รู้จักอเมริกากับการทำ VISA ที่ว่ายากเหลือเกิน

United State of America

สหรัฐอเมริกา, United State of America ประเทศมหาอำนาจสำหรับคนรุ่นเรา อยู่คนละฝั่งโลกกับประเทศไทย ชนิดว่าเราเข้านอนคนที่โน่นตื่นมาทำงาน สหรัฐอเมริกาประกอบด้วย 50 มลรัฐ (States) ซึ่งเขามีการแบ่งทั้ง 50 รัฐนั้นเป็นหลายแบบมาก มีแบ่งตามลักษณะภูมิประเทศก็มี ตามภูมิอากาศก็มี ตาม Time Zone ก็มี ซึ่งเรางุนงง ทำไมไม่แบ่งเหนือ กลาง ใต้ ออก ตก ง่ายๆแบบบ้านเราก็ไม่รู้ เราก็เลยแบ่งง่ายๆเอาเองเป็น 3 ส่วน คือ ฝั่งตะวันออก, ฝั่งตะวันตก แล้วก็ตรงกลาง เวลาเที่ยวก็เลือกเที่ยวว่าจะไปตะวันตก อย่างแถบ California หรือไปทางตะวันออก อย่าง New York สำหรับช่วงกลางนั้นใหญ่มาก น่าจะต้องมีแบ่งเป็น เหนือ กลาง ใต้ อีก แต่ยังไม่ได้สนใจเพราะยังไม่เคยไปเลย

อเมริกา 50 รัฐ เขาแบ่งได้หลายแบบมาก

ความกว้างใหญ่ 9.4 ล้าน ตร.กม. ของอเมริกาทำให้การเดินทางข้ามฝั่งจากตะวันตกมาตะวันออกกินเวลาหลายวัน จนแนะนำให้นั่งเครื่องบิน นอกจากอยากแวะเที่ยวตามรายทาง เช่น จะเดินทางจาก California ทางตะวันตก มา New York ทางตะวันออก ถ้านั่งรถใช้เวลา 45 ชม. คือเกือบ 2 วันเต็มๆ โดยไม่หยุดพักด้วยนะ ปกติก็ต้องมีจอดพักนอนกันบ้างก็น่าจะใช้เวลาร่วม 3-4 วัน แต่ถ้านั่งเคื่องบินก็จะใช้เวลาราวๆ 5 ชม. นานกว่าบินไปกลับเชียงใหม่-หาดใหญ่อีกนะ

ไปเที่ยวอเมริกาช่วงไหนดี?

ประเทศอเมริกานั้นใหญ่มาก ใหญ่ชนิดฝั่งตะวันออกตะวันตกมี Time Zone ไม่เหมือนกัน ทำให้ฤดูกาลก็ต่างกัน ถ้าเริ่มต้นจากการกำหนดช่วงเวลาที่จะไป ก็ต้องดูว่าช่วงเวลานั้นอเมริกาฝั่งไหนจะสวย จะอากาศดี เช่น ถ้าจะไปเที่ยวช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน ถ้าไปแคลิฟฟอเนียร์หรือฟลอริดา อากาศจะสบายๆจะเริ่มร้อน แต่ถ้าขึ้นไปทางเหนือแถบ มินเนโซต้า ยูทาร์ โคโลราโด ยังมีหิมะอยู่เลย แต่ถ้ากำหนดสถานที่ๆจะไป ก็ต้องมาดูว่ามันจะสวยงามช่วงไหน เช่น ถ้าจะไปแถบนิวยอร์ค ช่วงฤดูหนาวจะหนาวโหดมาก คนชอบหิมะน่าจะชอบ แต่ถ้าไปฤดูใบไม้ผลิอากาศจะหนาวไม่มาก เที่ยวสบาย ธรรมชาติสวย

แล้วคำว่าสวยงามของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอีกนะ บางคนชอบบรรยากาศแบบอากาศเย็นๆแต่งตัวได้สวยๆพอแล้ว บางคนชอบอากาศหนาว ชอบหิมะ บางคนว่าวิวจะสวยต้องใบไม้เปลี่ยนสี บางคนว่าความสวยงามคือดอกไม้บาน สำหรับเราช่วงเวลาที่น่าไปคือช่วงก่อนและหลังฤดูร้อนคือ ฤดูใบไม้ผลิ มีนาคม-เมษายน กับ ฤดูใบไม้ร่วง กันยายน-ตุลาคม ไม่ร้อนมาก ไม่หนาวมาก สรุปมาคร่าวๆจากประสบการณ์ได้ตามนี้

  • ถ้าชอบบรรยากาศโรแมนติดของฤดูใบไม้ร่วง ก็ต้องไปช่วงตุลาคม-พฤศจิกายน ทางตอนเหนือจะเริ่มก่อนทางใต้เป็นเดือนๆ คือตอนบนจะหนาวก่อนทางใต้
  • ถ้าชอบอากาศหนาว จะหนาวตั้งแต่ตุลาคม และยาวไปถึงกุมภา มีนา ของปีต่อไป แต่ถ้าต้องการหิมะให้แน่ๆก็ต้องธันวาคมเป็นต้นไป
  • ถ้าชอบหิมะ อย่าไปแถบชายฝั่งหรือทะเลทรายอย่าง แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส นิวเม็กซิโก แอริโซนา เนวาดา ฟลอริดาเพราะอากาศค่อนข้างอุ่น ฤดูหนาวก็หนาวแต่ไม่หนาวจัด โอกาสมีหิมะน้อย และอย่าไปช่วงหน้าร้อนเพราะร้อนมากเหมือนกัน
  • ช่วงเมษายน-พฤษภาคม เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ เหมาะแก่การเที่ยวอุทยานแห่งชาติ อากาศดี หญ้าเขียว ดอกไม้บาน
  • ลอสแองเจลิสที่คนไทยอยู่เยอะ เพราะอยู่ในแคลิฟฟอเนียร์ ฤดูหนาวจะไม่หนาวจัด หิมะแทบไม่เคยตก ส่วนมากจะร้อนด้วยซ้ำ คนไทยก็เลยไม่ทรมาน
  • ถ้าชอบอากาศดีแบบชาวเกาะให้ไปฮาวาย ไปได้ทั้งปี หน้าหนาวก็มีช่วงปลายปีแต่หนาวแค่เท่าเมืองไทย

เวปไซต์ booking.com เขาทำสรุปไว้ให้แบบแนะนำทุกเดือนเลย ลองเข้าไปดูละเอียดได้ที่ > ไปสหรัฐอเมริกาช่วงไหนดีที่สุด?

หากถามว่าเคยไปเที่ยวอเมริกาหรือไม่ ก็ตอบได้ว่าเคยไปหลายครั้งอยู่เหมือนกัน แต่ทั้งหมดนั้นอยู่ในช่วงเรียนจบใหม่ๆ มีเพื่อนไปเรียนต่อหลายคน ก็ขยันนั่งเครื่องบินไปหาเพื่อน ไปเที่ยวกัน กับมีเพื่อนสนิทของพ่อไปลงหลักปักฐานอยู่ที่โน่นด้วย ก็ได้ไปอเมริกากับครอบครัวอยู่บ้าง

การทำวีซ่าเข้าอเมริกามีขั้นตอนยุ่งยากพอสมควร ขั้นแรกต้องกรอกใบขอออนไลน์ก่อน ซึ่งข้อมูลก็เยอะแยะยุบยับมาก จากนั้นส่งไป แล้วจ่ายเงินเลย แล้วถึงนัดเข้าไปสัมภาษณ์ได้ ซึ่งการสัมภาษณ์ก็เหมือนการเสี่ยงดวง เพราะบอกไม่ได้เลยว่าเจ้าหน้าที่เขาจะมองเราในแง่ดีหรือแง่ร้าย ถ้ามองดีก็อนุมัติถ้ามองร้ายก็ไม่ให้วีซ่า พื้นฐานเลยคือทำอย่างไรให้เขาแน่ใจว่าเราไปแล้วจะกลับเมืองไทย เช่น มีงานทำเป็นหลักแหล่งมีบริษัทรับรอง หรือถ้ายังเด็กก็มีผู้ปกครองรับรองมีที่เรียนชัดเจน และที่เขาดูด้วยคือมีหลักทรัพย์พอจะไปเที่ยวอเมริกาจริงหรือไม่ แต่ทั้งหมดนั้นก็ไม่ได้รับประกันว่าจะได้ เพราะเคยเห็นคนเป็นเจ้าของธุรกิจแต่ขอวีซ่าไม่ผ่านก็มี

เคยขอวีซ่าไว้ตอนเริ่มทำงานใหม่ๆ ขอครั้งแรกได้ 1 ปี ไปเที่ยวมา 1 ครั้ง โชคดีที่ขอครั้งที่ 2 ได้มา 10 ปีเลย แต่ได้ใช้จริงๆแค่ 3 ปี นอกนั้นก็งานยุ่งจนไปเที่ยวนานๆ 2-3 อาทิตย์ไม่ได้เลย (ไปอเมริกานี่เดินทางนานอย่างที่เล่าด้านบน ดังนั้นไปแล้วควรอยู่ให้คุ้ม)

วีซ่า 10 ปีขาดไปนานมากแล้ว ไม่ได้ไปยื่นต่อวิซ่าอีก เพราะเบื่อนั่งเครื่องบิน 20-30 ชม.อย่างมาก ถ้าจะอยากไปใหม่ก็คงต้องขอวิซ่าใหม่ ซึ่งช่วงนี้มีแต่ข่าวว่าคนยื่นขอวีซ่าไม่ผ่าน ไม่แน่ใจว่าจะได้ไปอเมริกาอีกเมื่อไหร่นะเนี่ย


ทำเรื่องขอวิซ่าครั้งล่าสุด คือขอวิซ่าให้แม่ไปเยี่ยมญาติที่ LA เมื่อปี 2017 ซึ่งน่าจะง่ายกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป เพราะขอวิซ่า B1/B2 แต่อยู่ในหัวข้อ การยื่นขอวิซ่าของเด็กและผู้สูงอายุ ก็ทำการยื่นเรื่องออนไลน์ ใส่ข้อมูลเยอะแยะมากมาย ค่อยๆทำได้ ไม่ต้องทำให้เสร็จครั้งเดียว อันไหนไม่แน่ใจก็ข้ามไปก่อนได้ มันมีหลายส่วนมาก ทำแล้วก็ save ไว้ กลับมาทำต่อได้ภายหลัง ทำแล้วอ่านตรวจจนแน่ใจว่าถูกต้องค่อยกดส่ง จะมีไฟล์ที่สามารถดาวน์โหลดมาดูได้ ว่าเราตอบอะไรไป สำคัญที่วันสัมภาษณ์เราต้องตอบให้ตรงกับที่ให้ข้อมูลไว้นะ แต่เขาไม่ให้เอาโพยนี้ไปนะ ต้องตอบสดๆ (ของคุณแม่ไม่ต้องไปสัมภาษณ์ เพราะเคยได้วีซ่า 10 ปี มา 2 ครั้งแล้ว พอส่งใบสมัครไปไม่นาน มี email ตอบกลับมาว่า ได้รับการยกเว้นสัมภาษณ์และอนุมัติวิซ่าให้อีก 10 ปี ซึ่งแม่บอกว่าอาจตายก่อนวีซ่าหมด ฮา….)

ตัวอย่างของคำถามที่ต้องตอบในการให้ข้อมูลในการยื่นเรื่องของวิซ่าประเภท B1/B2 ลองดูเป็นตัวอย่างได้ แต่ผ่านมาอีก 3-4 ปี ข้อมูลอาจมีเปลี่ยนแปลงได้นะ

รูปถ่ายในการขอวีซ่าอเมริกาก็สำคัญ เขามีมาตรฐานละเอียดตามนี้เลย

ค่าวิซ่า 160$ คิดเงินไทยที่ 5,600 บาท ชำระเลยก่อนไปสัมภาษณ์ โดยไปโอนที่ธนาคาร หรือไปชำระที่ไปรษณ๊ย์ได้มีบริการ จ่ายเงินแล้วถ้าวีซ่าไม่อนุมัติไม่ได้คืนนะ


ข้อควรรู้และเตรียมตัว

  • วิซ่าท่องเที่ยวคือ วีซ่าประเภท B สำหรับธุรกิจหรือเดินทางท่องเที่ยว ค่าธรรมเนียม 5,600 บาท (ปี 2023)
  • ต้องมีหลักฐานการทำงานที่ชัดเจน ไม่ว่าจะทำงานบริษัทหรือทำงานส่วนตัว
  • ต้องมีหลักฐานการเงินรับรองว่าเพียงพอในการไปท่องเที่ยวได้ ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานการเงินของตัวเองหรือมีคนรับรองค่าใชจ่าย
  • ถ้ามีหนังสือเชิญที่ชัดเจนก็ยิ่งดี เช่น เชิญไปงานแต่งงาน เชิญไปงานศพ อะไรแบบนี้
  • หลักฐานทางครอบครัวว่ายังมีความผูกพันธ์และจะเดินทางกลับไทยแน่นอน เช่น ทะเบียนบ้านแสดงว่ามีพ่อแม่พี่น้องอยู่ด้วยกัน
  • การมีคนรู้จักที่ประวัติไม่ดีหรือมีคนรักอยู่ที่อเมริกาไม่ได้เป็นผลดีกับการพิจารณาวิซ่า เพราะมีโอกาสที่จะโดนพิจารณาว่าจะแอบหนีอยู่กับคนรู้จักหรือคนรักได้ ดังนั้นไม่แน่ใจไม่ควรอ้างอิง

การขอวีซ่าอเมริกา (อัพเดต 2023)

ข้อมูลจาก USEmbassy.gov

ขั้นตอนที่ 1: เข้าไปที่เว็บไซต์ http://www.ustraveldocs.com/th

ศึกษารายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับวิธีการยื่นคำร้องขอวีซ่าและข้อกำหนดต่างๆ เกี่ยวกับวีซ่าแต่ละประเภท เลือก ประเภทของวีซ่าชั่วคราว ที่หน้าเว็บเพื่อศึกษาข้อมูลของวีซ่าแต่ละประเภท

ขั้นตอน 2: กรอกแบบคำร้องขอวีซ่าชั่วคราว (DS-160)

กรอกแบบคำร้องขอวีซ่าที่ https://ceac.state.gov/genniv/ และพิมพ์ใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160

ขั้นตอนที่ 3: สร้างโปรไฟล์ส่วนตัว

สร้างโปรไฟล์ส่วนตัวบนเว็บไซต์ http://www.ustraveldocs.com/th กรอกข้อมูลประวัติส่วนตัวให้ครบถ้วน จากนั้นเลือกประเภทและที่อยู่ในการจัดส่งเล่มหนังสือเดินทางคืน

ขั้นตอนที่ 4: ชำระค่าธรรมเนียมการยื่นคำร้องขอวีซ่า/การสมัครวีซ่า

ชำระค่าธรรมเนียมการยื่นคำร้องขอวีซ่าซึ่งขอคืนเงินไม่ได้ (ในสกุลเงินท้องถิ่น) โดยการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EFT) หรือ ชำระเป็นเงินสดได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา โดยผู้สมัครต้องพิมพ์ใบชำระค่าธรรมเนียม CGI เพื่อนำไปชำระค่าธรรมเนียมที่ธนาคาร

ขั้นตอนที่ 5: ทำนัดสัมภาษณ์

เมื่อชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อย ผู้สมัครจะสามารถนัดวันสัมภาษณ์ได้หลัง 12.00 น. ของวันทำการถัดไป (ในกรณีที่ชำระด้วยเงินสด) หรือหลัง 14.00 น. ของอีก 2 วันทำการถัดไป (หากชำระโดยการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์)

ขั้นตอนที่ 6: เดินทางมาสัมภาษณ์วีซ่าที่สถานทูตฯ

ผู้สมัครจะต้องนำใบยืนยันแบบฟอร์ม DS-160 ใบยืนยันการนัดหมาย หนังสือเดินทาง (ทั้งเล่มเก่าและปัจจุบัน) รูปถ่ายสี ขนาด2×2 พื้นหลังสีขาวที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน และเอกสารที่เกี่ยวข้องมาด้วย

ขั้นตอนที่ 7: การส่งคืนเล่มหนังสือเดินทาง

หากสัมภาษณ์วีซ่าผ่าน ผู้สมัครจะไม่ได้รับวีซ่าทันทีในวันสัมภาษณ์ โดยผู้สมัครจะได้รับเล่มหนังสือเดินทางพร้อมกับวีซ่าโดยการจัดส่งจากทางไปรษณีย์ไทย เมื่อได้รับหนังสือเดินทางแล้ว กรุณาตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของข้อมูล

ทางสถานทูตฯ ขอเน้นว่า ผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางไปประเทศสหรัฐฯ ทุกท่านควรเผื่อเวลาในการยื่นขอวีซ่าล่วงหน้าก่อนการเดินทาง และไม่ควรจองตั๋วเครื่องบินหรือวางแผนการเดินทางใดๆ ที่ยกเลิกไม่ได้ ก่อนที่ท่านจะได้รับหนังสือเดินทางที่มีวีซ่าสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว


ได้วีซ่าแล้วก็ไปเที่ยวอเมริกากัน

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

Website Built with WordPress.com.

Up ↑

%d bloggers like this: