2016.07.15 ดูดอกกระเจียวที่ป่าหินงาม

ทริปฉุกละหุกบุกป่าหินงามตามหาดอกกระเจียวเที่ยวมอหินขาวแล้วยาวไปตาดโตน

ปีนี้ได้ห็นรูปดอกกระเจียวที่มีน้องๆไปเทพสถิตย์มาเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม เห็นเริ่มมีดอกออกบ้างแล้ว ผ่านมาสัก 2 อาทิตย์ จะเข้าพรรษาพอดีก็คงพอมีพอสมควรล่ะ ก่อนวันหยุดยาวเข้าพรรษา เลยตัดสินใจปุบปับไปดูดอกกระเจียวกัน มีเวลาแค่ 1 คืน ก่อนวันหยุดยาว (ซึ่งเราพยายามหลีกเลี่ยงการเที่ยวช่วงวันหยุดยาวมาสักพักแล้ว ไม่ไหวจริงๆทั้งเหนื่อยทั้งเครียด)

ตกลงใจไปดูกระเจียวที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อ.เทพสถิตย์ ซึ่งจริงๆแล้วชอบทุ่งดอกกระเจียวที่อุทยานฯไทรทองมากกว่า แต่ตอนนี้ยังต้องถือว่าเร็วไปหน่อยที่จะไปดูดอกกระเจียวที่ไทรทอง เพราะดอกกระเจียวที่ไทรทองจะออกช้ากว่าที่เทพสถิตย์เล็กน้อย

แผนการคร่าวๆคือ ออกเดินทางจากกรุงเทพฯตอนเช้า พุ่งตรงไปตัวเมืองชัยภูมิ เพื่อทานขนมจีน แล้วไปเที่ยว ‘มอหินขาว’ กับ ‘น้ำตกตาดโตน’ แล้วไปพักแถวๆอ.เทพสถิตย์ ค่อยเข้าดูดอกกระเจียวที่อช.ป่าหินงามช่วงเช้าวันรุ่งขึ้น ถ้ามีเวลาสัก 2 คืน ก็ไปดูดอกกระเจียวที่ไทรทองก่อน แล้วค่อยลงมาที่ป่าหินงาม แล้วกลับกรุงเทพฯได้เลย ทีเดียวเที่ยวครบ

จุดแรกที่ไปเที่ยวคือ ‘มอหินขาว’ อยู่ในเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา ตอนไปไม่เห็นป้อมเก็บเงินค่าเข้า ขับรถเข้าไปได้ถึงลานจอดข้างๆได้เลย จุดเด่นก็หินแท่งๆ 4-5 แท่งนี้ สวยงามยามฟ้าใสอย่างวันนี้

 

   

เมื่อสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆที่ พยายามตั้งป้ายในจุดที่หลีกเลี่ยงไม่ค่อยได้ ก็จำเป็นต้องจับมันเข้าไปให้เป็นองค์ประกอบของรูปให้ดีที่สุด(เท่าที่จะทำได้)

ออกจากมอหินขาวมาไม่ไกล เลี้ยวซ้ายไปอีกนิดก็ถึงน้ำตกตาดโตน ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดโตน ต้องเสียค่าเข้าทั้งค่ารถและค่าเข้า จอดรถที่ลานจอดแล้วเดินเข้าไปไม่ไกล มีจุดให้ลงไปน้ำตกได้ง่ายๆ

   

เที่ยวได้ 2 จุดก็เย็นแล้ว บึ่งรถย้อนกลับไปอ.เทพสถิตย์ เพื่อเข้าที่พักที่โทรศัพท์ถามไว้ระหว่างทางมา กว่าจะไปถึงที่พักก็เกือบสองทุ่มเหมือนกัน ระยะทางจากน้ำตกตาดโตนไป อ.เทพสถิตย์ก็ราวๆ 120 กม. ขับรถก็สัก 2 ชม.กว่า เพราะมีซ่อมถนนไปตามทางด้วย พักผ่อน 1 คืน ตอนเช้าออกจากที่พักแต่เช้ามืด เข้าไปที่อช.ป่าหินงามก่อนเจ็ดโมงเช้า สอบถามแล้วอุทยานเปิดให้เข้าตั้งแต่ก่อน 6 โมงเช้า ระยะทางแล้วแต่ที่พักที่คุณเลือก ที่พักของเราห่างจากอช.ประมาณ 3.5 กม. ถือว่าใกล้มาก แต่มีที่พักใกล้กว่านี้อีกเยอะ แต่ยิ่งใกล้ทางเข้าอุทยานก็ยิ่งจอแจ ร้านค้าขายของเยอะแยะ ที่พักเล็กๆมีเยอะ หน้าเทศกาลคงมีคนแน่นไปหมด

ไม่ได้มาดูดอกกระเจียวนานหลายปีแล้ว แต่ก็พอรู้ข่าวว่าเดี๋ยวนี้ที่ป่าหินงามมีการจัดระเบียบนักท่องเที่ยวใหม่ทั้งหมด มีจัดรถวิ่งวนส่งตามจุดต่างๆ ทำให้เข้าไปเที่ยวได้ง่ายขึ้น ยังไม่เคยใช้บริการต้องไปลองดูหน่อย

การจัดการก็เป็นแบบไม่มีระเบียบควบคุมอะไร มีแค่เก็บค่าเข้าโดยจนท.อุทยาน แล้วก็มีคนนั่งขายตั๋วรถนำเที่ยว ซึ่งเป็นรถเวียนหน้าตาตามรูปข้างบน จะมีจุดจอดรถประมาณ 3 จุด คือ สุดแผ่นดิน ให้ไปชมวิวหน้าผา, จุดทุ่งดอกกระเจียว, จุดลานหินงาม, แล้วก็อาจมีจอดรายทางบ้างถ้าเจอนักท่องเที่ยว ยังสงสัยว่าจะควบคุมยังไง บางคนเดินเข้ามาเที่ยวเอง สุดท้ายก็ไปรอจุดจอดรถนั่งรถได้อยู่ดี เพราะไม่มีตรวจบัตร  นักท่องเที่ยวเดินบ้างนั่งรถบ้าง เดินเข้าป่าไปบ้างเดินตามถนนบ้าง คิดว่าจะมีการควบคุมมากกว่าที่ผ่านมาก็ไม่ใช่เลย คงแค่จัดรถมาบริการนักท่องเที่ยวเฉยๆ มีเด็กนักเรียนมานั่งพูดอะไรเรื่อยเปื่อย ซึ่งไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เสียงก็ไม่ชัด พูดแบบท่องจำมาสั้นๆ เพราะระยะทางก็สั้น ไม่ได้มีอะไรให้บรรยายนัก เข้าใจว่าต้องการให้เด็กๆมีรายได้บ้าง แต่ควรจัดให้เด็กทำอะไรที่มีประโยชน์กว่านี้ จะบรรยายก็จัดข้อมูลให้ดีหน่อย ทุกคนยินดีบริจาคเงินเล็กน้อยในกล่องด้านหน้าอยู่แล้ว

ดอกกระเจียวช่วงก่อนวันเข้าพรรษาที่ป่าหินงามยังไม่เยอะเท่าที่คิดนะ แต่ก็มีบางทุ่งเหี่ยวไปแล้ว มันคงไล่ๆกันออกดอกเป็นทุ่งๆไป ทางเดินก็มีทรุดโทรมไปบ้าง โดยรวมก็ยังดีอยู่ สลิงที่กันแนวทางเดินมีพังไปบางส่วนแต่ยังไม่เห็นนักท่องเที่ยวลงไปในทุ่ง ได้ยินพ่อแม่สอนลูกให้เดินในทาง ฟังแล้วก็ชื่นใจ คนไทยปรับปรุงตัวกันดีขึ้นมาก

    

การมาตอนเช้าๆจะได้บรรยากาศดอกกระเจียวท่ามกลางหมอกแบบนี้ และอากาศไม่ร้อนด้วย แต่ก็จะไม่ได้ภาพวิวตรงสุดแผ่นดินเพราะหมอกจะขาวฟุ้งไปหมด เดินเล่นถ่ายรูปจนสายๆค่อยไปดูวิวตรงสุดแผ่นดินก็ได้ ฟ้าน่าจะเปิดมองเห็นวิวได้มากขึ้น (คราวนี้ไม่ได้ไป รีบไปเดินลานป่าหินงามแทน กลัวสายมากจะร้อน)

   

จบทริปตอนสายๆ กลับที่พักไปทานอาหารเช้า พักผ่อนก่อนขับกลับกรุงเทพฯ ที่พักคราวนี้ไม่ได้หาล่วงหน้า เพราะตัดสินใจจะไปตอนดึกเก็บข้าวเก็บของ เช้าก็ออกรถเลย ลอง search ดูเห็นว่ามีที่พักเปิดใหม่ใกล้ๆเพียบเลย (สมัยก่อนคือสิบกว่าปีที่แล้วที่เคยมา ที่พักยังน้อยนะเพราะคนจะมาแวะเที่ยวแล้วก็ไป ไม่พักกัน) เราเลือกที่ “เส้นทาง @Love”  เพราะเป็นคืนก่อนวันหยุดยาว โทรถามที่อื่น 2 ที่ก็ไม่ว่างซะแล้ว คิดว่าคงหายากล่ะ ที่นี่ว่างก็เอาเลย ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก แต่มาถึงแล้วดีทีเดียว ที่พักสวยเท่าที่เห็นในเวป ซึ่งเป็นเรื่องดี หลายๆที่ในเวปสวยแต่มาจริงแล้วโทรม มาถึงมืด เจ้าของน่ารักให้ความช่วยเหลือดี บรรยากาศโดยรอบตกแต่งแบบที่นักท่องเที่ยวสมัยนี้คงจะชอบเพราะมีมุมถ่ายรูปเยอะมากๆ ที่พักเหมาะกับคนขับรถมาเพราะเข้าซอยมาหลายร้อยเมตร และห่างจากทางเข้าอช.ป่าหินงามประมาณ 3-4 กม.

ไม่ได้ค่าโฆษณาใดๆนะ แต่อยากเล่าว่าถูกใจที่นี่ มันเป็นการยากพอควรนะกับการที่เจ้าของจะดูแลรักษาสถานที่ให้สวยงามได้ตลอดเวลา ในสถานที่ท่องเที่ยวที่ขายได้แค่ช่วง 1-2 เดือน คนจะมาเทพสถิตย์ก็คงมาดูดอกกระเจียวซึ่งก็บานแค่ช่วงหน้าฝน ช่วงเข้าพรรษา ไม่มีที่เที่ยวอื่นมากมาย ฤดูอื่นๆคนคงน้อย ค่าที่พักไม่ใช่หลักร้อย หลักพันต้นๆ แต่ความสวยงาม ความสะอาด ความสบาย เรารับได้ มีชากาแฟขนมน้ำดื่ม ให้บริการฟรีตลอดเวลาที่ส่วนกลาง บรรยากาศเหมาะแก่การพักผ่อน ไม่ใช่แค่นอนแล้วก็ไป เราจึงกลับมาทานอาหารเช้า แล้วอาบน้ำพักผ่อนนอนเล่น รับลมเย็นๆก่อนกลับ สบายตาสบายใจ ^^

อาหารเช้าเสิร์ฟ 2 อย่าง ข้าวต้มกับไข่กระทะ | มุมชากาแฟ น้ำดื่ม ขนม ที่บริการทั้งวันฟรี

ขอตั้งชื่อว่ารีสอร์ทหมีสิง 5555 มากมายไปด้วยหมีทั้งรีสอร์ทเลย