เที่ยวลาวด้วยรถไฟความเร็ว(เกือบ)สูง
[เวียงจันทน์ – วังเวียง – หลวงพระบาง]
ปลายพฤษภาคม 2567
ทริปไฟไหม้ แบบว่าจองตั๋วเครื่องบินปุบปับไปเลย เวียงจันทน์ – วังเวียง – หลวงพระบาง 5 วัน 4 คืน เดินทางด้วยรถไฟความเร็วปานกลาง | (EMU) ปลายเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงปลายหน้าร้อนต่อหน้าฝน ใครเขาเที่ยวกัน ฮา…. แต่พวกเราไป

ทริปนี้การเดินทางระหว่างเมือง นั่งรถไฟลาว-จีน แนะนำจองตั๋วล่วงหน้า จองเองได้จากแอพ เลือกเที่ยวรถที่ต้องการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิตได้เลย แล้วจะได้เป็น QR Code มา ใช้แทนตั๋วได้เลย ตรวจตั๋วโดยการสแกนทั้งตอนเข้าที่สถานีต้นทางและตอนออกที่สถานีปลายทาง
Download app LCR Ticket https://apps.apple.com/th/app/lcr-ticket/id6444795307 จองล่วงหน้าได้ 3 วัน



แผนเที่ยวคราวนี้ง่ายมาก คือไม่มีแผนเที่ยว ไปคิดเอาวันต่อวัน

ที่เที่ยวที่กินหลายที่จะซ้ำกับทริปปีก่อน ไปตามดูรีวิวละเอียดได้ที่ > เที่ยวลาว ฉบับเน้นกินไม่เน้นเที่ยว <
เวียงจันทน์ | Vientiane | ວຽງຈັນ
ตั้งต้นทริปที่เมืองหลวงเวียงจันทน์ บินมาจากสนามบินดอนเมือง ด้วยสายการบินหางแดง เที่ยวบินทรมานร่างกาย เพราะต้องตื่นตี 4 มาถึงสนามบินตี 5 เริ่มขึ้นเครื่อง ตี 5:45 อันนี้บ้านเราใกล้มากนะ คนอื่นบ้านไกลกว่านี้ตื่นกันแต่ตี 3 แต่ถ้าไม่เอาเที่ยวนี้มันมีอีกทีก็เที่ยงไปเลย เสียเวลาไปครึ่งวัน เลยเลือกเที่ยวนี้กัน ทรมานแท้

เที่ยวบินทรมานสังขาร



มาถึง ท่าอากาศยานสากลวัตไต เมืองเวียงจันทน์แต่เช้า ออกมาแลกเงินก่อน เอาเงินไทยแลกได้เลย ไม่ต้องพกดอลลาร์แล้ว สกุลเงินลาวคือ เงินกีบ (LAK สัญลักษณ์: ₭ หรือ ₭N) อัตราแลกเปลี่ยนตอนที่ไป (พค. 2567) สิบพันกีบ ประมาณ สิบห้าบาท (10,000 LAK = 15 THB) มากัน 6 คน วางกองกลางคนละ 2,000 บาทรวม 12,000 บาท ได้เงินมา 7,740,000 กีบ กลายเป็นเศรษฐีกันเลยทีเดียว (ถ้าไม่แลกเงินกีบ เงินไทยใช้ได้ทั่วไปในลาว แต่เราจะขาดทุน เงิน $ ก็ใช้ได้ บางร้านอาหารใหญ่ๆบอกราคาเป็น $ ก็มี)


เศรษฐีเงินกีบ ประเดิมจ่ายค่ารถเข้าเมืองก็ 172,00 กีบแล้ว (รถตู้ 10 ที่นั่ง)


มีเวลาอยู่เวียงจันทน์ประมาณค่อนวัน มีเราคนเดียวที่เคยมาลาว ก็เลยได้เป็นคนนำเที่ยว ที่เที่ยวเวียงจันทน์มีไม่มากมายเลย มากี่ทีก็เที่ยวเท่าเดิมตามนี้

ตั้งต้นจากที่พัก City Inn Hotel (ฝากกระเป๋า)
>> เรียกรถไปกิน Pho Zap ระยะทาง 1.3 กม. รถตุ๊กๆเรียกค่ารถคนละ 30,000×6 ลดให้เหลือ 150,000 กีบ ประมาณ 250 บาท
>> เดินกลับมาจิบกาแฟหลบแดดที่ Joma Bakery สาขา Nam Phou
>> กลับโรงแรมมา Chk-in
>> เดินไป วัดสีสะเกด / หอพระแก้ว ค่าเข้าที่ละ 30,000 กีบต่อคน
>> เรียกรถไป วัดธาตุหลวง ค่าเข้า 30,000 กีบต่อคน (ให้รถรอแล้วพาไปส่งห้าง ค่ารถ 240,000 กีบ 360 บาท)
>> Parkson mall เที่ยวห้างหลบร้อนกันหน่อย
>> กลับโรงแรม พักผ่อน ค่ารถอีก 100,000 กีบ 150 บาท
>> เย็นเดินไปกินส้มตำร้าน 3 เอื้อยน้อง แล้ว Drink ต่อที่ 2 Day 2 Night
>> เรียกรถไป ประตูชัย ค่ารถไปกลับ 300,000 กีบ
>> เที่ยวผับลาวใกล้ๆโรงแรม ร้านโกดัง
>> กลับโรงแรม

กินเฝอร้านเฝอแซ่บ อร่อยเหมือนเดิม > 📍 พิกัด ເຝີແຊບສີສະຫວາດ GPS : 17.971761914607143, 102.61756033113178




หลบร้อนจิบกาแฟกับเบเกอรี่อร่อยที่ Joma สาขา Namphou
📍 พิกัด Joma Bakery Café Nam Phou / GPS: 17.964688577479336, 102.60709017736724

เวียงจันทน์อากาศร้อนไม่ต่างจากไทย แต่ยังมีบ้านเก่าและต้นไม้ใหญ่อยู่พอสมควร พอให้เดินดูสบายตา

วัดสีสะเกด มากี่ครั้งก็ประทับใจ

จากวัดสีสะเกด ข้ามถนนมาหอพระแก้ว

นั่งตุ๊กๆมาวัดธาตุหลวง วัดคู่เมืองเวียงจันทน์


มาเดินเล่น Parkson, Shopping mall ของเวียงจันทน์ มีร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร มี Starbuck ด้วย



Vientiane Center เป็นอีกห้างที่อยู่ติดกัน น่าจะเป็นของจีนเพราะมีธงแขวนหน้าห้าง
มี Mixue ร้านไอศครีมและชานมหวานตัดขาเจ้าดังของจีน แล้วก็มี Major cineplex ด้วย

เดินเรื่อยเปื่อยเจอกราฟฟิตี้ด้วย เพิ่งจะเคยเจอที่ลาว



มื้อเย็นพาสมาชิกมากินส้มตำที่ 3 เอิ้อยน้อง เพราะติดใจจากคราวก่อน
จานเด็ดคือส้มตำ ยำแหนม ปอเปี๊ยะสด / ตำเวียงจันทน์ใส่ปลาร้า อร่อยนัวไม่มีกลิ่น / ตำหลวงพระบางใส่น้ำปูไม่ใส่ปลาร้า อร่อยมาก
📍 GPS : 17.96431385579508, 102.60244030647627 (พิกัดบอกรถคือ ร้าน 3 เอื้อยน้องหน้าวัดจันทะบุรี)



นั่งตุ๊กๆไปประตูชัยตอนกลางคืน โชคร้ายวันนี้ไม่เปิดน้ำพุ ไม่เปิดแสงสีเสียงด้วย เขาบอกว่าหน้าแล้งไม่เิดน้ำพุ



มาเที่ยวผับกับวัยรุ่นลาวดูบ้าง คนขับตุ๊กๆแนะนำมา ร้านอยู่ไม่ไกลโรงแรม น่าจะผับดังคนเต็มร้าน
นึกว่าอยู่เมืองไทย เพราะวงดนตรีเล่นแต่เพลงไทย

ที่พักเวียงจันทน์ City Inn Vientiane Hotel ห้องเตียงคู่ ราคา 36$ รวมอาหารเช้า
จองรถไฟเที่ยวเช้า เวียงจันทน์-วังเวียง 09:45 – 10:40 [ค่ารถไฟ 328 บาท] ควรไปถึงสถานีรถไฟไม่เกิน 9 โมง และเผื่อเวลาเดินทางด้วย แม้ระยะทางจะแค่ 15 กม. แต่เช้าๆเวียงจันทน์รถติดเหมือนเมืองหลวงทั่วโลก ดีว่าพนักงานโรงแรมเตือนว่ารถติดนะพี่ ออกให้เร็วหน่อย (รถตู้โรงแรมไปส่งคิดค่ารถ 640,000 กีบ ประมาณ 950 บาท แพงมาก แต่รถรับจ้างข้างนอกก็เรียก 600,000 กีบ เหมือนกัน) ก็ไปถึงสถานีก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง ถ้าออกช้ากว่านี้อาจจะตื่นเต้นเล็กน้อย ควรไปถึงก่อนเวลาสักชั่วโมงกำลังดี มีร้านขายของฝาก และร้านกาแฟ 3 ร้าน (Dao coffee กับคาเฟ่อเมซอน และกาแฟพันธุ์ไทยที่ชื่อ pun café สรุปเป็นร้านของไทยไป 2 ร้าน)






ใช้ QR Code แทนตั๋วได้เลย มีระบุเลขที่นั่ง เราเลือกรถไฟนั่งชั้น 2 นั่งสบาย มีเทรนโฮสเตสเข็นของขายด้วยนา
วังเวียง | Vang Vieng | ວັງວຽງ
จากเวียงจันทน์มาถึงวังเวียงใช้เวลา 55 นาที (สมัยก่อนนั่งรถข้ามเขาคดเคี้ยวใช้เวลาหลายชม. แถมอ้วกกลางทางกันด้วย) ถึงสถานีวังเวียงตามเวลา ออกมาแล้วไปหาเรียกรถพาเข้าเมือง พวกเรา 6 คน และหนุ่มลาวอีก 2 คนนั่งรถคิวเข้าเมืองไปในราคา 30,000 กีบต่อหัว


มาเที่ยววังเวียง จะเป็นการเที่ยวแบบ adventure หน่อยๆ ส่วนมากเป็นกิจกรรม เช่น พายคายัค ขึ้นบอลลูน พาราไกดิ้ง เล่นซิปไลน์ ถ้ามาพักผ่อนก็เลือกที่พักดีๆริมแม่น้ำซอง นั่ง นอน กิน ชิลๆไป ถ้าเรียกรถออกไปเที่ยวก็ไปบลูลากูนไปกระโดดน้ำตูมๆ ไปเที่ยวถ้ำ หรือไปขึ้นผาหนามไซ แต่พวกเรากินข้าวแล้วก็ไปนั่งจิบกาแฟคุยกันว่าบ่ายนี้เที่ยวไหนดี แล้ว….ฝนมันก็ตก ก็เลยตัดสินใจกลับโรงแรมไม่ไปไหนทั้งนั้น พอบ่ายแก่ๆฝนหยุดก็เลยไปเช่าจักรยานปั่นเที่ยวกัน

ที่พัก Inthira Vangvieng Hotel
>> กินข้าวเปียก เฝอ ข้าวผัด ร้านตามสั่งเป็นมื้อเที่ยง
>> จิบกาแฟแลวิวที่ พูม่ายคาเฟ่
>> หาเช่าจักรยาน ค่าเช่าจักรยานคันละ 50,000 กีบ ปั่นได้ถึงมืด
>> ปั่นจักรยานไป ถ้ำจัง ค่าเข้าเขตวังเวียงรีสอร์ท 5,000 กีบ + ค่าขึ้นถ้ำ 15,000 กีบ
>> ปั่นจักรยานข้ามแม่น้ำซองไป เวียงธารา พักขา กินดื่มชมวิวทุ่งนา
>> ปั่นกลับโรงแรม
>> เดินไปกินอาหารเย็นที่ แบ้งกิ้งปิ้งหมู
>> แวะซื้อโรตี
>> เดินกลับโรงแรม นั่งดริ๊งกันอีกเล็กน้อยก่อนนอน



พาสมาชิกมานั่งจิบกาแฟ ชมวิวสวยๆ แต่วันนี้บรรยากาศอึมครึมไปหน่อย
Pullmind Café’ พูม่ายคาเฟ่, วังเวียง 📍 GPS: 18.929629874696204, 102.44923977661904


วังเวียงในฤดูเงียบเหงา บรรยากาศอึมครึมเหมือนฝนจะตกทั้งวัน


ปั่นจักรยานไปเที่ยวถ้ำจัง (ประมาณ 2 กม.จากกลางเมือง)





จะไปขึ้นถ้ำจังต้องผ่านพื้นที่วังเวียงรีสอร์ทเสียค่าเข้า 5,000 กีบ แล้วมาเสียค่าเข้าถ้ำอีก 15,000 กีบ เดินขึ้นบันได 147 ขั้น


ด้านในถ้ำจังมีทางเดินอย่างดีและมีแสงสว่างตลอดทาง / มีช่องให้ออกมาชมวิวแม่น้ำซองได้

ความสนุกของการปั่นจักรยานในวังเวียง ก็คือปั่นข้ามสะพานไปมา



เวียงธารา ที่ตอนแรกพวกเราจะพักที่นี่ แต่สอบถามไปว่ากลางคืนเสียงจิ้งหรีดเรไร ดังแค่ไหน ได้รับคำตอบว่า จิ้งหรีดกบเขียดอึ่งอ่างร้องกันดังมาก น้องในกรุ๊ปเลยขอผ่าน เพราะน้องเคยเจอที่พักกลางทุ่งที่เสียงสัตว์กลางคืนดังมาก น้องนอนไม่หลับเลย ก็เลยไปนอนที่อื่นแต่ปั่นจักรยานแวะมาชมสักหน่อย



เวียงธารารีสอร์ท | ViengTara VangVieng Resort
📍 พิกัด 18.923393041506127, 102.4459998828249
ไม่พักที่นี่ก็แวะมาถ่ายรูปเล่นได้ หรือมาทานอาหาร จิบเครื่องดื่มก็ได้



มื้อเย็นพาสมาชิกเดินไปกินส้มตำ เนื้อย่าง ที่ร้านแบ้งกิ้งปิ้งหมู ร้านเดิมที่บังเอิญเจอเมื่อมาวังเวียงปีก่อน ร้านบ้านๆอร่อยๆ
ร้านแบ้งกิ้งปิ้งหมู, วังเวียง 📍 GPS: 18.927269974893957, 102.44937482301265 (ใกล้ย่านโรตี ติดกับวัดกลาง)

Inthira VangVieng ห้องเตียงคู่ วิวแม่น้ำซอง ราคา 75$ รวมอาหารเช้า

ห้องพักราคาแพง แลกกับวิวสวยๆยามเช้า
นั่งรถไฟจากวังเวียงไปหลวงพระบางต่อ [ค่ารถไฟ 313 บาท] เลือกรถไฟ วังเวียง-หลวงพระบาง 10:45 – 11:49 (Delay 9 min.) มีมาช้าด้วยอ่ะ แต่พวกเราก็ไปก่อนเวลาประมาณ 1 ชม. ที่สถานีวังเวียงมีร้านกาแฟอเมซอนร้านเดียว ดังนั้นกินข้าวเช้ามาให้อิ่ม อย่ามาหวังหาอะไรกินที่สถานี



หลวงพระบาง | Luang Prabang | ຫຼວງພະບາງ
จากวังเวียงมาถึงหลวงพระบางใช้เวลาประมาณ 1 ชม. มาถีงสถานีหลวงพระบางแล้ว ต้องหารถเข้าเมืองอีกเหมือนเดิม ก็ไปที่คิวรถ ราคาเข้าเมืองเป็นมาตรฐานที่หัวละ 40,000 กีบ ต้องรอคนเต็มรถประมาณ 10 คน รถส่งถึงที่พักเลย แต่พวกเราให้รถไปส่งที่ส้มตำป้าติ๋มเลย เพราะทุกคนบอกว่าให้รีบไปก่อนเที่ยงเดี๋ยวโต๊ะเต็ม ก็นับว่าโชคดีเพราะร้านค่อนข้างเล็ก พวกเรานั่งได้แป๊บเดียวก็โต๊ะเต็ม คนมายืนรอคิวกัน ร้านป้าติ๋มอร่อยสมคำร่ำลือ โดยเฉพาะส้มตำหลวงพระบาง แหนมทอดก็ดี



นักท่องเที่ยวเยอะมาก 70% เป็นทัวร์จีน


ค่ารถเข้าเมืองหลวงพระบางคนละ 40,000 กีบ รถตู้ 10 ที่นั่งต้องรอคนเต็มถึงออก (ระยะทางประมาณ 13 กม.)
มีเวลาอยู่ที่หลวงพระบางมากหน่อย วันแรกนี้มีเวลาครึ่งวัน วันรุ่งขึ้นอีกเต็มวัน แล้ววันสุดท้ายมีเวลาอีกครึ่งวันช่วงเช้า บินกลับเที่ยวบ่ายสองโมง มีเหมารถตู้พาเที่ยว 1 วันเต็ม ราคา 1500 บาท นอกนั้นก็เดินบ้าง ปั่นจักรยานบ้าง แผนเที่ยวเป็นตามนี้

หลวงพระบางวันแรก (1/2 วัน) ตั้งต้นที่สถานีรถไฟหลวงพระบาง
>> เที่ยง ส้มตำป้าติ๋ม
>> ที่พัก Chk-in Villa Oasis LuangPrabang
>> ปั่นจักรยานไปกินกาแฟร้านริมน้ำโขง Dada Cafe
>> ขึ้น ธาตุพูสี ค่าเข้า 30,000 กีบ
>> เดิน ตลาดมืด
>> ข้าวเย็นร้านแถวที่พัก Bamboo Garden Restaurant


ส้มตำป้าติ๋ม | ຮ້ານຕຳໝາກຮຸ່ງ ນາງ ຕິມ
🕗 เปิดทุกวัน 11:00 – 15:00 หมดก่อนปิดก่อน
📍พิกัด 19.895827165581256, 102.13996514375395





ส้มตำป้าติ๋ม | ຮ້ານຕຳໝາກຮຸ່ງ ນາງ ຕິມ
แหนมทอด / ไส้อั่วหลวงพระบาง / ไคแผ่น / หมูทุบ / ตำหลวงพระบางอร่อยดีงามมาก
มื้อนี้สั่งไป 14 จาน รวมน้ำรวมข้าว คิดเงินมา 700,000 กีบ (ประมาณ 1,000 กว่าบาท)

โต๊ะในร้านเต็ม ฝนตก ต้องกางร่มนั่งกินหน้าวัด คนก็ยังมากิน


ที่พักมีจักรยานให้ยืมไปขี่ได้ฟรี สบายเลย ปั่นเข้ามากลางเมือง หากาแฟจิบยามบ่าย ขี่วนไปวนมา หลงไปหลงมา ฮา….





แวะพักเหนื่อยร้านกาแฟริมแม่น้ำโขง ใครใคร่จิบกาแฟก็จิบ ใครใคร่จิบเบียร์ก็จิบ
DaDa Cafe (roasters, bar, restaurant)
📍 พิกัด 19.895413990933132, 102.13908587921227






หลวงพระบาง เมืองมรดกโลก ที่อนุรักษ์อาคารบ้านเรือนไว้ได้อย่างดี เดินดูตึกเก่าๆได้ไม่มีเบื่อ



เมื่อสมาชิกยังไม่เคยมาหลวงพระบาง ก็ต้องพาสมาชิกขึ้นธาตุพูสี ขึ้นบันได 300 กว่าขั้นเป็นรอบที่ 3 ของชีวิต



วันที่ฟ้าปิด ก็ไม่ต้องรอพระอาทิตย์ตก ขึ้นไปไหว้พระธาตุ ชมวิวแล้วก็ลง
มองลงไปเห็นพระราชวังหลวงพระบางกับลำน้ำโขง / วัดจอมสี / ธาตุพูสี


จากยอดเขาพูสี ฝั่งทางขึ้นมองเห็นตัวเมืองเก่ากับลำน้ำโขง ฝั่งทางลงด้านหลังมองเห็นโค้งแม่น้ำคาน



ลงจากยอดเขาพูสี เดินเล่นตลาดมืด ก่อนปั่นจักรยานกลับโรงแรม



มื้อเย็นกินร้านแถวๆโรงแรม อร่อยใช้ได้ ราคาก็ไม่แพง กินไข่เจียว ผัดผักบุ้ง ต้มยำปลา เหมือนตอนอยู่ไทย
สมาชิกบอกว่า เราไม่ต้องกินอาหารลาวทุกมื้อก็ได้ แต่ต้องกินเบียร์ลาวทุกมื้อ ฮา…
หลวงพระบางวันที่ 2 (เช่ารถตู้พาเที่ยว 1,500 บาท)
>> พระราชวังหลวงพระบาง ค่าเข้า 60,000 กีบ
>> ตาดกวงสี ค่าเข้า 60,000 กีบ (รวม shuttle bus แล้ว)
>> ตาดแก้วมงคล ไม่มีค่าเข้า
>> อาหารเที่ยง Keo Waterfall Oasis (ริมน้ำตกตาดมงคล)
>> Camp ช้าง ไม่มีค่าเข้า
>> ฟาร์มควาย ไอติมนมควาย 50,000 กีบ ถ้าจะเข้าไปดูฟาร์มควายด้วย 90,000 กีบ
>> วัดเชียงทอง ค่าเข้า 30,000 กีบ
>> แวะจิบกาแฟ Zurich Breads Cafe
>> อาหารเย็นร้านแถวที่พัก Le Cafe Patrimolne



รูปปั้นของเจ้าศรีมหาวงศ์ / หอพระบาง ประดิษฐาน ‘พระบาง’ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวหลวงพระบาง / พระราชวังหลวงพระบาง ปัจจุบันเป็น หอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง หรือ หอคำ (ห้ามเอากระเป๋าเข้าและห้ามถ่ายรูป)



ออกนอกเมืองไปเที่ยวน้ำตก ตาดกวงสี เคยมาเมื่อนานแล้วรถจอดแล้วเดินนิดเดียวถึง ตอนนี้ต้องจอดรถที่ลานจอดซื้อตั๋ว แล้วนั่ง Shuttle bus ต่อไปอีก 1 กม. ถึงเป็นทางเข้า แล้วเดินเข้าไปอีก 3-400 ม.



มี 2 เส้นทางให้เลือกคือเดินเข้าป่าชมธรรมชาติหรือเดินทางถนน (ก็ชมธรรมชาติได้นะ)










ตาดกวงสี ในวันที่ฝนตก ไม่มีแดด แต่ก็ยังสวยเหมือนเดิม (ถ่ายรูปได้ไม่กี่รูปฝนก็ถล่มลงมา ไม่มีที่หลบฝนด้วยนอกจากใต้ต้นไม้)

ตาดแก้วมงคล ที่อยู่ติดๆกับตาดกวงสี ใกล้ขนาดนั่งรถ 5 นาทีถึง แถมหน้าตาคล้ายๆกันแค่เล็กกว่า





ความแตกต่างของตาดกวงสีกับตาดแก้วมงคล ก็ตรงที่ตาดแก้วมงคลมีขายอาหารอยู่ชิดติดน้ำตกแบบนี้เลย แต่ตอนเราไปถึงฝนตก โต๊ะลานหน้าน้ำตกนั่งไม่ได้ เรารอสักพักก็ได้ที่นั่งในศาลา ที่มีอยู่แค่ 3 ศาลา หิวแล้วกินกลางวันที่นี่เลย



มื้อนี้แค่พอกินได้ นับว่าไม่อร่อยที่สุดในทริป แถมราคาค่อนข้างแพง ขายบรรยากาศแหละ
ดูจากในใบเสร็จชื่อ Keo Waterfall Oasis ถ้าไม่หิวมากก็มาแวะถ่ายรูปแล้วไปกินข้าวที่อื่นดีกว่า



ขากลับแวะแคมป์ช้าง ซื้อกล้วยป้อนน้องช้างกันหน่อย



แล้วมาแวะชิม กะแล้มนมควาย (ไอติมนมควาย) ที่ราคาแพ้งแพง สคูปละ 75 บาท ก็ไม่มีกลิ่นอะไร แยกไม่ออกว่าทำจากนมวัวหรือนมควายด้วยซ้ำ



กลับเข้าเมืองมาวัดเชียงทองตอนบ่ายแก่ๆ เพื่อหนีกรุ๊ปทัวร์ช่วงเช้า ก็เลยได้วัดว่างๆสงบๆหน่อย

ผนังสีชมพูประดับกระจกสีสวยๆ ของหอพระไสยาสน์ ที่ใครๆก็อยากมาถ่ายรูป




สิมวัดเชียงทอง มีหลังคาซ้อน 3 ชั้น แบบล้านช้าง มีผนังด้านข้างเป็นลายรดน้ำปิดทองบนพื้นสีดำ ส่วนผนังด้านหลังเป็นรูปต้นทองประดับกระจกสีสวยงาม ความสวยงามของวัดเชียงทองที่มากี่ครั้งก็ยังประทับใจ



ก่อนกลับโรงแรม ให้รถตู้พามานั่งจิบกาแฟกับครัวซองต์ร้านเด็ดในย่านเมืองเก่ากันก่อน






เป้าหมายแรก Le Banneton Cafe French Bakery แต่เข้าไปแล้วขนมปังหมดทุกอย่าง / ย้ายจากฝรั่งเสศมาสวิส ที่ร้าน Zurich Bead Factory & Cafe ครัวซองดีเลย เครื่องดื่มใช้ได้ ที่สำคัญร้านแอร์เย็นเจี๊ยบ / ร้านออกพบตก ขายงานฝีมือพวกผ้าทอ สวยดี มีร้านอาหารด้วยแต่อยู่นอกเมือง

มื้อเย็นสั่งลาหลวงพระบางและร่ำลาลาว เลือกร้านกันอยู่นาน สุดท้ายด้วยความขี้เกียจเดิน ก็ปักหลักที่ร้านคาเฟ่ใกล้ๆโรงแรม
ไม่คาดหวังแต่เกินกว่าที่ควรไปเยอะ อาหารอร่อยทุกอย่าง นั่งกินกันจนร้านปิดตอนสี่ทุ่ม เปิดเบียร์ลาวเขาจนหมดร้าน
หลวงพระบางวันที่ 3 (1/2 วัน)
>> ตักบาตรข้าวเหนียว ชุดตักบาตร 100 บาท
>> เดิน ตลาดเช้า
>> ร้านกาแฟประชานิยม (ปิด เลยนั่งร้านแถวๆนั้น กินข้าวเปียก กาแฟ ไข่ลวก)
>> เดินเที่ยววัดแถวที่พัก วัดวิชุนราช -> วัดอารามอุตมะธานี ค่าเข้าวัดวิชุน 20,000 กีบ
>> รถตู้ไปกินอาหารกลางวัน ร้านออกพบตก ค่ารถรวมส่งสนามบิน 250,000 กีบ (375 บาท)
>> สนามบินหลวงพระบาง


Villa Oasis Luangprabang ห้องเตียงคู่ ราคา 31$ รวมอาหารเช้า
ที่พักขนาดเล็กๆ อยู่ไกลจากตัวเมืองเก่าออกมาประมาณ 1 กม. อยู่ในซอยติดวัดวิชุน มีจักรยานให้ใช้ฟรี
มาหลวงพระบางต้องไม่พลาดตักบาตรข้าวเหนียว สามารถบอกที่พักให้จัดเตรียมของใส่บาตรให้ได้ทุกที่ แต่เราไม่ได้บอก เดินกันออกมาเลยถ้าไม่ได้ใส่ก็ถือว่าพาสมาชิกมาดูให้เห็น ต้องออกมาประมาณ 05:30 อย่าช้า จะได้ไม่พลาด ถึงมีหลายวัด แต่พระเดินมาแล้วก็ผ่านไปเลย ไวมาก ตักบาตรข้าวเหนียว เขาใส่บาตรด้วยข้าวเหนียวอย่างเดียวจริงๆ อาจมีของแห้งใส่ไปด้วยได้ อาหารสดจะไม่ใส่ในบาตร แต่จะเอาไปถวายพระที่วัดตอนสาย ให้ทันเวลาฉันเช้า







ออกมาเจอป้าขายข้าวเปียกกับข้าวต้มมัดป้าบอกข้าวต้มมัดใส่บาตรได้
แต่เดินต่อมา ก็เจอคนมาขายชุดใส่บาตรชุดละ 100 บาท มีข้าวเหนียวกับขนม ปูเสื่อพร้อมเก้าอี้นั่งคอยเรียงเป็นแถว



ได้ใส่บาตรสมความตั้งใจ ก็เดินเลยไปอีกไม่ไกล ไปดูตลาดเช้ากันหน่อย






ตลาดเช้าเป็นตลาดเล็กๆ ขายทั้งของสด ของแห้ง แถมมีของกินด้วย



จากตลาดเช้าเดินไปอีกหน่อยก็ถึงริมน้ำโขงแล้ว ต้องพาสมาชิกไปเช็คอินร้านกาแฟริมน้ำโขงในตำนาน “ร้านกาแฟประชานิยม” สักหน่อย แต่โชคดีมากวันนี้ร้านไม่เปิด ปกติก็เปิดทุกวันนะ สงสัยเพราะฝนตกเลยไม่ออกมาขาย คนมาแล้วผิดหวังกันเยอะเลย ไหลไปนั่งกินร้านข้างๆกัน เราก็มานั่งจัดกาแฟ ไข่ลวก โจ๊ก ที่ร้านข้างๆเหมือนกัน



มีเวลาเหลือช่วงเช้านิดหน่อย ให้ทุกคนใช้เวลาตามอัธยาศัย บางคนไปซื้อของฝาก บางคนนอนต่อ เราออกไปเดินเล่นแถวๆที่พัก





วัดวิชุนราช วัดเก่าแก่ที่สุดของหลวงพระบาง อยู่ติดกับซอยที่พักเลย / ธาตุหมากโม


วัดอารามอุตมะธานี อยู่ติดกับวัดวิชุน เป็นที่ตั้งของหอเสื้อเมืองหรือหอ”ปู่เยอ-ย่าเยอ”



รถตู้มารับเพื่อไปส่งสนามบิน แต่ให้มาก่อนเวลาเพื่อพาไปทานกลางวันก่อน ปิดทริปจริงๆที่ร้านอาหารริมน้ำโขง ออกพบตก

ในบริเวณมีส่วนของโรงทอผ้า ที่เอามาตัดเย็บเสื้อผ้า กระเป๋า ขายในร้านทั้งที่นี่ และร้านในเมือง (ที่พวกเราดูเมื่อวาน)




ร้านดูดีมีชาติตระกูลเลยทีเดียว บรรยากาศมื้อเย็นน่าจะดีมากๆ



ระหว่างรออาหาร ไปเดินช้อปปิ้งก่อนได้ (รออาหารค่อนข้างนาน ใครจะไปสนามบินต่อ เผื่อเวลาด้วย)





มื้อนี้สั่ง 6 อย่าง มา 5 อย่าง และค่อนข้างน้อย แต่ไม่สั่งเพิ่มล่ะ เพราะรอนานมาก รวมข้าวรวมน้ำด้วย 590,000 กีบ

ลาก่อน หลวงพระบาง เมืองมรดกโลก


มาถึงสนามบินนานาชาติหลวงพระบาง เพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน สนามบินทำใหม่ใหญ่โตขึ้นกว่าสิบปีก่อนเยอะเลย


Leave a comment