“ทรงวาด” ความใหม่ในความเก่า

บ่ายวันศุกร์ มีนาคม 2567

“ทรงวาด” ถนนเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ ๕ เป็นถนนที่พระพุทธเจ้าหลวงได้ทรงวาดผังให้ตัดถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยาขนานไปกับสำเพ็งและถนนเยาวราช (เป็นที่มาของชื่อว่า “ทรงวาด”) ในอดีตทรงวาดเป็นย่านการค้าสำคัญเพราะมีท่าเรือขนส่งสินค้าได้สะดวก เป็นชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่ ต่อเนื่องจากเยาวราชและสำเพ็ง กาลเวลาผ่านไปทรงวาดไม่คึกคักเหมือนเดิมเพราะไม่มีการขนส่งสินค้าทางเรือเข้ามาในเมืองชั้นในกันอีกแล้ว และเพราะกฎหมายห้ามรถบรรทุกขนาดใหญ่ไม่ให้เข้ามาขนส่งสินค้ากลางเมืองได้อีก ทำให้เหลือเป็นเพียงบริษัท สำนักงาน หรือที่พักอาศัย หลงเหลือร้านค้าส่งพืชพันธุ์ทางการเกษตรแค่ไม่กี่ร้าน

ถนนทรงวาดเงียบเหงาซบเซาไปช่วงหนึ่ง แต่ตอนนี้กลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่ครั้งนี้กลายเป็นหมุดหมายในการท่องเที่ยวแทนการค้าขาย มีทั้งนักท่องเที่ยวไทยและเทศ ที่ปัจจุบันกลับมาหลงใหลได้ปลื้มกับอดีต เพราะเป็นถนนที่มีอาคารเก่าแต่สวยงามให้ได้เข้าไปเดินเที่ยวชม ถ่ายรูป แถมด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟดีๆ หรือแกลเลอรี่ อาร์ตสตูดิโอ ที่ล้วนปรับปรุงร้านมาจากอาคารเก่า อยู่ตลอดถนนเส้นสั้นๆแค่ 1 กิโลเมตรกว่าๆนี้

การเดินทางเลือกได้หลายแบบ ถ้ามาทางเรือก็นั่งเรือด่วนลงท่าน้ำราชวงศ์ จะถึงถนนทรงวาดเลย หรือนั่งรถไฟใต้ดิน MRT ก็ลงสถานีวัดมังกร เดินทะลุเยาวราชและสำเพ็งมาก็ถึง หรือจะนั่งรถเมล์ ก็มีหลายสาย ลงป้ายบนถนนเยาวราชก็ได้แล้วเดินต่อมาอีกหน่อย หรือจะนั่งสาย 204 ก็จะมาสุดสายที่ท่าน้ำราชวงศ์เลย หรือเอาสบายสุดๆก็นั่งแท็กซี่มาก็ยังได้

พวกเราเลือกนั่งรถไฟใต้ดิน MRT ลงสถานีวัดมังกร แล้วแวะไหว้พระในวัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเน่ยยี่ กันเป็นที่แรก วัดยังคงปรับปรุงอยู่ แต่น่าจะใกล้เสร็จแล้ว เพราะเปิดพื้นที่ให้เห็นตัววัดได้บ้างบางส่วน

ไหว้พระเสร็จแล้วข้ามถนนเจริญกรุงเดินเข้าถนนราชวงศ์ตรงไปถึงถนนเยาวราช แล้วข้ามถนนเดินต่อไป มุ่งหน้าท่าน้ำราชวงศ์ ท่าเรือขนส่งเก่าแก่ในย่านนี้ เป็นจุดเริ่มต้นเดินเที่ยวย่านค้าโบราณตามถนนทรงวาด

ถนนทรงวาดในช่วงบ่ายๆ ยังพอคึกคักเพราะบริษัทและร้านค้ายังไม่ปิด หัวมุมถนนเป็นอาคารเก่าที่หลายๆคนเรียกกันว่าตึกแขก ของบริษัทมัสกาตี ที่เคยเป็นห้างขายผ้านำเข้าจากอินเดียของพ่อค้าแขก แต่ข้อมูลสืบค้นบอกว่าตึกแขกจริงๆอยู่ฝั่งตรงข้ามกันและโดนทุบไปแล้ว ตึกนี้ไม่มีข้อมูลว่าตึกอะไรของใคร เอาเป็นว่าสวยงามมาก แม้จะเก่าและทรุดโทรม

ตึกสวยหัวมุมถนนทรงวาดที่คนเข้าใจผิดว่าเป็น ตึกแขก มัสกาตี มาเนิ่นนาน

เดินต่อมาจะเจอบริษัทแป้งมันตรามังกร ที่คุ้นตาจากชั้นขายของในซุปเปอร์มาเก็ต มีบริษัทอยู่ที่นี่เอง ธุรกิจเก่าแก่ดั้งเดิมขึ้นชื่อของแถบนี้คือธุรกิจขายส่งพืชพันธุ์ทางเกษตร มีท่าเรือเอาไว้ขนส่งสินค้าเกษตรกันตลอดแนว ตอนนี้เหลือแค่ไม่กี่บริษัทที่ยังเปิดขาย

สำหรับคนที่ชื่นชอบอาคารสวยๆ น่าจะมีความสุขในการเดินเที่ยวถนนทรงวาด ตลอดสองข้างทางยังมีอาคารเรือนแถวเก่าแก่ ทั้งที่เก่าทรุดโทรมไม่สวยงาม และเก่าแต่สวยงาม มีเสน่ห์แตกต่างกันไป บางอาคารก็ปรับปรุงซ่อมแซมแล้ว บางอาคารก็ปิดร้าง รอคนมาซื้อต่อหรือเช่าทำกิจการต้อนรับนักท่องเที่ยวต่อไป

“อาคารผลไม้” ชื่อที่เรียกกันตามลวดลายปูนปั้นรูปเถาดอกไม้และผลไม้ประดับบนตึก
เป็นอาคารที่สวยที่สุดบนถนนทรงวาด

จุดกำเนิดของเจียไต๋ และเครือเจริญโภคภัณฑ์ในปัจจุบัน เริ่มต้นที่ย่านทรงวาด

เยาวราช สำเพ็ง ต่อเนื่องมาถึงทรงวาด เป็นชุมชนชาวจีนและชาวไทยเชื้อสายจีนขนาดใหญ่ แต่เมืองไทยเราอยู่ร่วมกันได้ทุกศาสนา จึงมีศาสนสถาน ทั้ง ศาลเจ้า มัสยิด และ วัด อยู่ในย่านเดียวกันได้เสมอๆ

ศาลเจ้าเล่าปุนเถ่ากง และ โรงเรียนเผยอิง

ศาลเจ้าอยู่ถัดจากร้านเอฟ วี และ ร้านอี_กา คาดกันว่าสร้างขึ้นโดยชาวจีนอพยพที่ขึ้นเรือมาตั้งรกรากในละแวกนี้ เดินทะลุศาลเจ้าไปด้านหลังจะเจออาคารเก่าแก่แบบยุโรป สีเหลืองสวยของโรงเรียนเผยอิง โรงเรียนที่ในอดีตสอนหนังสือด้วยภาษาจีน ปัจจุบันสอนทั้งภาษาไทยและจีน ว่ากันว่าผลิตเจ้าสัวในประเทศมามากมาย เช่น เจ้าสัวอนันต์ เจ้าพ่ออสังหาฯ, เจ้าสัวเจริญ ไทยเบฟ, เจ้าสัวอุเทน เตะชะไพบูลย์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง, คุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หรืออากู๋แกรมมี่ ไพบูลย์ ดำรงค์ชัยธรรม ก็เป็นศิษย์เก่าเผยอิง

มัสยิดหลวงโกชาอิศหาก

เดินตามถนนมาจนใกล้ตรอกสะพานญวน มีซอยเล็กๆที่มีกราฟฟิตี้รูปซาละเปาบนผนังอาคาร ปากซอยเป็นร้าน’กู่หลงเปา’ ร้านซาละเปาชื่อดังของทรงวาด เข้าตรอกไปจะเจอมัสยิดใจกลางชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน มีชื่อมัสยิดตามชื่อของผู้ริเริ่มก่อสร้าง หลวงโกชาอิศหาก (เกิด บินอับดุลลาห์) เป็นมัสยิดที่หน้าตาแปลกกว่าที่เคยเห็น ถ้าไม่บอกว่าเป็นมัสยิดก็คงคิดว่าเป็นบ้านคหบดีเก่าแก่สักคน

วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร (วัดเกาะ)

วัดสัมพันธวงศ์เป็นวัดเก่าแก่มากกว่า 200 ปี ประวัติว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ เดิมชื่อวัดเกาะ เพราะสมัยก่อนมีคูคลองล้อมรอบชุมชนจนเหมือนเป็นเกาะ เดินผ่านประตูวัดเข้าจะเห็นพระอุโบสถใหญ่โต 3 ชั้น พระอุโบสถนี้เป็นหลังใหม่สร้างแทนหลังเก่าที่ไม่สามารถบูรณะซ่อมแซมได้แล้ว สร้างเป็นอาคารแบบจตุรมุขทรงไทย 3 ชั้น มีมณฑปทรงปราสาทยอดอยู่บนหลังคาชั้นสูงสุด ชั้นบนสุดเป็นพระอุโบสถ ชั้นที่ 2 เป็นศาลาการเปรียญ และชั้นล่างใช้เป็นงานอเนกประสงค์ ด้านข้างอุโบสถมีตึกเก่าสีไข่ไก่กรอบประตูหน้าต่างสีเขียวสดคือ “ตึกพุ่มเทียนประสิทธิ์” เป็นโรงเรียนสำหรับเรียนพระปริยัติธรรม สร้างขึ้นด้วยเงินบริจาคของคุณย่าพุ่ม “พุ่ม เทียนประสิทธิ์” ตั้งแต่พศ. ๒๔๖๙

วัดปทุมคงคาราชวรวิหาร (วัดสำเพ็ง)

วัดเก่าแก่อีกวัดในชุมชน ที่อยู่เกือบสุดถนนทรงวาด วัดสำเพ็งเก่าแก่พอๆกับวัดเกาะ คือมีมาตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทน์ ในพระอุโบสถมี พระพุทธมหาชนก เป็นพระประธานที่ว่ากันว่าสวยงามมาก แต่ช่วงนี้วัดกำลังบูรณะซ่อมแซมก็เลยไม่ได้เข้าไปกราบ

ระหว่างเดินเที่ยวเล่นไปตามถนนทรงวาด แนะนำให้แวะพักเหนื่อย หรือหลบร้อน กับร้านอาหาร ร้านของหวาน หรือคาเฟ่ ที่มีแทรกตัวอยู่ตามตึกเก่าๆตลอดทาง หลายร้านเป็นร้านเก่าแก่ แต่ก็มีร้านแนวใหม่จากคนยุคใหม่แอบปลอมตัวอยู่ในอาคารเก่าๆอยู่ไม่น้อย

ร้าน เอฟ วี กับ ร้าน อี_กา เป็นร้านดังในย่านนี้ทั้งคู่ พวกเราเลือกร้าน เอฟ วี พักขาหลบแดดกันในวันที่อากาศร้อนๆ

เป็นร้านเครื่องดื่มและขนมหวานที่เป็นขนมไทย อาคารเก่าแก่ ตกแต่งด้านในให้เปิดโล่ง มีบ้านไทยจากมุกดาหารที่ยกมาสร้างเป็นชั้นลอยให้นั่งได้ ผนังประดับด้วยงานรูปภาพศิลปะแบบชวนงง แต่รวมๆแล้วบรรยากาศก็ดูดีมีเสน่ห์ พวกเราเลือกสั่งน้ำมะยงชิดปั่น กับชุดขนมไทยและชาไมยราป สุดท้ายคือไอติมเกล็ดน้ำแข็งฝรั่งพริกกับเกลือน ขนมไทยมา 3 อย่าง ดอกลำดวน โสมนัส สัมปันนี อร่อยจริง หวานน้อยตามสมัยนิยม ไอติมฝรั่งเป็นน้ำฝรั่งปั่นที่เอ่าไปแช่เย็นจนเป็นเกล็ดน้ำแข็งมาพร้อมพริกกับเกลือที่เราว่าเหมือนน้ำปลาหวานเทราดลงไป ได้รสเค็มๆหวานๆกับความเย็นจนเสียวฟัน

ร้านกาแฟ+โรงคั่ว ชงกาแฟกลิ่นรสระดับพรีเมี่ยม ในตรอกข้างศาลเจ้าเล่าปุนเถ่ากง ชอบในความตรงไปตรงมาของชื่อร้าน ร้านเดิมอยู่ในห้องแถวฝั่งตรงข้ามศาลเจ้า ย้ายเข้ามาอยู่ด้านในตรอกเพิ่มขนาดเป็น 2 ห้อง กว้างขวางขึ้น นั่งจิบกาแฟแอร์เย็นฉ่ำ บาริสต้าน่ารัก คุยเก่ง พวกเรานั่งเล่นกันจนร้านปิดเลยทีเดียว

ร้านเครื่องดื่มและของหวานที่ซ่อนตัวอยู่บนชั้น 2 ของตึกผลไม้ มาลองชิมตามนักชิมปิ่นโตเถาเล็ก กับขนมต่างๆที่จับขนมไทยมาใส่ขนมฝรั่ง คือการนำของหวานแบบไทยใส่ลงบนทาร์ต(Tart) ชิ้นเล็กๆน่ารัก ไปยืนเลือกดูจากตู้กระจกที่มีป้ายบอกคำอธิบายไว้พอเข่าใจเช่น Mayongchid: ทาร์ตมะยงชิดบนข้าวเหนียวใบเตยกับคาราเมลอบเชยและครีมชีสมะพร้าว หรือ Golden Drops: ทาร์ตสาคู+แห้วและมูสกะทิตกแต่งด้วยทองหยอดเม็ดเล็กจิ๋วๆ อยากชิมหลายอย่าง แต่มาคนเดียวเลยสั่งแค่ 2 ชิ้น เลือก Piak Lamyai ที่เป็นทาร์ตลำไยลอยแก้ววางบนมูสกลิ่นมะลิโรยด้วยเม็ดเล็กๆของคาเวียร์มะพร้าว กับ Going Bananas คือทาร์ตชิ้นเล็กกับกล้วย 4 ชิ้น รสเค็มหวานคล้ายกล้วยบวชชีและโมจิชิ้นเล็กข้างบน ทั้ง 2 ชิ้นอร่อยพอสมควร แต่ละชิ้นราคาไม่ถูกนัก ให้เป็นค่าความคิด ถ้ามาหลายคนสั่งเป็นชุดมาเลย 5 ชิ้น

เครื่องดื่มมีให้เลือกหลากหลายเหมือนร้านคาเฟ่ทั่วไปทั้ง ชา กาแฟ ร้อน เย็น เราเลือกสั่ง Gek Huey Black Coffee คือกาแฟใส่น้ำเก๊กฮวยนั่นเอง กาแฟที่นี่เป็น Slow bar ไปนั่งดูบาริสต้าค่อยๆทำ Espresso shot เพลินๆ หันมองรอบๆดูผนังอาคารเก่ากับกระจกสีที่แสงอาทิตย์ส่องผ่านเข้ามาได้จนสว่างไสว แอร์เย็นสบาย

บนถนนทรงวาดมีร้านห่านพะโล้เก่าแก่มากว่า 60 ปี ชื่อเสียงโด่งดังมานาน ขายดิบขายดีชนิดต้องเตือนว่าใครมาช้าห่านหมดอดกินได้ง่ายๆ ร้านเปิดขาย 10 โมงเช้า บางวันเที่ยงก็หมดแล้ว อย่างช้าก็บ่ายโมงหมด ได้ยินชื่อเสียงมานาน สบโอกาสเมื่อคราวไปธุระแถบนั้นตอนก่อนเที่ยง เดินไปเสี่ยงดวง โชคดีมีที่นั่ง พอเที่ยงตรงคนก็มายืนรอคิวกันแล้ว ที่นี่ขายแต่ห่านพะโล้เป็นจาน กินกับข้าวสวย มีซุป 1-2 อย่างต่อวัน

ห่านพะโล้เป็นจานมี 3 ขนาด 3 ราคา เล็ก(250) กลาง(400) ใหญ่(800) ถ้าเอาทั้งตัวก็ 1,600 แต่ถ้าจังหวะดีจะมีขนาด XS ราคา 150 บาทให้สั่งได้ อย่างวันที่เราไปคนเดียว ก็สั่งขนาดเล็กมินิ ซึ่งมันคือชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่เลาะออกมาจากตัวห่าน ชิ้นใหญ่ๆเขาก็หั่นเรียงกันงามๆแบบไก่หรือเป็ดบนข้าวมันไก่ข้าวหน้าเป็ดนั่นไง อันนี้จะเรียกว่าเศษห่านก็จะดูไม่น่ากิน เอาเป็นว่าห่านชิ้นไม่สวยแล้วกัน แต่เราไม่สนใจหน้าตา สนใจที่รสชาติ ซึ่งขอสรุปความว่า อร่อยจริง สมคำร่ำลือ เนื้อห่านนุ่มมาก ไม่มีกลิ่นสาบ น้ำราดก็ไม่เค็มจัด น้ำจิ้มพริกเหลืองกลมกล่อม สั่งซุปสาหร่ายร้อนๆมาซดคู่กัน หมดข้าวไป 2 จาน สิ่งที่ชอบของร้านนี้อีกอย่างคือ ไม่ว่าคุณจะมากี่คน เขาจะให้น้ำชาคุณ 1 เหยือก กินกันให้ชุ่มปอด ร้านเปิดขายทุกวัน หยุดเฉพาะวันพระจีน ก็ต้องดูปฏิทินจีนกันเอาเองนะ

ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นของคนรุ่นใหม่ที่มาเช่าห้องแถวในอาคารเก่ากลางถนนทรงวาด (ตึกผลไม้) ร้านใหม่แต่ทำได้อร่อยทีเดียว วันนี้แค่อยากลอง เลยสั่งเกาเหลา กับเส้นลวกมาแบ่งกันชิม ความแปลกของโรงกลั่นเนื้อคือปาท่องโก๋ ที่ให้สั่งมากินกับเกาเหลา ร้านโรงกลั่นเนื้อเป็นเจ้าของเดียวกับร้านกาแฟทรงวาด หน้าร้านกาแฟก็มีกระดาษสีสดใสแปะไว้เหมือนสะกดจิตว่า จงไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อต่อ~~ “Go for Beef noodle”

หัวมุมปากตรอกทางเข้ามัสยิดหลวงโกซาอิศหาก มีร้านซาละเปาเก่าแก่ดั้งเดิมของย่านทรงวาด ที่เห็นแล้วต้องขอซื้อกลับบ้านมาชิมว่าจะอร่อยสมคำร่ำลือหรือเปล่า ซาละเปาโบราณสูตรแต้จิ๋วเก่าแก่มาถึงทายาทรุ่นที่ 7 ทำสดใหม่ทุกวันมีหลายไส้ให้เลือก ทั้งไส้เค็มไส้หวาน ตัวแป้งจะนุ่มหนา ไม่นุ่มนิ่มบางเบาแบบซาละเปาปัจจุบัน ลองสั่งไส้หมูสับไข่เค็มกับไส้หมูแดงมาชิม ก็ถือว่าใช่ได้ แป้งแน่นๆ ไส้อร่อยดี

ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา มี 2 ร้านเด็ดบนถนนทรงวาด ที่เราว่ามันอร่อยแทบไม่ต่างกัน เลือกได้ว่าชอบเลข 3 หรือเลข 5 ใครเชื่อใจปิ่นโตเถาเล็กพาชิมก็กินลิ้มเล่าซา ใครเชื่อใจเชลล์ชวนชิม+มิชลินด้วยก็กินลิ้มเหล่าโหงว ลิ้มเล่าซาเปิดบ่าย 3 ส่วนลิ้มเหล่าโหงวเปิดบ่าย 4 (ไม่เปิดบ่าย 5 ตามชื่อเนอะ) คราวนี้เราเดินเล่นจนมืดแล้วเลือกกิน ลิ้มเหล่าโหงว เพราะเพื่อนบอกว่าหมูสะเต๊ะที่ขายข้างๆกันนั้นอร่อยมาก แต่มาไม่ทัน มาถึงก็ขายหมดแล้ว เสียดายไม่ได้ชิมว่าอร่อยจริงมั๊ย ทั้งลิ้มเล่าซา และ ลิ้มเหล่าโหงว มีหลายสาขาทั่วกรุงเทพ แต่ได้มานั่งกินที่ถนนทรงวาดนี่มันได้ทั้งรสชาติและบรรยากาศ

ลิ้มเล่าซา “ลูกชิ้นปลาเต้นได้”

ลิ้มเหล่าโหงว ลูกชิ้นปลาก็เต้นได้

ร้านอื่นๆก็ยังมีอีกหลายร้าน อย่างร้าน A Rabbit ที่เป็นสาขากับร้านที่ท่าเตียน หรือร้าน Pieces Café & Bed ร้านกาแฟและที่พักน่ารักๆในตรอกสะพานญวน หรือร้าน ไอศกรีมเกาลัดหิมะหนูรี่ ที่เขาบอกว่าเป็นเจ้าแรกเจ้าเดียวที่เอาเกาลัดมาเป็นท้อปปิ้งบนไอศครีม หรือร้าน Bad Poutine ที่ขายมันฝรั่งทอดสไตล์แคนาดา เป็นเฟรนช์ฟรายส์ทอดราดด้วยน้ำซอสเกรวี่และชีส เมนูชื่อแปลกที่มาเปิดขายให้คนไทยได้รู้จัก

Rabbit ร้านกาแฟกับเบเกอรี่อร่อย ที่มีเอแคลร์รูปหงส์คอยาวที่เราชอบ

Pieces Space กับ ไอศกรีมเกาลัดหิมะหนูรี่ ในตรอกสะพานญวน

ร้าน Bad Poutine ที่แทบจะเดินผ่านไป เพราะนึกว่าร้านขายกาแฟ (ครั้งหน้าต้องลองชิม)

Road of Cinnamon เป็นร้านขายของแบบคัดสรรมาจากหลายที่ทั่วไทย
เจ้าของเดียวกับ โรงคั่วกาแฟถนนทรงวาด และ โรงกลั่นเนื้อ

ความศิลปะบนถนนทรงวาด มีแทรกตัวอยู่ในอาคารเก่าตลอดถนน ทั้งแกลเลอรี่ ทั้งเวิร์คชอปงานศิลป์ ร้านขายงานศิลปะหลากหลาย มาเดินเที่ยวบนถนนทรงวาดต้องค่อยๆมองดูว่าแต่ละอาคารแต่ละห้องว่ามีอะไรซ่อนอยู่ ถ้าไม่ตั้งใจอาจเดินเลยผ่านไปแบบไม่รู้ตัว

อาคาารเก่าเดิมเคยเป็นที่เก็บรองเท้า ปรับปรุงใหม่ทาสีน้ำเงินเข้มเปลี่ยนเป็น Play Art house แกลเลอรี่แสดงงานศิลปะบนถนนทรงวาด

“TARS Unlimited” Art space อีกแห่งของย่านทรงวาด ในอาคารเก่าทางเข้ามัสยิดหลวงโกชาอิศหาก⁣

ผ่านวันเวลามากว่า 100 ปี ถนนทรงวาดที่เคยเป็นแค่ย่านการค้า ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีผู้คนต่างถิ่นเข้าเดินเล่น กิน เที่ยว จนถึงมาพักอาศัย ทำให้เริ่มมีที่พักเปิดบริการหลายแห่ง ดำเนินการโดยคนรุ่นใหม่ ตอบโจทย์การท่องเที่ยวที่แค่เดินทะลุตรอกไปก็เจอกับความคึกคักของเยาวราช สำเพ็ง หรืออยากจะนั่งเรือเที่ยวก็มีท่าเรือให้เดินไปได้ไม่ไกล

บ้านทรงวาด ที่พัก Air Bnb ที่เจ้าของเป็นคนนอกพื้นที่ แต่เข้ามาเช่าและปรับปรุงอาคารเก่าให้สวยงาม รับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้แบบไม่มีวันว่างเพราะทำเลทองของที่พัก ติดเยาวราช และมีท่าเรือใกล้ๆ / URBY Hostel สุดเก๋ในทรงวาดที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา

กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาใช้ชีวิตทำมาค้าขายในย่านเก่าแก่แห่งนี้ รวมตัวกันเป็นกลุ่ม Made in Song Wat เพื่อร่วมกันส่งเสริมชุมชนให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง เชิญชวนให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำความรู้จักกับ ‘ทรงวาด’ โดยนำเสนอสิ่งใหม่ๆแทรกเข้าไปกับสิ่งเก่าๆ เช่น สตูดิโองานอาร์ตสมัยใหม่ในอาคารเก่า หรือ ร้านที่อาหารฟิวชั่น ตกแต่งด้านในสวยงามด้านนอกยังเป็นอาคารรูปทรงโบราณ คาเฟ่เก๋ๆตามสมัยนิยมก็แทรกตัวอยู่ในอาคารเก่าๆเหล่านี้

จากชุมชนชาวจีน ย่านการค้า ที่เงียบเหงา ฟื้นคืนชีพกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างชาติพากันเข้ามาเดินเที่ยวเดินชมเดินชิม

“บุกรุก” ผลงาน Street Art ของ Roa ศิลปินชาวเบลเยียม ที่กลายเป็นแลนด์มาร์คของถนนทรงวาด

งานศิลปะใหม่ๆยังมีเพิ่มอยู่เรื่อยๆ

(ผ่านไปสิบกว่าวันยังไม่ทันอัพรูป กลับไปทรงวาดอีกครั้งภาพกราฟิตี้เสร็จแล้ว)

Leave a comment