ภูเก็ต แบบเที่ยวน้อยกินหนักพักสบาย

ภูเก็ต แบบเที่ยวน้อยกินหนักพักสบาย

กุมภาพันธ์ 2568

พี่ๆน้องๆก๊วนกินเที่ยว ชวนไปภูเก็ต ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ยังเป็นช่วงท่องเที่ยวฝั่งทะเลอันดามัน ไม่มีฝน ฟ้าสวย แดดดี จัดทริป 4 วัน 3 คืนแบบ บินไปบินกลับขับรถเที่ยว นอนริมทะเล 2 คืน นอนในเมือง 1 คืน

หลังจากไม่ได้มาภูเก็ตร่วม 10 ปี กลับมาคราวนี้เห็นความเปลี่ยนแปลงเยอะอยู่ นักท่องเที่ยวเยอะมาก (หลังความซบเซาโควิด) มองไปทางไหนมีแต่ฝรั่งๆๆๆ แทบไม่เจอมะละกอ กล้วย ส้ม มองๆดูจีนยังน้อย ญุี่ปุ่น เกาหลี ประปราย พวกแขกก็พอมี แทบไม่เจอคนไทย ส่วนคนงานทั้งที่พักร้านอาหารคาเฟ่ก็ไม่มีคนไทย เป็นพม่าล้วน นี่คือเมืองไทยหรือนี่

สิ่งหนึ่งที่ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงเลยคือ รถติด! ภูเก็ตเป็นเมืองที่รถติดเหมือนกรุงเทพฯ แถมสนามบินอยู่ห่างจากตัวเมือง 40 กม. ถ้านอนในตัวเมืองก็ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. ถ้าออกไปนอนตามริมหาดก็ให้เผื่อไปอีกสักครึ่งชม. เวลาจะขับรถไปเที่ยวไหนก็ใช้เวลามากกว่าครึ่งชม. สำหรับคนไม่เคยเที่ยวภูเก็ตแล้วอยากเที่ยวเยอะๆให้คุ้มค่าตั๋วเครื่องบิน ก็ควรวางแผนเที่ยวให้ไปทางเดียวกันเป็นแถบๆหรือฝั่งๆไปเลย รวมทั้งร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ด้วย เพราะภูเก็ตเป็นเกาะใหญ่ที่คนเยอะรถก็เยอะ เดินทางข้ามฝั่งไปมาเสียเวลามาก

แต่…. เที่ยวภูเก็ตของพวกเราคราวนี้ เที่ยวน้อย กินหนัก ที่พักสบาย เป็นการเที่ยวกินฉบับตามใจอยาก คือแทบไม่ได้วางแผนเที่ยวอะไรมากมายเลย นึกอยากไปไหนก็ไป นึกอยากกินอะไรก็ไปกัน แม้จะอยู่คนละฟากฝั่ง (เสียเวลาหน่อย แต่หาได้สนใจไม่ ฮา…) มีน้องที่รู้จักย้ายมาทำธุรกิจอยู่ที่ภูเก็ตพาเที่ยวพากินอยู่บ้าง ปล่อยพวกเราหากินหาเที่ยวเอาเองบ้าง แผนเปลี่ยนได้ตลอดเวลาต่างหาก ฮา… ดังนั้นอย่าวางแผนเที่ยวตามพวกเราเลย เอาแค่ว่าพวกเราไปไหนกันมาบ้าง มันมีอะไร มันดีมั๊ย มันน่าไปมั๊ย แม้จะไม่ค่อยวางแผนแต่ทริป 4 วันของพวกเรามีทุกแนว มาภูเก็ตทั้งที….ต้องลงทะเล คาเฟ่ก็ต้องไปชิล วิวก็ต้องไปดู กุ้งปูก็ต้องกิน อาหารถิ่นก็ต้องจัด วัดก็ต้องเข้า เหล้าก็ต้องกิน

#แนวธรรมะ

คราวนี้ได้แวะ 2 วัด ที่เราเคยไปแล้วทั้งคู่ กลับมาอีกครั้งเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดๆคือ ทั้ง 2 วัดขยายใหญ่โต มีนักท่องเที่ยวมากันเยอะเหมือนเดิม

วัดพระทอง หรือหลายคนเรียก วัดพระผุด ตามองค์พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่โผล่พ้นดินเพียงครึ่งองค์ (ซึ่งเราว่า ให้ตรงตามจริงต้องเรียกพระโผล่ แต่เรียกพระโผล่ฟังไม่งามเอาเลย) มีตำนานเล่ากันมาว่า มีคนพบพระพุทธรูปครึ่งองค์นี้โดยบังเอิญ ไม่ว่าใครจะพยายามขุดเอาพระพุทธรูปขึ้นมาก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายก็เลยสร้างโบสถ์ครอบไปเลย เรื่องราวเล่าไปถึงว่า สมัยสงคราม ทัพพม่าเข้ามาเจอองค์พระผุดก็พยายามขุดจะเอากลับพม่า ก็ไม่สำเร็จ โดนต่อแตนต่อยจนต้องยอมแพ้

วัดพระทอง : ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต / เปิด-ปิด : 08.00-17.30 น.

วัดไชยธาราราม หรือ วัดฉลอง วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองภูเก็ต มีบันทึกย้อนไปได้ถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ชื่อเสียงของวัดฉลองโด่งดัง จากความเคารพศรัทธาของชาวภูเก็ตต่อ “หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง” หรือ พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุณี อดีตเจ้าอาวาสวัดฉลอง ผู้เคยเป็นผู้นำชาวบ้านต่อสู้กับโจรอั้งยี่ที่บุกปล้นชาวบ้าน จนขับไล่โจรอั้งยี่ไปได้ และยังว่ากันว่าท่านเก่งในด้านการปรุงยาสมุนไพร และรักษาโรค อีกด้วย

ที่วัดฉลองมีพระเกจิชื่อดังหลายรูป เช่น หลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อช่วง หลวงพ่อเกลื้อม ปัจจุบันมีรูปหุ่นขี้ผึ้งแบบเหมือนจริงอยู่บนกุฏิจำลองหลวงพ่อแช่ม ที่อยู่ด้านข้างมณฑป

เมื่อขึ้นไปชั้นบนสุดของพระมหาธาตุเจดีย์ นมัสการพระบรมสารีริกธาตุ แล้วให้ออกไปดูวิวมุมสูงของวัดฉลอง เห็นได้หมดตั้งแต่ พระอุโบสถ / พระวิหารหรือมณฑปทรงจตุรมุข (มณฑปพ่อท่านสมเด็จเจ้า) / วิหารหลวงพ่อนอกวัด

วัดไชยธาราราม (วัดฉลอง) : ตำบลฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต / เปิด-ปิด : 08.00-17.00 น.

#แนววัฒนธรรม

ก็ได้ไปเดินเที่ยวเล่นในย่านเมืองเก่าภูเก็ต มีตึกเก่าแบบชิโน-โปรตุกิส ตลอดถนนถลาง ถนนพังงา สอดแทรกด้วย Graffiti เก๋ๆ คาเฟ่ชิคๆ ปะปนไปกับร้านค้าขายดั้งเดิม

เมืองเก่าภูเก็ต ย่านการค้าหลักของภูเก็ตในอดีต ปัจจุบันก็ยังมีผู้คนใช้ชีวิต กินอยู่ ค้าขาย รวมทั้งคนต่างถิ่นที่เข้ามาทำธุรกิจ อาคารเก่าดั้งเดิมตลอดถนนดีบุก ถนนถลาง ถนนพังงา ถนนรัษฎา ได้รับการอนุรักษ์ ปรับปรุงให้แข็งแรง ทาสีใหม่สวยงาม ลายฉลุตามขอบประตูหน้าต่างยังสวยงาม ซุ้มประตูโค้งหน้าห้องที่ยาวต่อกัน เรียกว่า “หง่อคาขี่” ที่เคยเดินผ่านได้โดยไม่ต้องออกนอกตัวอาคาร ตอนนี้เดินไม่ได้แล้ว เพราะแต่ละห้องก็เอามาใช้เป็นพื้นที่ค้าขาย วางของขาย วางโต๊ะ วางเก้าอี้

เดินเล่นตอนเย็นก็สบายดี ผู้คนคึกคัก แต่ร้านรวงเริ่มปิด

“สถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกิส” คำว่า “ชิโน” หมายความถึงชาวจีน และคำว่า “โปรตุกิส” หมายความถึงชาวโปรตุเกส…
ถึงยุคสมัยของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) สมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านเป็นผู้ที่พัฒนาเมืองภูเก็ตให้เจริญในทุกด้าน โดยเฉพาะในด้านการวางผังเมืองภูเก็ตใหม่ ที่ได้นำรูปแบบมาจากเมืองปีนัง มีลักษณะแบบบล็อก ซึ่งได้รับอิทธิพลจากวิทยาการสมัยใหม่ของตะวันตก โดยเริ่มจากใจกลางเมืองคือถนนถลาง ซึ่งเป็นหัวตลาด ไปจนถึงถนนกระบี่ ซึ่งเป็นท้ายตลาด มีชื่อเรียกเป็นภาษาท้องถิ่นว่า “ตั่วโพ้” และ “เสี่ยโบ้ย” ตามลำดับ และตัดถนนใหม่ในลักษณะขวางตัดกับถนนถลางเป็นมุมฉากใช้ชื่อว่าถนนเยาวราช นับเป็นการวางผังเมืองใหม่ในระยะแรก… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.silpa-mag.com/history/article_9384

#แนวธรรมชาติ

ภูเก็ตเคยได้ฉายาว่าไข่มุกของเอเชียใต้ (เอ๊ะ! หรือยังเรียกกันอยู่) มีชายหาดสวยๆเยอะแยะมากมาย มีจุดชมวิวงามๆ แต่ชายหาดสวยๆโดนยึดโดยคนต่างชาติหมดแล้ว แทบหาคนไทยใช้ทรัพยากรอันเป็นของชาวไทยไม่ได้เลย หลายหาดก็เหมือนกลายเป็นหาดส่วนตัว ที่พักติดหาดราคาหลักหมื่น มีคนไทยหยิบมือเดียวที่สู้ราคาไหว ธรรมชาติของไทยแต่ต่างชาติยึดไปหมดจริงๆ

เริ่มต้นด้วยมื้อเที่ยงที่ หาดราไวย์ เป็นหาดที่มีท่าเทียบเรือ มีตลาดปลาและอาหารทะเลขายเป็นแนวยาว ซื้ออาหารทะเลสดๆแล้วมาให้ร้านอาหารทำให้ได้ด้วย และยังหาเช่าเหมาเรือพาเที่ยวเกาะได้ด้วยเหมือนกัน

ห่างจากหาดราไวย์ไม่ไกล ขับรถขึ้นเขาไปที่จุดชมวิวยอดนิยมที่ แหลมพรหมเทพ จุดนี้ใช้เป็นจุดอ้างอิงพระอาทิตย์ตกของประเทศไทยด้วย มาภูเก็ตทุกครั้งก็ต้องมาที่นี่ รอดูพระอาทิตย์ตกกัน แต่ยังไม่เคยได้ภาพสวยๆสักครั้ง ถ้าไม่เจอฝนก็เจอเมฆบังฟ้าเน่า มาคราวนี้ฟ้าสวยใสมาก แต่เวลาไม่ได้ เพราะขึ้นมากันช่วงบ่ายแก่ๆร้อนจนแทบละลาย ดูพยากรณ์อากาศแล้วพระอาทิตย์ตกวันนี้เวลา 18:30 นาที สมาชิกลงมติว่า ไม่รอ กลับไปที่พักนั่งชิลๆดีกว่า

เลยจากแหลมพรหมเทพไปไม่ไกล มีอีกจุดชมวิวที่คนนิยมมากันคือ จุดชมวิวกังหันลมพรหมเทพ Windmill Viewpoint เป็นพื้นที่สำนักงานพลังงานทดแทนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต เป็นที่ติดตั้งกังหันลมเพื่อผลิตไฟฟ้าเพราะมีความเร็วลมเฉลี่ยตลอดปีเหมาะสมและคุ้มค่า แต่ตอนนี้ขึ้นไปจะไม่เห็นกังหันเพราะชิ้นส่วน เช่น ใบกังหัน ตลับลูกปืนชำรุด รออะไหล่จากต่างประเทศ น้องที่พาไปเรียก จุดชมวิวกังหันลมที่ไม่มีกังหันลม ฮา…

เขตพื้นที่สำนักงานพลังงานทดแทน พรหมเทพ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีลานจอดรถอยู่แต่มีไม่มาก

จากจุดชมวิวกังหันลมมองไปเห็นหาดยะนุ้ย หาดเล็กๆที่นักท่องเที่ยวต่างชาติแน่นเต็มหาด

จุดชมวิวกังหันลมพรหมเทพ พิกัด https://maps.app.goo.gl/r925j3sx8DqD3FZS7 ศาลาชมวิวขึ้นไปได้ตลอด 24 ชม. แต่ลานจอดรถของการไฟฟ้าปิด 19:00 น. ทางขึ้นไปจุดชมวิวแคบไม่ค่อยมีที่จอด

หาดอื่นๆเราไม่ได้แวะลงเที่ยว แต่ขับรถผ่านไปผ่านมาทั้ง 2 วันที่พักริมหาด อย่างที่บอกเห็นแต่ต่างชาติ เริ่มจากแวะไปเช็คอิน แหลมพรหมเทพ จุดชมพระอาทิตย์ตก ขับไล่วนไป หาดยะนุ้ย หาดกะตะ หาดกะรน ไปถึงหาดป่าตอง (ที่พักเราอยู่หาดไตรตรังติดกับหาดป่าตอง) อีกวันก็ขับจากที่พักตรงหาดไตรตรัง ผ่านหาดป่าตอง ไปหาดกมลา หาดสุรินทร์ หาดทางเทา ไปถ่ายรูปใกล้ชิดติดเครื่องบินบินลงสนามบินภูเก็ตที่หาดไม้ขาว

พญานาคหาดกะรน

หาดป่าตองตอนเช้า เงียบสงบหน่อย หลังเที่ยงแล้วนักท่องเที่ยวต่างชาติเต็มหาด

หาดสุดท้ายที่พวกเราไปคือ หาดไม้ขาว ที่อยู่ติดเขตสนามบินเลย แวะเข้าไปทำไม? ก็แวะไปถ่ายรูปกับเครื่องบินเวลาเครื่องลดระดับเพื่อลงจอดที่สนามบินภูเก็ตจะบินต่ำเตี้ยเรี่ยชายหาดเลย นักท่องเที่ยวเลยชอบไปถ่ายรูปกันสนุกสนาน คนไทยก็เยอะนะตรงนี้ มีเครื่องบินมาทุกๆ 10 นาทีเลย ไม่ต้องกลัวว่าจะรอนาน แต่จะถ่ายรูปได้สวยๆควรมาช่วงเช้า ไม่ย้อนแสง และมีเวลามากๆหน่อย ต้องลองถ่ายภาพ เปลี่ยนมุมไปจนจะได้ภาพและมุมที่พอใจ พวกเรามีเวลาไม่มาก เพราะมาก่อนไปขึ้นเครื่องกลับช่วงบ่าย จัดไป 3 เที่ยวบิน ยังไม่พอใจแต่ต้องไปแล้วแหละ

การไปจุดชมเครื่องบินหาดไม้ขาว ให้ไปจอดรถที่จอดรถตามพิกัด ซึ่งมันไกลจากจุดชมเครื่องบิน (หลังสนามบิน) กม.กว่าๆ แต่ไม่ต้องกลัว ตรงจุดจอดรถจะมีรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างบริการ คนละ 20 บาท เป็นรถคิว ราคาเท่ากันหมด คันเล็กนั่งได้ 4-5 คน นั่งรวมกับคนอื่นไปได้เลย มีรถวิ่งทั้งวัน ลุงคนขับบอกมีเป็นสิบปีแล้ว (พอดีกับที่เราไม่ได้มาภูเก็ตเป็นสิบปี ก็เลยไม่เคยรู้ว่ามีจุดถ่ายรูปแบบนี้ด้วยแฮะ..)

จุดจอดรถสำหรับมาชมเครื่องบินหาดไม้ขาว พิกัด : https://maps.app.goo.gl/WgwaHqeTRU2EuuXr7

รถคิวพาเข้ามาได้จนสุดทาง มีร้านขายอาหารขายน้ำคึกคัก เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวไปแล้ว
ถ่ายรูปเสร็จก็กลับมาขึ้นรถคิวกลับลานจอดรถ

เดินตามชายหาดไปให้ถึงหลังสนามบิน จะถ่ายรูปได้ยิ่งใกล้เครื่องบิน มุมอยู่ใต้เครื่องได้เลย หรืออยากได้มุมข้างก็อยู่ห่างหน่อยได้ เลือกมุมตามชอบ แต่ระวังตอนเครื่องบินขึ้น (Take off) เพราะเครื่องจะหันไอพ่นออกมาทางหาด ซึ่งลมไอพ่นแรงมาก หมวก ร่ม เสื้อ หรือกระเป๋าบินว่อน และทรายฟุ้งกระจายเหมือนพายุทะเลทรายเลย

Tips: ถ้าขับรถไปตาม Google map มันจะพาไปเข้าซอยไม้ขาว 4 ใกล้จุดชมเครื่องบินจริง แต่มันเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล เขาไม่ให้เข้า จะมีป้ายตั้งไว้เลยว่า ถ้าจะไปดูเครื่องบินให้ไปซอย 6 (ซอย 7 ก็ได้) แล้วไปจอดที่จอดรถอย่างที่บอก ทางเดินเลาะหาดจะผ่านด้านหลังของที่พักต่างๆไป (ระยะทางประมาณ 1.5 กม.) แต่ถ้าขี่มอเตอร์ไซค์มาขี่เข้าไปได้เลย (ตามเส้นประ)

นอกจากเที่ยวหาดสวยๆในภูเก็ตแล้ว กิจกรรมยอดนิยมอีกอย่างคือ การดำน้ำ จะเรือเหมา เรือทัวร์ มีให้เลือกมากมายง่ายดาย ติดต่อเอาจากที่พักได้เลย โปรแกรมยอดนิยมคือ ดำน้ำเกาะพีพี จะใช้เวลาเต็มวัน เพราะเกาะพีพีอยู่ในเขตจังหวัดกระบี่ ก็นั่งเรือนานหน่อย ถ้ามีเวลาน้อยก็เลือกเกาะใกล้ๆใช้เวลาครึ่งวัน อย่างเกาะราชา หรือเกาะเฮ (เคยไปมาแล้ว ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยจริงๆ อย่าไปเลย) หรือเกาะไม้ท่อน (เป็นเกาะเอกชน เสียค่าขึ้นเกาะด้วยนะ อันนี้ยังไม่เคยไป แต้ถ้าจะไปขอเลือกไปนอนเลยดีกว่า) หรือจะเป็นดำน้ำเกาะ (3) ไข่ แบบพวกเราก็ได้

ดำน้ำ 3 เกาะไข่ ไข่นอก ไข่นุ้ย ไข่ใน เป็นทัวร์ดำน้ำครึ่งวัน ที่เลือกโปรแกรมนี้เพราะมีคนไม่เคยมาภูเก็ตที่อยากไปดำน้ำเล่นน้ำ แต่ก็มีคนไม่อยากดำน้ำ มีคนกลัวทะเลด้วย เพื่อการประนีประนอม เลยเลือกดำน้ำกรุบกริบแบบครึ่งวัน คนไม่ลงเรือก็รอบนเกาะ ขับรถเที่ยวเล่นเข้าคาเฟ่ไป พอใจทุกคน เราเองยังไงก็ได้ แต่เกาะไข่ไม่เคยไปก็ขอไปดำน้ำด้วยละกัน ขึ้นเรือที่ท่าเรือ Asia Marina อยู่คนละฝั่งเกาะกับที่พักเลย ขับรถไปใช้เวลาครึ่งชม.อย่างน้อย ถ้าวันธรรมดารถจะติดกว่าวันหยุด ต้องเผื่อเวลาอีกหน่อย ใช้บริการของ PNT ทัวร์ดำน้ำเกาะไข่ครึ่งวัน 699 บาท (ไม่มีอาหารกลางวัน) เรือเป็น Speedboat นั่ง

Speedboat นั่งกันไปประมาณนี้ มีไกด์ 1 คน ชูชีพและสนอคเกิ้ลใหม่ดี
มีน้ำเปล่า น้ำอัดลม ผลไม้ (แต่งโม สัปปะรด) และขนมนิดหน่อยบริการ

นั่งเรือ 20 นาทีก็ถึงจุดแรกคือ เกาะไข่ใน ทุกคนลงจากเรือขึ้นเกาะ แล้ว….ไปหาเล่นน้ำดำน้ำเอารอบเกาะ ถ้าอยากนั่งพัก เก้าอี้ชายหาดและร่มที่กางต้อนรับเหมือนพัทยาบางแสนคิดค่าบริการประมาณ 100 บาท คนไทยขอต่อราคาได้ อย่าง 2 ตัว 150 บาท 3 ตัว 200 บาท ประมาณนี้ เข้าห้องน้ำ 20-50 บาท ถ้าปวดเบาไกด์แนะนำให้ลงทะเล ฮา…..

เกาะไข่ใน ชายหาดสวยใช้ได้ มีแนวกั้นเชือกไว้ให้ดำน้ำ นอกแนวกั้นระวังสกู๊ตเตอร์ ที่ให้นักท่องเที่ยวเช่า จะขี่กันเร็วมาก ฉวัดเฉวียนสุดๆ ดังนั้นอยู่แนวกั้นปลอดภัยสุด ไม่ค่อยมีปะการังให้ดู แต่มีปลาพอสมควร เดินลงจากหาดแค่ครึ่งแข้งก็มีปลาแล้ว เด็กเล็กๆดูได้ง่ายๆ ออกไปไกลหน่อยก็มีปลาเยอะขึ้น มีปลาการ์ตูนด้วย เจอดอกไม้ทะเลสีซีดๆ 1 กอถ้วน

จุด 2 คือ เกาะไข่นุ้ย เป็นเกาะเล็กๆไม่มีหาด จอดโคลงเคลงแล้วให้ลงน้ำดำน้ำรอบๆเรือ ซึ่งไกด์บอกว่าไม่สวย เอ้า! และใครไม่ลงน้ำอาจอ้วกได้ ดังนั้นจะจอดแค่ 10 นาทีพอ เลยถามความสมัครใจว่าจะลงกันมั๊ย ถามไปถามมา เพราะบนเรือมีหลากเชื้อชาติกว่าจะเข้าใจปาไป 10 นาทีกว่าแล้ว สรุปแบบงงว่าไม่แวะที่นี่นะ (แต่ตอนคุยกันนี่ก็ 10 นาทีไปล่ะ) เดี๋ยวไปเกาะไข่นอกก็อยู่นานขึ้นหน่อย ฝรั่งน่าจะงงๆ

เกาะไข่นอก เหมือนเกาะไข่ใน ที่เสียค่าบริการเก้าอี้ค่าร่มค่าห้องน้ำ แต่จะให้ลงไปอยู่ในน้ำตลอด 45 นาทีคงตาย เพราะแดดมหาโหดมาก แถมมีน้องที่ไม่อยากลงน้ำมาด้วย ก็เลยเอาเก้าอี้ไว้ 3 ตัว ผลัดกันนั่งบ้าง นั่งหลบใต้ร่มกันบ้าง ปวดเบาก็ลงทะเล ฮา….

เดินเลยเก้าอี้ชายหาดไปทางเนินเขา ไต่ขึ้นไปไม่ไกล แต่ทางจะรกหน่อย มุมมองสวยไม่น้อยเลย

สรุปเลยแล้วกันว่า ดำน้ำเกาะไข่ แทบไม่มีอะไรให้ดูนอกจากปลา เดินลงไปแค่เข่าก็มีปลาแล้ว เกาะไข่ในมีปลาการ์ตูนด้วย เจอดอกไม้ทะเล 1 กอถ้วน แต่ชายหาดสวยดีนะ ขาวสวย สะอาด ฝรั่งชอบ แต่ไทยกลัวแดดมาก วิ่งหาร่มชายหาดกันหมด เกาะไข่นอกมีจุดชมวิว ปีนขึ้นเนินเขานิดหน่อย ถามไกด์ได้ มุมสวยดี ออกเรือประมาณ 9 โมงเช้า กลับถึงท่าประมาณ บ่ายโมง พวกรอบนฝั่งขับรถมารับ ไปกินข้าวเที่ยงกันต่อที่ร้านหมอมูดง อร่อยมากกกก ค่อยไปเล่าตอนอาหารภูเก็ต

#หรอยแรงแหล่งใต้

อย่างที่เกริ่นไว้แล้ววว่าเที่ยวภูเก็ตของพวกเราคราวนี้ เที่ยวน้อย กินหนัก พักสบาย เตรียมหาข้อมูลร้านอาหารเด็ดๆไปเยอะมาก สุดท้ายแล้ว เลือกกันวันต่อวัน บางมื้อมีน้องที่อยู่ภูเก็ตแนะนำ ก็ต้องเชื่อคนท้องที่ซินะ บางร้านก็ไปกินเอง สรุปรวบตึงตามนี้

ล่องเลหาดราไวย์ ตรงหาดราไวย์จะมีแผงขายอาหารทะเลยาวริมหาด มีร้านอาหารอยู่หลายร้าน แต่มีแค่ 1-2 ร้านที่มีที่จอดรถของตัวเอง (นอกนั้นต้องไปจอดริมถนนด้านนอกแล้วเดินมา) ที่จอดรถตรงนี้เขาจะเก็บค่าจอดคันละ 400 บาท แล้วให้เป็นคูปองมา เอาไปใช้จ่ายค่าอาหารได้ คือ ถ้ามาจอดไม่กินอาหารเขา เขาก็ไม่ว่านะจ่ายมา 400 น้องที่อยู่ภูเก็ตพามา ร้านล่องเล จับจองโต๊ะริมเล แดดร้อนมาก แต่มีลมพัดเย็นสบายอยู่ ที่ร้านก็มีแผงอาหารทะเลให้เลือกซื้อ แล้วสั่งทำได้ แต่เราก็สามารถเดินเลือกซื้อแผงอาหารทะเลอื่นๆได้เหมือนกัน แล้วเอามาให้ร้านทำให้คิดค่าทำเมนูละ 100 บาท

ล่องเล ราไวย์ ซีฟู๊ด : 1/8 หมู่ 2 ถนนวิเศษ ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง ภูเก็ต | เปิด/ปิด : 11:30-21:30 (ทุกวัน)

พวกเราเดินเลือกซื้อกันไปตามชอบ เดินจนสุดทางมีแผงขายปลาของชาวประมง ราคาไม่แพง เลือกซื้อปลาเก๋ามา 1 ตัว พวกกุ้ง หอย ปู ปลาหมึก เลือกซื้อร้านอื่นๆ ป้ายราคาที่วางไว้คือแพงตกใจมาก แต่ให้คุยกับคนขาย ที่ส่วนมากเป็นชาวบ้าน พอรู้ว่าเราเป็นคนไทย ราคาก็จะเป็นราคาไทยๆ ถูกกว่าป้ายเกือบครึ่ง (นึกสงสารนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่เหมือนกัน) จำไม่ได้ว่าซื้ออะไรมาเท่าไหร่บ้าง เอาให้ร้านทำ พวกปิ้ง ย่าง นึ่ง สั่งอาหารของร้านเพิ่ม 2-3 อย่าง ข้าว เครื่องดื่ม น้ำแข็ง มีเหล้า มีเบียร์ คิดราคามาแล้วเฉลี่ยคนละไม่ถึงพัน (เอาคูปอง 400 x 2 ไปจ่ายด้วย)

หมอมูดง ร้านเด็ดร้านดังที่ตั้งใจมา น้องที่ภูเก็ตรีบขับรถมาจองโต๊ะสั่งอาหารให้ก่อน รอพวกเราที่ไปดำน้ำมาครึ่งวันเช้า กว่าจะมาถึงร้านก็บ่าย 2 โมง มาอย่างหิวโหย แต่คุ้มค่า เพราะอาหารอร่อยมาก สั่งกันมาเป็นสิบอย่างอร่อยทุกอย่าง สมศักดิ์ศรีป้ายมิชลินไกด์ที่แขวนเป็นแผง แต่อาหารจากเล็กไปหน่อย ราคาเลยสูงไปนิด

หมอมูดง : 9/4 หมู่ที่ 3 ซอยป่าหล่าย ถนนเจ้าฟ้า อำเภอฉลอง ภูเก็ต | เปิด/ปิด 9:00 – 21:00 (ทุกวัน)

ร้านใหญ่ มีที่นั่งหลายโซนมาก ทั้งเป็นโถงกว้าง ทั้งเป็นซุ้มใหญ่ ซุ้มเล็ก คนนั่งเกือบเต็ม แต่อาหารรอไม่นาน จัดการดีมาก เมนูแปลกที่ใครๆก็สั่งคือ ปลายัดไส้ เหมือนปลาทูแต่ด้านในยัดไส้เหมือนเครื่องแกงแน่นตัวปลา รสชาติเหมือนเนื้อห่อหมก ก็แปลกๆดี เมนูแปลกอีกอย่างคือ หอยติบยำน้ำเคย หอยนุ่มๆยำมาอร่อยดีเปรี้ยวเค็มเผ็ดกำลังดี แกงส้มอร่อยมาก ซดน้ำแกงจนหมดชาม เผ็ดแต่อร่อย

รายการที่สั่งไปมี หมึกผัดน้ำดำ มะเขือยาวทอดเครื่อง น้ำพริกกุ้งเสียบ ปลาดุกผัดฉ่า ยำผักกูด หมูคั่วเกลือ ปลามงเจี๋ยนตะไคร้ ต้มยำทะเล แกงส้มปลามง ผักเหมียงผัดไข่ หอยติบยำน้ำเคย ปลายัดไส้ อร่อยทุกจาน

กินดี ร้านอาหารพื้นเมืองภูเก็ต มาตามโซเชียลแนะนำและไม่ผิดหวัง อยู่ไกลตัวเมืองไปทางสนมบิน เหมาะกับเป็นมื้อก่อนไปสนามบิน ร้านอยู่ในซอย เข้าไปเป็นสวนยาง ร้านไม่ใหญ่ แต่งร้านสวย อาหารอร่อยดี มีเมนูแปลกที่ไม่เคยกินอย่าง หยวกผัดเคยหวานใส่กุ้ง ก็อร่อยดี แกงตูมี้ปลามงก็แปลก จะคล้ายๆแกงส้มแต่ก็ไม่ใช่ ราคาสูงหน่อยแบบร้านนักท่องเที่ยว

ร้านอาหารพื้นเมืองภูเก็ต-กินดี : 64/65 หมู่ 5 ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง ภูเก็ต | เปิด/ปิด 10:30 – 22:00 (ทุกวัน)

มื้อเย็นวันที่นอนในเมืองตั้งใจไปกินข้าวแห้งโกเบ๊นซ์ แต่โชคพาวาสนาส่งโกเบ๊นซ์ปิดยาว 4 วัน เลยต้องเปลี่ยนแผน คนพื้นที่แนะนำร้าน ยศข้าวต้ม ไปถึงร้านตอนหัวค่ำ คนเกือบเต็มร้าน มื้อนี้สั่งอาหารมาแค่ 4 อย่าง เพราะไม่ค่อยหิวกัน อร่อยทุกอย่าง ใครเบื่ออาหารทะเล อยากกินข้าวแบบง่ายๆ แนะนำร้านนี้ ยศข้าวต้ม สาขา 5 (ไม่รู้ว่าสาขา 1-4 อยู่ที่ไหนเหมือนกัน) ร้านตั้งอยู่หัวมุมไฟแดง ตรงข้ามร้านหนังสือเส้งโห้ ตรงข้ามพานิชภูเก็ต ใกล้ย่านเมืองเก่า

ยศข้าวต้ม (สาขา 5) : 31 ถนนพูลผล อำเภอเมือง ภูเก็ต | เปิด/ปิด 15:00 – 23:59 (ทุกวัน)

มื้อเที่ยงวันกลับขอกินอะไรเบาๆ เจ้าถิ่นเลยพากินขนมจีนเจ้าดังของภูเก็ต ขนมจีนสะพานหิน ร้านอยู่แถวสะพานหินตามชื่อร้าน อยู่ออกมาจากกลางเมืองหน่อย มีทั้งน้ำยาป่า น้ำยากะทิ น้ำยาปู น้ำพริก แกงไตปลา แกงเขียวหวาน ผักไปยกถาดมาจากตู้แช่ได้เลย มีผักหลากหลายอยู่ ผักดองอร่อย วันนี้เลือกน้ำยาปู รสชาติใช้ได้ ปูเป็นตัวเล็กๆไม่ได้เป็นปูก้อน กัดๆดูดๆเอามันส์ ห่อหมกพอใช้ได้ ไก่ทอดกับทอดมันไม่ได้ทอดร้อนๆเลยไม่ค่อยอร่อย สรุปว่าพอใช้ได้ ไม่ได้อร่อยมากเท่าที่คาดหวัง

ขนมจีนสะพานหิน : 66/2 สะพานหิน อำเภอเมือง ภูเก็ต | เปิด/ปิด 08:30 – 19:00 (ทุกวัน)

มื้อเช้าวันที่อยู่ในเมือง เลือกร้าน โรงโกปี๊ อยู่ไม่ไกลจากย่านเมืองเก่า อิ่มแล้วจะได้ไปเดินเล่นถ่ายรูปกัน ขับรถไปได้ ซอยเล็กแต่มีลานจอดของร้านอยู่เลยร้านไปหน่อย ไปถึงช่วงก่อน 9 โมงเช้า คนเต็มร้านแล้ว แต่รอโต๊ะไม่นาน เลือกสั่งกันคนละอย่างไม่ซ้ำเลย ขอตักชิมทุกจาน อร่อยดี ไม่ผิดหวัง ร้านจัดได้เก๋ไก๋ เหมือนมากินข้าวบ้านเพื่อน นี่นั่งกินหน้าโต๊ะหมู่บูชากันเลย

โรงโกปี๊ : 261 ซอยภูธร (ซอยศาลเจ้าจุ๊ยตุ่ย) ตำบลตลาดเหนือ อำเภอเมือง ภูเก็ต | เปิด/ปิด 06:00 – 13:00 (ปิดวันพุธ)

มาภูเก็ตต้องไม่พลาดติ่มซำ มื้อสายวันแรกที่บินมาถึง รับรถเช่าแล้วขับออกมาหาร้านรองท้องก่อนเข้าเมือง เลือกร้าน เจี่ยย์ติ่มซำ ห่างจากสนามบินแค่ 3 กม. (ใกล้กันมีร้านซุปเปอร์ติ่มซำด้วย รถเยอะกว่า เลยกลัวคนเยอะรอนาน ขับเลยมาร้านเจี่ยย์ตามที่ตั้งใจแต่แรก) ร้านใหญ่โต มีขายของฝากด้วย ติ่มซำมีให้เลือกเยอะพอสมควร เลือกแล้วก็ให้ไปนึ่งมาเสิร์ฟร้อนๆ ตั้งใจมากินเบาๆรองท้อง แต่สั่งไปสั่งมาเข่งท่วมหัว สรุปความว่าราคาค่อนข้างสูงและไม่อร่อยเท่าที่หวังเลยทำให้รู้สึกว่ามื้อนี้แพง

เจี่ยย์ติ่มซำ บะกุดเต๋ ของฝาก สนามบินภูเก็ต : 145 ตำบลสาคู อำเภอถลาง ภูเก็ต | เปิด/ปิด 06:00 – 15:00 (ทุกวัน)

#คาเฟ่เก๋ๆชิคๆ

ตามสมัยนิยม ต้องไม่พลาดแวะคาเฟ่เก๋ๆชิคๆ ได้แวะคาเฟ่ จิบกาแฟหลังมื้ออาหารทุกวัน ภูเก็ตมีร้านคาเฟ่มากมายเหมือนดอกเห็ดหน้าฝน บางร้านเน้นกาแฟ บางร้านเน้นสวยให้ถ่ายรูป แต่ทุกร้านแพงมากกกก

Summore Day Cafe : คาเฟ่ใกล้แหลมพรหมเทพมาก แบบว่าจิบกาแฟเสร็จแล้วเดินไปแหลมพรหมเทพได้เลย ทิวทัศน์งามสุดๆ แต่ไม่ได้พระอาทิตย์ตกนะ มันหลบเหลี่ยมเขาไปหน่อย มีเครื่องดื่มหลากหลาย ราคาโหดหน่อยตามความงามของทิวทัศน์ มีส่วนด้านในแอร์เย็นฉ่ำ กับด้านนอก ที่ถ้าอากาศจะเย็นสักหน่อยก็เหมาะกับนั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆไปชมวิวไป

Summore Day Cafe : ใกล้แหลมพรหมเทพ 94 ถนนวิเศษ ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง ภูเก็ต | เปิด/ปิด 10:00 -20:00 (ทุกวัน)

Cozy Cafe Phuket : คาเฟ่ + ที่พักที่พวกเราพักในทริปนี้ อยู่ในเขตหาดไตรตรัง ที่ถัดจากหาดป่าตอง บรรยากาศดีมาก โดยเฉพาะช่วงเย็น นั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆชมวิวไป มีจุดถ่ายรูปเก๋ๆเยอะมาก ชั้นแรกก็เป็นลานชมวิวนั่งๆนอนๆ Bean Bag สบายๆ หรือสั่งเครื่องดื่มแล้วเดินลงด้านล่างไปได้ถึงหาดหิน มีจัดมุมถ่ายรูปเก๋ๆหลายจุด หรือจะแค่เอาเครื่องดื่มมานั่งจิบกับวิวสวยสงบก็เพลินใจแล้ว

Cozy Cafe Phuket : 94 ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ ภูเก็ต | เปิด/ปิด 10:00 -21:00 (ทุกวัน)

คนดูแลพื้นที่มาถ่ายรูปให้ ถึงรู้ว่าต้องถ่ายแบบนี้ ฮา….

Baboon : โซนคาเฟ่ของ Hanuman World อยู่อาคารหลังของ Three Monkeys Restaurant บรรยากาศกลางป่า ธรรมชาติสีเขียวๆ เครื่องดื่มและเบเกอรี่ระดับพรีเมี่ยม ราคาก็พรีเมี่ยมด้วย เมล็ดกาแฟเขาบอกคั่วเองที่นี่เลย ร้านตกแต่งหรูหราน่านั่ง ที่นั่งมีทั้งด้านนอก และด้านในที่เป็นกระจกรอบด้านมองเห็นคนเล่นโหนสลิงไปมาเหมือนทาร์ซาน มองไปรอบๆเผลอคิดว่าอยู่เมืองนอก เพราะมีแต่คนต่างชาติ

Baboon Phuket : 105 หมู่ 4 ถนนเหมืองเจ้าฟ้า ตำบลป่าตอง อำเภอเมือง ภูเก็ต | เปิด/ปิด 08:00 -22:00 (ทุกวัน)

Rush Coffee : ร้านกาแฟในเขตเมืองเก่า อยู่ในซอยรมณี ซอยแยกจากถนนถลางทะลุไปถนนดีบุก ซอยที่ฝั่งถนนถลางมีผนังดอกไม้อยู่ปากซอย คนชอบมาถ่ายรูปกันเยอะๆ ในซอยรมณีมีคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก เยอะแยะ ร้าน Rush coffee เป็นร้านกาแฟที่ปิดมืดเลยได้แวะกัน หลังเดินเล่นในย่านเมืองเก่า กาแฟดี เบเกอรี่ใช้ได้ ที่นั่งสบาย บรรยากาศดี

Rush Coffee Phuket : 31 ซอยรมณีย์ ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง ภูเก็ต | เปิด/ปิด 08:00 -19:00 (อาทิตย์ปิด 21:00)

Pikgo Cafe : ร้านกาแฟที่อยู่ติดกับ ขนมจีนสะพานหิน อิ่มขนมจีนแล้วก็มาต่อกาแฟกับขนมเค้ก นั่งคุยกันชิลๆในห้องแอร์เย็น มีเปิดให้เห็นห้องทำเบเกอรี่เองด้วย ร้านอาจไม่ได้เน้นสวยแต่มีสวนร่มรื่น เครื่องดื่มกับเบเกอรี่ดีใช้ได้เลย ร้านได้รางวัล Wongnai Users’ Choice 2019 ด้วยนะ

Pikgo Cafe : 66/2 วงเวียนสะพานหิน ถนนภูเก็ต ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง ภูเก็ต | เปิด/ปิด 09:00 -20:00 (ทุกวัน)

#ที่พักหลักพัน

Cozy Cafe Phuket ที่พักบนเขาวิวหาดไตรตรังและหาดป่าตอง มีทางเดินลงไปหาดได้ แต่เป็นหาดหิน เดินไปหาดไตรตรังที่เป็นหาดทรายได้แค่ 200 ม. มีที่พักแค่ 5 ห้อง วิวทะเลทุกห้อง ชั้นแรกบนสุดเป็นคาเฟ่ ที่ฝรั่งนั่งเต็มทุกวัน บรรยากาศสบายๆ จะนั่งโต๊ะหรือนั่งนอน bean bag ก็เพลิน เดินลงชั้นล่างเป็นห้องพัก เลยลงไปอีกจะเป็นที่นั่งจิบเครื่องดิื่มชมวิวได้อีก มีมุมถ่ายรูปเพียบ ที่นี่มีขายอาหารด้วย เมนูอาจไม่มากแต่ฝากท้องได้

Cozy Cafe Phuket : หาดไตรตรัง 94 ตำบลป่าตอง อำเภอกะทู้ ภูเก็ต

โรงแรมมนตรี โรงแรมย่านกลางเมืองภูเก็ต อยู่บนถนนมนตรี ใกล้เมืองเก่ามาก จอดรถไว้ที่โรงแรมแล้วเดินเที่ยวได้เลย ห้องพักสะอาด สิ่งอำนวยความสะดวกครบถ้วนตามมาตรฐาน แต่ห้องน้ำเล็กไปหน่อย ด้านล่างมีห้องอาหาร มีร้านกาแฟ

โรงแรมมนตรี : 12/6 ถนนมนตรี ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง ภูเก็ต

จบทริป ภูเก็ต 4 วัน 3 คืน แบบเที่ยวน้อย กินหนัก พักสบาย โปรแกรมเที่ยวแบบเที่ยวน้อยจริงๆ ตามนี้

D-1 กรุงเทพ-ภูเก็ต
เจี่ยย์ติ่มซำ (เช้า) / วัดพระทอง / วัดฉลอง / หาดราไวย์ / ล่องเล ซีฟู๊ด ราไวย์ (เที่ยง) / Summore Day Cafe / แหลมพรหมเทพ / จุดชมวิวกังหันลม / ที่พัก Cozy Cafe Phuket หาดไตรตรัง + มื้อเย็นที่พัก

D-2 ภูเก็ต
ดำน้ำเกาะไข่ 1/2 วัน / หมอมูดง (เที่ยง) / Baboon Cafe / ที่พัก Cozy Cafe Phuket หาดไตรตรัง + มื้อเย็นที่พัก

D-3 ภูเก็ต
1/2 วันเช้าชิล @ที่พัก / กินดี (เที่ยง) / สนามบินส่งเพื่อนกลับกรุงเทพฯ 2 คน / เดินเล่นเมืองเก่าภูเก็ต / Rush Cafe / ที่พัก โรงแรมมนตรี / ยศข้าวต้ม (เย็น)

D-4 ภูเก็ต-กรุงเทพฯ
โรงโกปี๊ (เช้า) / เมืองเก่าภูเก็ต / ขนมจีนสะพานหิน (เที่ยง) / Pikgo Cafe / หาดไม้ขาว / สนามบิน