Patagonia : Paradise at the end of the world

Patagonia : Paradise at the end of the world
Argentina & Chile

February 2025
Traveler : Kay

ปาตาโกเนีย | Patagonia พื้นที่บริเวณปลายใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้ ครอบคลุมพื้นที่ในประเทศอาร์เจนตินาและประเทศชิลี โดยในประเทศอาร์เจนตินา เริ่มจากทางใต้ของเทิอกเขาแอนดีส ตั้งแต่ทางใต้ของบัวโนสไอเรส (Buenos Aires), ลาปัมปา (La Pampa), เนวเกน (Neuquén), รีโอเนโกร (Río Negro), ชูบุต (Chubut), ซานตากรุซ (Santa Cruz) รวมถึงกลุ่มเกาะเตียร์ราเดลฟวยโก (Tierra Del Fuego) ส่วนในประเทศชิลี เป็นพื้นที่ไปทางตะวันตกเฉียงใต้จนถึงมหาสมุทรแปซิฟิก เลาะตามแนวชายฝั่ง จากบริเวณ บัลดีเบีย Valdivia ไปถึงแคว้นไอย์เซน (Aysén) และแคว้นมากายาเนสและลาอันตาร์ตีกาชีเลนา (Magallanes y Antártica Chilena) พื้นที่ปาตาโกเนียทั้ง 2 ประเทศรวมกันมากกว่าสี่แสนตารางไมล์

ปาตาโกเนีย ดินแดนสวรรค์ที่สุดขอบโลกแดนใต้

ทำไม ปาตาโกเนีย ถึงเป็นหนึ่งในหมุดหมายของนักเดินทาง

ความโดดเด่นของภูมิภาคปาตาโกเนียก็คือ ความหลากหลายของภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และความหลากหลายทางชีวภาพรวมอยู่ด้วยกัน อันประกอบไปด้วย ภูเขาสูง ป่าดิบชื้น ทะเลสาบสีสวย เทือกเขาแหลมสูง ธารน้ำแข็งมหึมา และทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ทั้งยังเป็นที่อยู่ของสัตว์ป่านานาชนิด เช่น เสือพูมา กวางนาคอส เพนกวิน และนกต่างๆ ความยิ่งใหญ่อลังการของภูมิประเทศและความหลากหลายของธรรมชาติทำให้ ปาตาโกเนีย เป็นเป้าหมายในใจของนักเดินทางจำนวนมาก ที่ต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต

ปาตาโกเนียฝั่งอาร์เจนตินา มีพื้นที่กว่า 90% ของภูมิภาคปาตาโกเนียทั้งหมด ลักษณะภูมิประเทศแบบทุ่งหญ้าสะวันนา เทือกเขาสูง ทะเลสาบ และธารน้ำแข็ง มีความแห้งแล้งกว่าฝั่งชิลี เนื่องจากเทือกเขาแอนดีสกั้นไม่ให้ลมและฝนจากมหาสมุทรแปซิฟิกข้ามมาได้

🏠 เอล คาลาฟาเต (El Calafate)

เอล คาลาฟาเต เมืองที่เป็นศูนย์กลางของปาตาโกเนียในฝั่งอาร์เจนตินา เมืองเล็กๆริมทะเลสาบอาร์เจนติโน (Lago Argentino) กับฉากหลังเทือกเขาแอนดีส มีที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกตลอดทางของถนนสายหลักสายเดียวของเมือง สามารถหาซื้อทัวร์แบบหลากหลายแบบ หลากหลายราคา เอล คาลาฟาเต เป็นเมืองหน้าด่านในการเข้าไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติลอส กลาเซียเรส (Los Glaciares National Park) ที่ห่างออกไปแค่ 30 นาที

Patagonia “Paradise at the end of the world”
Lago Argentino, El Calafate

💠 อุทยานแห่งชาติลอส กลาเซียเรส (Los Glaciares National Park) 💠

อุทยานแห่งชาติลอส กลาเซียเรส เป็นอุทยานที่ใหญ่ที่สุดของอาร์เจนติน่า ด้วยขนาดพื้นที่ 7,269.27 ตร.กม. ภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อนและทะเลสาบน้ำแข็งหลายแห่ง อย่างเช่น ทะเลสาบอาเจนติโน Argentino ที่มีความยาวถึง 160 กม. ที่ปลายสุดของทะเลสาบมีธารน้ำแข็ง 3 สายมาบรรจบกัน และปล่อยน้ำที่ไหลลงสู่ผืนน้ำน้ำแข็งสีเทาขุ่น ชื่ออุทยาน “Los Glaciares” มาจากพื้นที่ในเขตอุทยานมีส่วนที่เป็นธารน้ำแข็งปกคลุมพื้นที่ถึง 30% ของอุทยาน เช่น ธารน้ำแข็ง Upsala, Onelli และ Perito Moreno อุทยานแห่งชาติลอส กลาเซียเรส ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 1981

กิจกรรมในเขตอุทยานส่วนมากเป็นการเดินป่า ไต่เขา ชมทิวทัศน์ของเทือกเขาสูงและทะเลสาบ มีการจัดทำเส้นทางเดิน (Trail) ไว้ถึง 27 เส้นทาง นอกจากนั้นยังมีการนั่งเรือชมธารน้ำแข็ง และการเดินไต่ภูเขาน้ำแข็งสักครั้งในชีวิต

ธารน้ำแข็งเปอริโต้ โมริโน (Perito Morino Glacier) เป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากธารน้ำแข็งขั้วโลกใต้และอะแลสก้า เป็นสถานที่มหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ UNESCO ยกให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี ค.ศ.1981 การเข้าไปดูธารน้ำแข็งทำได้ทั้งแบบ นั่งเรือแล้วเดินต่อ หรือ เดินเท้าเข้าไปเลยก็ได้ (Perito Moreno Glacier Trail)

🚶🏻 Perito Moreno glacier minitrekking [2Hrs.]

20 minutes navigation boat cruise > views of the glacier’s front walls and the Canal de los Témpanos (Icebergs Channel) > minitrekking on ice to Perito Moreno glacier (2Hrs.)

Perito Moreno glacier trekking เป็นประสบการณ์ที่ได้ไปเดินเหยียบบนธารน้ำแข็ง เห็นถ้ำน้ำแข็ง เห็นสายธารที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็ง ได้ยินเสียงกังวาลอย่างต่อเนื่องของการขยายตัวของธารน้ำแข็ง ได้เห็นก้อนน้ำแข็งที่แตกออกมาจากธารน้ำแข็ง และตกกระทบลงบนพื้นน้ำทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ใน Lago Argentino

🏠 เอล ชานเตน (El Chaltén)

เมืองเล็กๆอีกเมือง ที่เป็นจุดตั้งต้นของการเดินเข้าไปให้ถึงเทือกเขา Fitz Roy ที่เป็นเหมือนสัญญลักษณ์ของปาตาโกเนีย อยู่ห่างจากเมือง เอล คาลาฟาเต ประมาณ 3 ชม.

El Chaltén, road to Fitz Roy

🚶🏻Laguna de Los Tres via Monte Fitz Roy Trail [22 Km. (RT) : 8-10 Hrs]

เส้นทางเดินขึ้นไปจุดชมวิวภูเขาฟิตซ์รอย | Monte Fitz Roy สามารถเริ่มต้นเดินจาก El Chaltén ได้เลย เป็น Trail ที่นักท่องเที่ยวที่มาถึงปาตาโกเนียฝั่งอาร์เจนตินาไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง แม้ระยะทางจะดูไกล แต่รับรองว่าสวยคุ้มค่า

ยอดเขาฟิตแรยซ์ (Monte Fitz Roy) หรือ Cerro Fitz Roy

🚶🏻 Laguna Torre trail [ 19 Km. (RT) 5-8 Hrs.]

Day Hiking Trail ที่เดินขึ้นมาจากเมือง El Chaltén ไปถึงทะเลสาบ Torre Lagoon เป็นจุดที่เห็นถึงสภาวะที่ธารน้ำแข็งที่เคลื่อนตัวลงมาเป็น iceberg ลอยอยู่ใน Laguna Torre

ปาตาโกเนียฝั่งประเทศชิลี เป็นภูมิประเทศแบบป่าฝนเขตอบอุ่น โดดเด่นด้วยยอดเขาแกรนิตสูงตระหง่าน และทะเลสาบจำนวนมาก นอกจากนั้นยังเต็มไปด้วยฟยอร์ด ธารน้ำแข็งและทะเลน้ำแข็ง ภูมิอากาศจะชื้นและเย็นกว่าฝั่งอาร์เจนตินา

ปาตาโกเนียฝั่งประเทศชิลีเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์หลากหลายสายพันธุ์อย่างเช่น กัวนาโค | Guanaco สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตระกูลเดียวกับอูฐแต่ตัวเล็กกว่า หรือ แร้งคอนเดอร์ | Condor นกแร้งพื้นถิ่นแถบเทือกเขาแอนดีส หรือเสือพูม่า | Puma จึงเป็นสวรรค์ของนักเดินป่าและคนชอบส่องสัตว์

🏠 เปอร์โต นาตาเลส (Puerto Natales)

เปอร์โต นาตาเลส เป็นเมืองหลักในการท่องเที่ยวปาตาโกเนียฝั่งชิลี ถ้าเริ่มต้นเที่ยวปาตาโกเนียจากประเทศชิลี มีเที่ยวบินจากเมืองหลวง Santiago มาที่ Puerto Natales แล้วนั่งรถต่อไปที่ Torres Del Paine National Park แต่ค่อนข้างไกลร่วม 100 กม. นั่งรถใช้เวลา 2-3 ชม.

จาก Puerto Natales มีรถบัสนั่งข้ามไป El Calafate ฝั่งประเทศอาร์เจนตินาได้ ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชม. รวมเวลาลงไปตรวจพาสปอร์ตที่ด่านทั้ง 2 ฝั่งด้วย หรือจะหาเช่าเหมาทัวร์ หรือเหมารถข้ามก็หาได้จากที่นี่

♦️ อุทยานแห่งชาติตอร์เรส เดล ไปย์เน (Torres del Paine National Park) ♦️

ภูมิประเทศของอุทยานตอร์เรส เดล ไปย์เน มีความหลากหลายอย่างมาก ตั้งแต่ภูเขาหินแกรนิตที่สูงตระหง่าน อย่าง ตอร์เรส เดล ไปย์เน ที่เป็นสัญลักษณ์ของอุทยานฯ ไปจนถึงแม่น้ำน้ำแข็งอย่าง แม่น้ำน้ำแข็งเกรย์ อุทยานแห่งนี้ได้รับการประกาศให้เป็นเขตสงวนชีวมณฑล (Biosphere) โดย UNESCO ในปี ค.ศ. 1978 เพื่อยกย่องว่ามีระบบนิเวศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ

อุทยานตอร์เรส เดล ไปย์เน มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติถึง 64 เส้นทาง (64 Trails) แบ่งเป็น Hiking Trails: 43 / Backpacking Trails: 17 และ Walking Trails: 11 เส้นที่นักท่องเที่ยวนิยมมากสุดคือ W trek, O trek ซึ่งใช้เวลา 5-8 วัน สามารถเลือกเส้นทางเดินได้ตามต้องการ

เส้น W trek คือทางเดินไป Grey Glacier, French Valley และ Tower Base (วาดสีเทาไว้)
จะเดินแยกเป็นเส้นทางละวันกลับมานอนที่เดิมก็ได้ บางคนก็เดินยาวๆนอนตาม Camp site ที่มี ถ้า O trek ก็เดินวงรอบเลย
(แผนที่เอามาจากเวป https://www.ecocamp.travel/en/tours/patagonia-paine-circuit)

🚶🏻 French Valley day hike Torres del Paine [22 Km.(RT) 8 Hrs.]

เทรลใน W trek ที่ได้นั่งเรือข้ามทะเลสาบเปโอเอ (Lake Pehoe) ทะเลลาบสีเทอควอยซ์ แล้วเริ่มเดินจาก Paine Grande refuge ไป Camp Italiano แล้วไป Frances Glacier Lookout

🚶🏻🚢 Grey Glacier Navigation

การเข้าไปชม Grey Glacier สามารถเดินจาก Paine Grande เดินเลาะริมทะเลสาบ Lago Grey ไปจนถึงจุดชมวิว Grey Glacier ได้ ซึ่ง Gray Glacier Trail เป็น 1 ใน W trek เหมือนกัน [11 Km. 4 Hrs.] หรือจะเดินไปขึ้นเรือ Catamaran ล่องในทะเลสาบเกรย์ Lago Grey ไปดู Grey Glacier ใกล้ๆก็ได้ นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมพายเรือคายัคในทะเลสาบไปดู Grey Glacier ได้ด้วย

ตามจุดต่างๆ ใน National park จะมีข้อมูลทุกวันว่าลมแรงเท่าไร จะมีป้ายเตือนว่าถ้าเป็นระดับสีแดง คือความแรงของลมมากกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ห้ามเดินผ่านเส้นทางนี้ และเรือจะไม่ออก

ทะเลสาบเกรย์และธารน้ำแข็งเกรย์(Lake Grey and Grey Glacier)

ฝั่งอาร์เจนตินามีธารน้ำแข็งเมอร์รืโน ฝั่งชิลีก็มีธารน้ำแข็งเกรย์เป็นจุดเด่น เป็นแหล่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้รองจากแอนตาร์กติกามีความกว้าง 6 กิโลเมตร และสูงกว่า 30 เมตร

ก่อนซื้อตั๋วทางไกด์ไปเช็คกับทางเรือว่าวันนี้จะออกได้ไหม ถ้าลมแรงมากเรือก็จะหยุดให้บริการ วันที่พวกเราไปลมประมาณ 50-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็มีเดินเซไปเซมาตอนเดินข้ามสะพาน และต้องเดินฝ่าลมผ่าน Grey beach ไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อไปขึ้นเรือ นั่งเรือไปกลับรวมประมาณ 3 ชั่วโมงไปดู Grey glaciers

🚶🏻 Condor Lookout South Trail [2.5 Km.]

เทรลสั้นๆแต่มีความชันพอสมควร เดินขึ้นเขาไปจุดชมวิว Mirador Cóndor viewpoint ที่ระดับความสูง 215 ม. จากจุดชมวิวจะมองเห็นทะเลสาบเปโอเอ (Lago Pehoé) ในมุมกว้าง

ทะเลสาบเปโอเอ (Lago Pehoé)

หนึ่งในทะเลสาบที่สวยที่สุดในอุทยานแห่งชาติตอร์เรส เดล ไปย์เน มีต้นกำเนิดมาจากแม่น้ำไปย์เน ทำให้น้ำในทะเลสาบสวยใสเป็นสีเทอร์ควอยซ์ ฉากหลังของทะเลสาบยังเป็นยอดเขา Cuernos del Paine รูปทรงแหลม ที่มียอดเป็นหิมะ ที่เกาะเล็กๆริมทะเลสาบมีโรงแรม Hostería Pehoé ระดับ 4 ดาว

เป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่เดิน hiking แล้วเจอลมแรงมากๆ ต้องใช้ trekking poles ยันไว้ให้ได้เวลาลมปะทะ ใครจะมา trekking ที่ Patagonia ให้เตรียมตัวเตรียมใจไว้เลย

Lago Pehoe from Mirador Condor Lookout

🚶🏻 Torres del Paine viewpoint via Las Torres – El Chileno Trail [22 Km. (RT) 8-10 HRs]

Trail ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวใน W trek ที่มาถึงปาตาโกเนียฝั่งชิลีแล้วต้องไปที่จุดชมวิว Mirador Base Las Torres เพื่อได้เห็น The 3 Torres del Paine หรือ The Tower of Paine โดยเริ่มเดินจาก Puerto Natales ไปที่ Mirador Base Las Torres ระยะทาง 11 กม. ที่ช่วง 800 ม.สุดท้ายชันมาก ใช้เวลาเดินไปกลับเกือบ 10 ชม.

The 3 Torres del Paine or “Towers of Paine”
Torre d’Agostini (South Tower), Torre Central (Central Tower), and Torre Monzino (North Tower)

🐅 Puma Tracking

นอกจากการเดินป่าแล้ว กิจกรรมยอดนิยมอีกอย่างคือ “Puma Tracking” คือการเดินป่าเข้าไปส่องสัตว์ เป้าหมายคือเสือพูม่า ซึ่งก็ไม่รับประกันว่าจะได้เจอ แต่พวกเราโชคดีได้เจอเจ้าเสือพูม่าสมความตั้งใจ

เสือพูม่า หรือสิงโตภูเขา พบได้ตั้งแต่ทางตอนใต้ของรัฐอะแลสกาไปจนถึงตอนใต้ของประเทศชิลี โดยเฉพาะในอุทยานแห่งชาติ ตอร์เรส เดล ไปย์เน มีจำนวนเสือพูม่ามากกว่าที่อื่นๆ เป็นเพราะมีเหยื่ออุดมสมบูรณ์ ไม่ต้องแก่งแย่งกับสัตว์นักล่าอื่นๆ และเสือพูม่ายังได้รับการคุ้มครองในเขตอุทยาน และยังอยู่ในบัญชีขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature: IUCN) ห้ามค้าโดยเด็ดขาด

มาปาตาโกเนียถ้าไม่ได้เจอเจ้ากัวนาโค | Guanaco ถือว่ามาไม่ถึงนะ

สรุป Patagonia Trip

El Calafate (2 nights)

  • Perito Moreno glacier boat cruise & mini trekking [2 Hrs.] – Highlight : Perito Morino Glacier

El Chaltén (3 nights)

  • Laguna de Los Tres via Monte Fitz Roy Trail [22 Km. (RT) : 8-10 Hrs.] – Highlight : Mt. Fitz Roy
  • Laguna Torre trail [19 Km. (RT) : 8 Hrs.] – Highlight : Cerro Torre

Riverside Camp in Torres del Paine (6 night)

  • French Valley day hike Torres del Paine [22 Km. (RT) 10 Hrs.] – Highlight : Frances Glacier Lookout
  • Torres del Paine viewpoint via Las Torres – El Chileno Trail [22 Km. (RT) 8-10 Hrs.] – Highlight : The 3 Torres del Paine
  • Grey Glacier Navigation [Catamaran cruise] – Highlight : Iceberg
  • Condor Lookout South Trail [4 Km. (RT) 2-3 Hrs.] – HIghlight : Lago Pehoé top view
  • Puma Tracking
  • E-Bike from Laguna Amarga to Laguna Azul [32 Km.] – Highlight : Wildlife, Paine Waterfall

Last view of Patagonia. Time to go home

การเดินทาง

ไม่มีสายการบินที่บินตรงจากประเทศไทยไปอาร์เจนตินาหรือชิลี แต่ก็มีหลายสายการบินที่มีแวะต่อเครื่อง 1-2 stop แล้วแต่จะเลือกเที่ยวปาตาโกเนียจากทางอาร์เจนตินาหรือชิลี ถ้าไปฝั่งอาร์เจนตินา ก็ไปบินไปลงที่ Buenos Aires เหมืองหลวงของ Argentina ต้องต่อเครื่องภายในประเทศไปลงที่ El Calafate หรือถ้าตั้งต้นที่ Santiago เมืองหลวงของ Chile ก็ต่อเครื่องภายในประเทศไปลงที่ Puerto Natales

ทริปนี้พวกเราเลือกใช้บริการของ Turkish Airline โดยเริ่มเดินทางจากกรุงเทพฯไปอิสตันบูล (Istanbul, Istanbul International Airport, IST) รอเปลี่ยนเครื่อง แล้วบินต่อจากอิสตันบูลไปกรุงบัวโนส ไอเรส (Buenos Aires, Ezeiza International Airport, EZE) เมืองหลวงของอาร์เจนตินา โดยจะมีการแวะรับส่งคนที่เมืองเซา เปาโล (São Paulo, Guarulhos–Governor André Franco Montoro International Airport, GRU) ประเทศบราซิลด้วย (ใช้เวลา 1.35 ชม. ผู้โดยสารไม่ต้องลงจากเครื่อง) ระยะเวลารวมช่วงแรกของการเดินทางนี้คือ BKK – IST [11.15 Hrs.] > IST – GRU – EZE [18.20 Hrs.]+[1.35 Hrs.] รวม 31 ชม. ไม่รวมเวลาต่อเครื่อง

จากบัวโนส ไอเรส ต้องบินต่อจากสนามบินภายในประเทศ (Aeroparque Jorge Newbery Airport, AEP) ไปเอล คาลาฟาเต (El calafate, Aeropuerto Internacional Comandante Armando Tola de El Calafate, FTE) ใช้บริการ Aerolineas Argentinas : AR เหมือนที่บินไปน้ำตกอีกวาซู ใช้เวลาบินในประเทศ AEP – FTE [3.20 Hrs]

ดังนั้นถ้านับรวมระยะเวลาเดินทางจาก กรุงเทพไปถึง เอล คาลาฟาเต เมืองที่เป็นศูนย์กลางของปาตาโกเนียในฝั่งอาร์เจนตินา ก็สิริรวม 34 ชม. ยังไม่รวมเวลารอต่อเครื่อง คือเดินทางเกือบ 1.5 วัน ดังนั้นก็ควรพักและเที่ยวในบัวโนสไอเรสสัก 1-2 คืนก็ก็ดี เพราะแค่ Stop แรกก็เกิน 30 ชม.ไปแล้ว

Leave a comment