee
1F Hongdae Rise Hotel
서울 마포구 양화로 130
https://naver.me/GjGjP1bl
ร้านกาแฟชื่อดังระดับโลก ที่มีสาขามากถึง 88 สาขา ใน 3 ประเทศ อเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ในโซลเองก็มีตั้ง 7 สาขา คราวนี้ได้ไปที่ Ryse Hotel อยู่ใกล้ย่านมหาวิทยาลัยฮงอิก ร้านอยู่บริเวณ Lobby ชั้น 1 ของโรงแรม ที่นี่เปิดเป็น pop up cafe’ ตั้งแต่ มีนาคม 2023 ไม่แน่ใจว่าจะเปิดถึงเมื่อไหร่ แต่ยังมีสาขาอื่นๆให้ได้ไปอีก อย่างแถว Myeongdong, Apgujeong หรือ Seongsu
กาแฟแบบ Hand brew มีเมล็ดให้เลือกหลายอย่าง จำไม่ได้ว่าเลือกอะไรมาแต่เป็นคั่วกลางอ่อน ออกมาหอมหวานใช้ได้เลย สมราคาที่แรงไม่ใช่น้อย บรรยากาศร้านก็โล่งๆเก๋ๆ ถ่ายรูปสวย




Como Yoon Flower shop & Dessert Cafe’
Kkomoyun Seoul Forest Branch
서울 성동구 서울숲길 50 1층
https://naver.me/IGGgqrwb
ร้านกาแฟที่เป็นทั้งที่ขายกาแฟ มีเบเกอรี่อร่อย และร้านจัดดอกไม้ ออกแบบร้านแนวสีดำ โล่งๆ แต่เรียบหรู มาร้านนี้ตอนที่จะมาเดินเที่ยว Seoul Forest Cafe’ Street แต่ร้านไม่ได้อยู่บน cafe’ street แต่อยู่ในละแวกไม่ไกลกัน เป็นร้านดังของหนุ่มสาวเกาหลี มีหลายสาขาอยู่เหมือนกัน นอกจากเป็นสาขาแล้วก็จะมี pop up cafe ตามที่ต่างๆด้วย
ขนมในร้านที่เด่นๆคือ Madeleine กับ Canale เพราะมีหลากชนิดมาก เลือกมาชิม 2 ชิ้น ก็ถือว่าอร่อย แต่ไม่ได้ว้าวมากมายนัก กาแฟถือว่าใช้ได้ แต่งร้านเก๋ๆ ถ่ายรูปสวย ที่น่าประทับใจอีกอย่างคือ เมนูไม่มีภาษาอังกฤษ พวกเราพยายามจะถามหา แต่บาริสต้าถามกลับว่าต้องการให้อธิบายเหรอ? ว่าแล้วฮีก็อธิบายเมนูร่ายยาว ด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงดีเด่นมาก






Yann Couvreur Pâtissier
Yeonnam-dong
서울 마포구 양화로21길 23
https://naver.me/GOQrmx7w
ร้านขนมอบชื่อดังจากฝรั่งเศส ที่เราเดินผ่านทั้งเช้าทั้งเย็น เพราะอยู่ถนนเดียวกับที่พัก อดใจไม่ได้ต้องเข้ามาชิม ขนมอบมากมายหลากหลายเต็มตู้น่ากินไปหมด จิ้มๆมาลอง 2-3 อย่าง อร่อยตามคาด ไม่หวานมากด้วย เครื่องดื่มก็ใช้ได้ ร้านใหญ่โตมี 2 ชั้น วันอากาศดีฝนไม่ตกคนชอบไปนั่งระเบียงนอกร้าน
มาหาข้อมูลเพิ่มเติมทีหลัง ถึงได้รู้ว่าร้านนี้เป็นร้านดังของฝรั่งเศส เคยได้รางวัล ‘Dessert of the Year’ หรือขนมหวานแห่งปีจาก LEBEY Guide ในปี 2014 กับเมนูซิกเนเจอร์ “Mille-feuille” ไม่รู้ว่าที่เกาหลีจะมีขนมนี้ให้สั่งบ้างหรือเปล่า เพราะที่ฝรั่งเศสเขาทำขายวันละ 50 ชิ้นเท่านั้น






Coffee Libre
Coffee Libre Myeongdong Cathedral Branch
서울 중구 명동길 74 명동성당
https://naver.me/5CpslT5D
ร้านกาแฟระดับพรีเมี่ยม มีเมล็ด Single origin ให้เลือกหลากหลายเลย ดูจากเวปมี 4 สาขา ที่สำคัญมีที่ยอนนัม แถวที่พักเราด้วย แต่เรามากินสาขามยองดง เพราะไปกิน Jjimdak แถวนั้นก็เลยแวะไปสาขานี้ อ่านมาจากรีวิวว่าเป็นร้าน Specialty coffee ระดับพรีเมี่ยม สาขานี้อยู่ในห้างที่อยู่ติดกับ Myeongdong Cathedral จะมองไม่เห็นตัวโบสถ์ ต้องเดินออกมาหันหลังไปก็จะเห็น สาขานี้ร้านจะเล็กๆ มีที่นั่งไม่มาก สายคาเฟ่ชอบถ่ายรูปอาจไม่ถูกใจ แต่กาแฟเขาดี คอกาแฟน่าจะชอบ



Seoul Pastry
Yeonnam Branch
서울 마포구 동교로41길 10 1층 (출처 : 네이버 플레이스)
https://naver.me/GfMligvb
ร้านเบเกอรี่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทย ร้านนี้เน้นเบเกอรี่มากกว่าเครื่องดื่ม ขนมมีชื่อคือ Cronut เป็นลูกผสมของ Croissant + Donut แล้วแต่งหน้าหรือใส่ไส้อะไรไปหลากหลายแบบ วันที่ไปฝนตก แต่คนก็ยังกางร่มเดินกันมานั่งกินเต็มร้าน ขนมน่าจะขายได้วันละเยอะมาก เพราะเห็นสาวๆเกาหลีมาซื้อกันคนละกล่อง ที่นั่งกินในร้านก็สั่งกันเต็มโต๊ะ พวกเราเพิ่งอิ่มข้าวเที่ยงมาเลยชิมได้แค่ชิ้นเดียว ก็อร่อยอยู่นะ แป้งนุ่มๆ แต่ครีมและไส้จะออกหวาน คนชอบหวานน่าจะชอบ
ร้านอยู่ในถนน Donggyo-ro 41-gil ย่านยอนนัม ถนนนี้มีต้นไม่ร่มรื่น บรรยากาศดีมากมาย ร้านก็แต่งน่ารัก คนเลยชอบมาถ่ายรูปกัน





OUR Bakery
Inchoen airport branch
ร้านเบเกอรี่ยอดฮิตที่เคยไปกินมาตั้งแต่ก่อนโควิด ตอนนั้นไปที่สาขากาโรสุกิล (เคยรีวิวไปแล้ว) จำได้ว่าร้านสวย ขนมปังอร่อย มีขนมที่เหมือน Pokky เป็นขนมปังเคลือบชอคโคแลต จำได้ว่าอร่อยดี ไปคราวนี้น้องที่ไปด้วยบอกว่า OUR มาเปิดสาขาที่สนามบิน อยู่ชั้นขาเข้าด้านริมซ้ายสุดเลย คือลากกระเป๋าออกมาเจอเลย พวกเราบินไปถึงช่วงเช้าเลยเข้าไปจัดกาแฟขนมปังกันหน่อย ร้านไม่สวยอะไรแต่มีขนมครบเหมือนสาขาในเมือง



🍽 แนะนำอาหาร
มาเกาหลีครั้งแรกหลังโควิดก็เห็นหลายๆอย่างเปลี่ยนแปลงไป แต่ที่ไม่เปลี่ยนแปลงคืออาหาร ของกินต่างๆ ยังหากินได้ ร้านใหญ่ร้านดังยังอยู่ ร้านเล็กๆก็ล้มหายตายจากไปบ้าง ร้านใหม่ๆก็เปิดมา งวดนี้ไปกินร้านเก่าที่เคยกินมาด้วย แล้วก็ไปร้านใหม่ที่น้องๆแนะนำมาด้วย มาสรุปกันว่าคราวนี้ไปกินอะไรมาบ้าง
Gangnam Pork Sanghoe Buffet
Hongik Univ. Branch
강남 돼지상회 무한리필 홍대점
서울 마포구 홍익로5안길 28 스퀘어빌 1층
https://naver.me/5i0JviEx
ร้านหมูย่างละแวกมหาวิทยาลัยฮงอิกมีเยอะมาก ที่เคยกินบ่อยๆ 2-3 ร้านก็ยังอยู่ แต่คราวนี้น้องๆที่ทำงานอยู่เกาหลีชวนมากินร้านหมูย่างแบบบุฟเฟต์ น่าจะมีหลายสาขา แต่ที่ได้ไปกินเป็นสาขามหาวิทยาลัยฮงอิก จะอยู่ฝั่งขวาของถนนหลัก ฝั่งที่มีร้านขายเสื้อผ้า ขายเคสมือถือเยอะๆ ไม่ใช่ฝั่งที่มีลานกิจกรรมที่มีคนมาร้องมาเต้น อธิบายยาก กด Naver map ไปแล้วกัน




ราคามีหลายแบบตามรูป พวกเราเลือกแบบ 15,900 วอนต่อคน ให้กินได้ในเวลา 3 ชม. มีทั้งหมู ทั้งเนื้อ ผัก ซุป เส้น อะไรๆตักได้ตลอด เนื้อหมูอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ ไม่ถึงกับดีเด่นมาก มีเนื้อวัวด้วย เนื้อก็คุณภาพจัดว่าดี พวกเราจัดไป 3-4 รอบ จุกๆ ไม่ถึง 2 ชม.ก็จอดแล้ว ไม่ไหว ใครอยากกินแบบจำกัดวงเงินก็ที่นี่ได้เลย






ANDONG JJIMDAK 아동찜닭
Myeongdong branch
서울 중구 명동10길 3
https://naver.me/xNlrohPG
อาหารยอดนิยมอีกอย่างของเกาหลีคือจิมดัก ที่เราเรียกง่ายๆว่าไก่วุ้นเส้น คือวุ้นเส้นเกาหลีผัดกับซอสใส่เนื้อไก่ เลือกได้ว่าเอาไก่ชิ้นธรรมดา หรือไก่ไม่มีกระดูกคือเลาะกระดูกแล้ว หรือจะเอาแบบใส่ต็อกมาด้วย หรือเพิ่มชีสก็ได้ เวลาพวกเราจะกินจิมดักนึกร้านไม่ออกก็ต้องไปเมียงดง ที่นี่มีร้านดัง ร้านดั้งเดิมอยู่ 2-3 ร้าน รู้สึกจะปิดกิจการไปแล้ว 1 ร้าน คราวนี้กินร้านนี้ เพราะมันใกล้ Myeongdong Cathedral ที่พวกเราจะไปกินกาแฟกันต่อ



ราคาก็แล้วแต่ขนาด มีขนาดเล็ก สำหรับ 2-3 คน ขนาดกลางสำหรับ 3-4 คน พวกเรามา 4 คน เลยสั่งกลางไป เราว่าเยอะเกินไปหน่อย เพราะวุ้นเส้นเกาหลีมันเหนียวหนึบ แน่นจุก แต่ตอนแรกไม่กล้าสั่งขนาดเล็ก เพราะการสั่งอาหารที่เกาหลีเขาจะดูจำนวนคนด้วย ถ้ามาหลายคนจะมานั่งแล้วสั่งอาหารน้อยเกินเขาไม่ให้ อย่างเช่น มา 5-6 คนแล้วขอสั่งจานเล็กเพราะแต่ละคนกินน้อยนี่ไม่ได้ เรามากัน 4 คนเลยสั่งขนาดกลาง ป้าถามย้ำ 2 ครั้งแน่ะ คงกลัวพวกเรากินไม่หมด เพิ่งมาเห็นโต๊ะข้างๆมา 4 คนก็สั่งจานเล็กได้ มื้อนี้ก็เลยอิ่มจนจุก หารกันแล้วคนละ 49,000 วอน รวมน้ำอัดลมด้วย

Noonaholdak Hongdae – Oven Chicken & Beer
NooNaHolDak Hagik Branch
인천 미추홀구 소성로 88 엑슬루타워아파트상가 1층
https://naver.me/GCujMAlz
มาเกาหลีทุกครั้งเราต้องหาโอกาสมานั่งแทะไก่จิบเบียร์ ซึมซับบรรยากาศวัยรุ่นเกาหลีสัก 1 คืน ความจริงก็ไม่ใช่แค่วัยรุ่นหนุ่มสาวหรอก คนวัยทำงานทั่วไปก็นิยมมานั่งร้านไก่กับเบียร์ ส่วนมากก็มากับเพื่อนกินไปคุยไปเฮฮาๆ ร้านปิดดึกดื่น ไปเที่ยวกลับมาดึกๆยังเคยมาแวะนั่งกิน ร้านยอดนิยมแถวฮงอิกมีหลายร้าน ที่เรากินกันบ่อยๆก็ Noona Holdak หรือ Oven chicken ก็น่าจะดังสุดแถวนั้น อยู่มาเก่าแก่ คนเต็มร้านทุกคืน แต่ให้ไปบอกพนักงานเขาจะพยายามจัดสรรที่นั่งให้เราจนได้เสมอ
ชื่อร้านไก่กับเบียร์ แต่หลายโต๊ะก็กินไก่กับน้ำอัดลม ไม่ได้ต้องสั่งเบียร์เสมอไปเขาไม่บังคับ แต่ไก่ทอดเกาหลีกินกับเบียร์เย็นๆมันเข้ากันดีนะ ถ้าใครเคยกินไก่บอนชอนมาจากเมืองไทย ก็น่าจะคุ้นเคย สั่งได้เลย มีชนิดไก่ให้เลือก จะปีก จะอก จะเอาไก้่ไม่มีกระดูกอะไรก็ว่าไป ซอสก็มีแบบซอสกระเทียม มีแบบหวาน แบบเผ็ด เลือกตามสะดวก เมนูอื่นๆก็มีให้สั่งด้วย อย่างโอเด้ง ที่เดินมาหนาวๆได้จิบซุปอุ่นๆก่อนจิบเบียร์เย็นๆมันดีมากๆ ของกินเล่นกับเบียร์ก็เยอะ ร้านไก่กับเบียร์นี่มากินเพลินๆก็ได้ กินเอาอิ่มก็ได้





วันอื่นๆก็กินเรื่อยเปื่อยไป มีทั้งอาหารญี่ปุ่นอย่าง Tendon หรือ Seolleongtang ต้มซุปกระดูกวัว ซุปร้อนๆกับข้าวสวยกินกับเครื่องเคียง เมนูโปรดของเราก็ได้กินอยู่ แถมคราวนี้ได้กินของที่ไม่ได้กินมานานมากๆ เพราะพี่ที่ไปด้วยเขาไม่ทานเนื้อวัว ร้านที่ไปเมนูไม่ใช่เนื้อมีอย่างเดียวคือ ซัมกเยทัง ไก่ตุ๋นโสม เมนูที่ถ้าซื้อทัวร์มาเที่ยวเกาหลี จะเป็นหนึ่งในเมนูมาตรฐานที่ต้องกิน แบบว่าไม่ได้กินถือว่ามาไม่ถึงเกาหลีกันเลย ซึ่งเราเคยกินครั้งเดียวตอนมาเกาหลีครั้งแรกแล้วไม่กินอีกเลย (เพราะมันไม่อร่อย) พี่เขาต้องสั่ง ไก่ตุ๋นโสม แล้วมันมาทั้งตัว เลยต้องช่วยกันกิน

삼계탕 / samgyetang / ซัมกเยทัง / ไก่ตุ๋นโสมเกาหลี
ไก่ทั้งตัวยัดไส้ด้วย ข้าวเหนียว รากโสม พริกไทย เกาลัด พุทราจีน และสมุนไพรอื่นๆ

설렁탕 / Seolleongtang / ซอลลองทัง / ซุปกระดูกวัว


“Just Tendon” ร้านที่ขายแต่เทนดง มีทั้งหมู ทั้งกุ้ง ทังปลา หรือผักล้วน มาพร้อมซุปและเครื่องเคียง
นี่แค่ชามเล็ก ยังกินแทบไม่หมด ร้านยอดฮิตแถวยอนนัมที่คนล้นร้านตลอดเวลา
Leave a comment