Fjällräven Classic Sweden 2023

แบกเป้ไปเดินป่า | Trekking in Swedish Lapland (Kungsladen)
Fjällräven Classic Sweden 2023

Aug 2023

หลายๆคนน่าจะพอคุ้นเคยกับโลโก้เจ้าหมาจิ้งจอกที่อยู่บนเป้สะพายหลังยอดนิยม โลโก้หมาจิ้งจอกนี้เป็นของแบรนด์ “Fjallraven” (เฟียว-เรียว-เว่น) เป็นภาษาสวีเดน แปลว่า สุนัขจิ้งจอกอาร์กติก ที่ก่อตั้งขึ้นมาโดย นายโอเกีย นอร์ดีน (Ake Nordin) ชาวสวีเดน

เป้สะพายหลังยอดนิยมของชาวไทยทั้งวัยรุ่นและวัยไม่รุ่น ความจริงแล้วถูกออกแบบเพื่อให้นักเรียนชาวสวีเดนสะพายไปโรงเรียนได้สบายขึ้น เพราะดั้งเดิมนักเรียนสวีเดนใช้กระเป๋าแบบสะพายข้าง การออกแบบของ Fjallraven เลือกใช้ผ้าไนลอนเพื่อให้มีน้ำหนักเบาแต่ก็มีความทนทาน มีหลากสีให้เลือก ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งจากคนสวีเดนและทั่วโลก

มีหลายคนเข้าใจผิดว่าเป้ยอดนิยมนั้นยี่ห้อ “Kanken” แต่ความจริงแล้ว Kanken เป็นรุ่นของกระเป๋าสะพายหลังยี่ห้อ Fjallraven ซึ่งเป็นยี่ห้อของสินค้าสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งอันโด่งดังของสวีเดน มีทั้ง เสื้อ กางเกง รองเท้า อุปกรณ์เดินป่า อุปกรณ์กันหนาว อุปกรณ์แคมปิ้งต่างๆ ซึ่งออกแบบโดยคำนึงถึงความสะดวก ความทนทาน และเหมาะสมในการใช้งาน

Fjallraven ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นการตอบรับการใช้ชีวิตกลางแจ้ง และยังสนับสนุนให้ผู้คนออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้ง ไปอยู่กับธรรมชาติ ชื่นชมธรรมชาติโดยไม่ทำลาย จึงคิดจัดกิจกรรม “Fjallraven Classic” เป็นการเดินทางแบบ Trekking ผ่านเส้นทางที่สวยงามตามธรรมชาติของประเทศสวีเดน ระยะทาง 110 กม. โดยจัดขึ้นครั้งแรกในปี คศ. 2005

“Fjallraven Classic Sweden” ระยะทาง 110 กม. ใช้เวลา 6 วัน 5 คืน ในพื้นที่ Swedish Lapland (Kungsladen) ทางตอนเหนือของประเทศสวีเดน มีจุดเริ่มต้นที่ Nikkaluokta เดินขึ้นเหนือไปถึงจุดหมายปลายทางที่ Abisko ตลอดเส้นทางได้เจอธรรมชาติอันสวยงาม ผ่านภูเขาที่ยิ่งใหญ่ Kebnekaise, ลานหิน Tjäktja, เนินเขาเป็นรูปคลื่นที่ Alesjaure และป่าเขียวชอุ่มในอุทยานแห่งชาติ Abisko

Source : https://classic.fjallraven.com/sweden/prepare/the-route/

จุดมุ่งหมายสำคัญของการเดินทาง คือ การได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ได้พึ่งพาตัวเอง เพราะต้องแบกของเอง หาที่พักเอง หาอาหารทานเอง ความเหนื่อยยากทั้งหมดแลกกับความสวยงามของธรรมชาติตลอดเส้นทาง และได้เรียนรู้การอยู่กับธรรมชาติแบบช่วยกันดูแล ของทุกชิ้นที่นำเข้าไปต้องเอากลับออกมาทั้งหมด ไม่มีถังขยะให้ตามรายทาง มีจุดพักให้ตามระยะที่กำหนด สามารถหาอาหารเครื่องดื่มเพิ่มเติมได้ และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและตรวจสอบตามจุด Check point ต่างๆตลอดทาง

Fjallraven Classic Sweden ในปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12 – 17 สิงหาคม 2023 ระยะทาง 110 กม. ใช้เวลา 6 วัน 5 คืน การจะได้เข้าร่วมกิจกรรมก็ไม่ใช่แค่กดซื้อบัตร แต่ต้องสมัครสมาชิกและไปแสดงความจำนงถึงความต้องการจะไป สุดท้ายแล้วจะสุ่มรายชื่อคนได้เข้าร่วมกิจกรรม จากนั้นถึงจ่ายค่าธรรมเนียม

Registration fee (2023):
Adult 2700 SEK / Youth (13-17 yrs) 1500 SEK / Kids (up to 12) 500 SEK
[1 Swedish Krona (SEK) = 3.15THB, AUG2023]

การเดินทางระยะไกลที่ต้องพึ่งตัวเองตลอดเวลา 6 วัน 5 คืน ต้องอาศัยทักษะในการเตรียมและเลือกใช้อุปกรณ์ต่างๆพอสมควร นอกจากนั้นก็ต้องมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ การเลือกใช้อุปกรณ์ก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับสภาพภูมิประเทศ สภาพอากาศ ศึกษาได้จากผู้ร่วมกิจกรรมในปีก่อนๆ มีรีวิวมากมาย และปรึกษาผู้รู้ผู้มีประสบการณ์ในการ Trekking ในแถบยุโรป (ต่างจากการ Trekking ในแถบเอเชียอยู่พอสมควร) เสื้อ กางเกง ต้องเป็นแบบบางเบา แห้งง่าย ใส่สบายแต่ก็กระชับ รองเท้าเดินป่าพื้นหนาพอจะเดินบนหินได้และกันลื่นได้ เป็นต้น ยังมีอุปกรณ์ประกอบการใช้ชีวิตอื่นๆอีกหลายอย่าง เช่น เต๊นท์ที่กางได้ง่ายและรวดเร็ว แผ่นรองนอน ที่เน้นว่าจำเป็นมากๆ เพื่อไม่ให้เวลานอนแล้วเจอความเย็นของพื้นตอนกลางคืน เสื้อกันฝน เป็นต้น ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นต้องเลือกชนิดที่ดี ทนทาน และควรมีน้ำหนักเบา เพื่อให้น้ำหนักในการแบกนั้นเบาที่สุด

Trekker ทุกคนต้องไปตั้งต้นที่เมือง Kiruna ทางเหนือของสวีเดน ทาง Fjallraven มีจัดรถไฟจาก Stockholm (จ่ายเพิ่ม) หรือจะเลือกเดินทางเองเช่น นั่งรถ ขับรถ หรือนั่งเครื่องบินไปก็ตามสะดวกซึ่งเราเลือกนั่งเครื่องไป พักหนึ่งคืนที่ Kiruna

ถึงจุดลงทะเบียนงาน Fjallraven Classic Sweden 2023 ที่เมือง Kiruna บรรยากาศจุดลงทะเบียนคึกคักมาก รับเอกสารสำหรับที่จะไป stamp ที่จุด check point ตลอดเส้นทาง มีแจก ถุงขยะ อาหาร turmat สบู่ โดย concept ของการเดินคือ Leave no trace ต้องเก็บขยะของใช้ส่วนตัวออกมากจากเทรลให้หมด

ระบบการอำนวยความสะดวกให้ trekker ของทีมงาน Fjallraven ดีมาก Pain point หลักเลยคือเรื่องการบริหารจัดการน้ำหนักของกระเป๋า แทบทุกคนจะจัดกระเป๋าใหม่กันนาทีสุดท้าย มีแต่เอาของที่คิดว่าไม่จำเป็นออก เพื่อลดน้ำหนักของที่ต้องแบก

Turmat อาหารแห้งแช่แข็งของบริษัท Drytech จากนอร์เวย์ ทำจากวัตถุดิบสดใหม่ ผ่านการแปรรูปในกระบวนการทำให้แห้ง (sublimate) ซึ่งสามารถคงรสชาติ กลิ่นหอม และคุณค่าทางโภชนาการตามธรรมชาติโดยไม่มีสารปรุงแต่งใดๆ อายุการเก็บรักษาคือ 5 ปี เหมาะกับการพกพาไปในการ Trekking เพราะแค่เติมน้ำร้อน อาหารแห้งก็จะคืนสภาพให้ได้ทาน

ทาง Fjallraven มีการอำนวยความสะดวกขนกระเป๋าเดินทางให้จากจุดเริ่มเดินและนำไปส่งให้ที่จุดสุดท้ายของ trail ที่ Abisko เก็บกระเป๋าเรียบร้อย ก็มีรถบัสมาจอดรอที่หน้าที่พักเลย ออกเป็นรอบๆ ตามที่ได้ลงทะเบียนมา

สุดท้ายแล้วน้ำหนักกระเป๋ารวม 15 กิโลกรัม รวมเตาแก๊ส อาหาร และน้ำดื่ม หนักที่สุดเท่าที่เคยเดินมา และเป็นการเดินครั้งแรกที่เป็น self support ตั้งแต่เริ่มจนจบ ดีใจที่ได้เจอเพื่อนใหม่ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ

ตอนเช้านั่งรถบัส (รวมในแพคเกจ) ไปที่จุดเริ่มต้นเดินเส้นทาง Kungsleden trail ที่ Nikkaluokta วางแผนเดินวันละไม่เกิน 25 กิโลเมตร อากาศยังเหมือนเดิมฝนตกตลอด หนาวกำลังดี

Nikkaluokta > Kebnekaise [19 Km.] +460m. > +690 m.

จุดเริ่มต้นเดิน Fjallraven classic Sweden ที่ Nikkaluokta

Fjallraven classic Sweden เส้นทาง Kungsleden trail (The King’s trail) ระยะทาง 110 กิโลเมตร พร้อมมาก แต่อากาศไม่ปรานีเลย ฝนตกทุกวัน อากาศเหมือนฤดูหนาว พอมีประสบการณ์จากการเดิน Mont Blanc แล้ว แต่จะดีมากถ้าแบกน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม

วันแรกของการออกเดินยังมีสัญญาณโทรศัพท์ และมีคาเฟ่ให้แวะเติมพลัง ใครมาเดินเส้นนี้พลาดไม่ได้ ต้องลองเบอเกอร์เนื้อกวางเรนเดียร์ที่ Lap Danalds (ถ้าอยากจะลดระยะทางลง 5-6 กิโลเมตรก็สามารถขึ้นเรือจากตรงจุดนี้ได้)

ถึงจุด Check point แรกที่ Kebnekaise เกือบสองทุ่ม ระยะทางรวม 19 กิโลเมตรจาก Nikkaluokta

จุด Checkpoint ปิดเวลา 24.00 น.

ตามคำแนะนำของคู่มือการหาจุดการพักแรม จากจุด Check point ตัดสินใจเดินต่อไปอีก 3 กิโลเมตร เพื่อให้ใกล้แหล่งน้ำและเป็นพื้นที่ราบ หาจุดกางเต็นท์ได้ประมาณ 4 ทุ่ม ทำกับข้าว (ก็แค่ต้มน้ำร้อนรินใส่ซอง) เรียบร้อยเกือบ 5 ทุ่ม ฟ้ายังสว่าง ไม่ต้องใช้ไฟฉายเลย รวมระยะทางถึงจุดกางเต้นท์วันแรก 21 กิโลเมตร เดินสบายเป็นทางราบตลอดเส้นทาง อากาศเริ่มอุ่นขึ้น

สวีเดนเป็นประเทศที่ wild camping ได้ในเทรล (ยกเว้นใน Abisko national park) ตอนแรกก็กังวลว่าปล่อยตัว trekkers เข้ามาในเทรลเป็น 1,000 คน แล้วจะหาที่กางเต็นท์ยาก

ทริปนี้ได้คำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์หลายคน ใช้เวลาศึกษาและเตรียมอุปกรณ์ค่อนข้างดี ทั้ง Sleeping pad และ Sleeping bag สู้กับความหนาวได้สบาย

Kebnekaise > Singi [16 Km.] +690m. > +650m.

วันที่สองเริ่มเดินจาก CP1 : Kebnekaise ไปจุด CP2 ที่ Singi

เก็บ Blueberry ระหว่างทาง เพิ่ม Vit C

ถึง Checkpoint แล้วเดินเลยไปอีก 5 กิโลเมตร รวมระยะทาง 21 กิโลเมตร เพื่อหาจุดตั้งเต็นท์ วันนี้ลมแรงมาก ต้องหาก้อนหินมาวางบนสมอทุกจุด เป็นประสบการณ์แรกที่กางเต็นท์ในพื้นที่ที่ลมแรงมาก

นอกจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงเร็วทั้งลมและฝน มาเป็นช่วงๆ สิ่งที่ท้าทายอีกอย่างของเทรลในสวีเดนคือพื้นที่เป็นหินตลอดทาง ต้องระวังข้อเท้าพลิก รองเท้าสำคัญมากต้องผูกเชือกให้รัดข้อเท้าให้แน่นตลอด

Singi > Salka [25 Km.] +690m. > +835m.

ผ่านคืนที่ลมแรงมาได้ ตอนเช้าฝนตกหนักมาก ต้องต้มน้ำและกินอาหารเช้าในเต็นท์ มี trekker ที่เริ่มเดินออกไปตั้งแต่เช้า แต่เรารอจนฝนหยุดตกแล้วค่อยเก็บเต็นท์ เพราะถ้าเต็นท์เปียกจะเพิ่มน้ำหนักขึ้นมาเกือบ 1 kg เช็ดเต็นท์เรียบร้อย เริ่มออกเดินเกือบ 10 โมงเช้า

เช้าที่ฝนตกหนักก็ต้มน้ำจากข้างเต็นท์

หลังฝนตกเมฆลอยต่ำมาก

เริ่มออกเดินเกือบ 10 โมงเช้า / สภาพเทรลมีหินตลอดทาง ต้องมีสติในการเดินมาก

วันนี้จุด checkpoint ที่ 3 Salka สามารถเติมอาหาร freeze dried ที่เป็นซองสีส้ม ต้องขอบคุณทาง Fjallraven ที่ได้จัดให้มีอาหารหลากหลายมาก มีข้าว Thai red curry ด้วย สะดวกมาก เปิดซองใส่น้ำร้อนทิ้งไว้ประมาณ 7-8 นาที ให้พลังงาน 500-550 แคลอรี่ และพยายามกิน protein bar เสริมด้วยวันละ 1 ห่อ

ได้เจอทั้ง Trekker ตัวน้อย และ Trekker 4 ขา

หลังจากจุด Checkpoint ผ่านเข้าไปที่ Salka cabin มีร้านค้าให้แวะซื้อเครื่องดื่มและขนม เหมือนเป็นสวรรค์เลยหลังจากที่เดินมา 3 วันแล้ว หลายคนยอมแบกน้ำหนักเพิ่มซื้อเครื่องดื่มติดไปด้วย

วันนี้เดินยาวมาก เกือบ 26 กิโลเมตร เพราะวันถัดไปต้องเก็บ 2 checkpoints

Salka > Tjaktja > Alesjaure [25 Km.] +835m. > +1140m. (highest) > + 780m.

วันที่สี่ ยิงยาวเลย ต้องเก็บ 2 checkpoints คือ Tjaktja และ Alesjaure และเป็นวันที่ต้องเดินขึ้นจุดที่สูงที่สุดของเส้นทางด้วย

เข้านี้เก็บเต็นท์ออกเดินแต่เช้าประมาณ 8 โมง เมื่อคืนโชคดีมากที่ชวนพี่คนไทยอีก 4 คนมากางเต็นท์ใกล้กัน พี่เปิดครัวหุงข้าวร้อนๆ ให้กินกับน้ำพริก สวรรค์บนดินชัดๆ เลย ต้องขอบคุณพี่ๆ อีกครั้งหนึ่ง

หลังจากเดินผ่านจุดสูงสุดที่ความสูง +1140 m. แล้ว ก็เดินลงเรื่อยๆ แต่เดินยากมาก เดินผ่านหินก้อนใหญ่ๆ ยาวหลายกิโลเมตรเลย แวะพักกินข้าวตรงลำธารได้ไม่นานฝนก็ตก

ช่วงบ่ายจนถึงช่วงเย็นฝนตกตลอด เป็นวันที่เราทรมานกับการเจ็บฝ่าเท้าและต้องสู้กับอากาศหนาว

ที่ CP4 : Tjaktja ทาง Fjallraven ได้เตรียม Brownie กับกาแฟ/ชาร้อนไว้ต้อนรับ trekker ทุกคนมีความสุขมากเหมือนหายเหนื่อยไปเลย ณ เวลานั้นอยากจะกิน Brownie ซัก 5 ชิ้นเลย แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าจำกัดให้คนละ 1 ชิ้นเท่านั้น

หลังจาก Tjaktja ก็ยิงยาวถึง Alesjaure เห็นวิวก่อนถึงจุดกางเต็นท์หายเหนื่อยเลย วันนี้เราจัดตั้ง Thai Village อยู่กันอย่างอบอุ่น คุยกันถึงเกือบ 4 ทุ่มแยกย้ายกันไปนอน

จุด Checkpoint CP5 ที่ Alesjaure เป็นจุดที่ชอบมาก เป็นคืนแรกที่พักตรงจุด Checkpoint เลย

ส่วนใหญ่จะแนะนำให้กางเต็นท์ก่อนถึงจุด Checkpoint เพราะตรงหลังจุด Checkpoint ยุงและแมลงเยอะมาก แต่ก็ใช้ตะไคร้หอมฉีดตามตัวและประตูเต็นท์ก็ช่วยได้เยอะมาก

Alesjaure > Kieron [18 Km.] +780 m. > +550 m.

วันที่ห้า ออกจาก Alesjaure ไปจุดกลางเต็นท์คืนสุดท้ายที่ Kieron

ฝนตกตั้งแต่เริ่มเดิน วันนี้รองเท้าและถุงเท้าเปียกมาก เดินเลียบทะเลสาบไปเรื่อยๆ ไม่อยากจะเข้าไปเดินในเทรลเลย เพราะเป็นโคลน พอพ้นจากช่วงที่เป็นดินโคลนก็เป็นหินตลอดทางเลย วันนี้เดินยากจริงๆ

ออกจาก Alesjaure เดินเลียบทะเลสาบไป

จาก cabin ที่ Alesjaure ถ้าจะย่นระยะทาง 5-6 กิโลเมตร ก็สามารถนั่งเรือไปได้

ได้รับการบอกจากคนที่เคยมาเดินปีที่แล้วว่าที่ checkpoint ตรง Kieron จะมีแพนเค้กให้ ตอนเดินก็คิดถึงแต่แพนเค้กร้อนๆ

เนื่องจากเป็นคืนสุดท้าย ตัดสินใจหาที่กางเต็นท์ที่มีวิวสวยบนเนินเขาก่อนถึง checkpoint ยอมเดินขึ้นลงประมาณ 1 กิโลเมตรเพื่อไปเอาน้ำที่ลำธารกับไปรับแพนเค้กที่จุด checkpoint

บางคนเร่งทำเวลาเดินผ่าน Kieron แล้วเข้าไปพักที่ Abisko เลย เพิ่มระยะทางอีก 18 กิโลเมตร

Self service Checkpoint ที่ Kieron / ป้ายบอกทางไปแหล่งน้ำ

ในที่สุดก็มาถึงซุ้มแพนเค้ก

ลานกางเต็นท์ที่ Kieron

Kieron อยู่ขอบของ Abisko national park เลย ตื่นเช้ามาก็เดินผ่านเข้าไปใน national park เลย

Kieron > Abisko [17 Km.] +550 m > +385 m.
วันที่หก วันสุดท้ายของเส้นทาง Kungsleden trail 110 กิโลเมตร

วันนี้เส้นทางค่อนข้างง่ายเดินในเขต Abisko national park จะเริ่มเห็นกลุ่ม trekkers ที่เดินสวนเข้าไปในเทรล กลุ่มนี้เริ่มที่ Abisko เดินลงไปทางใต้

เห็นป้ายที่บอกว่าอีก 3 กิโลเมตรจะถึงเส้นชัย รู้สึกอยากเดินให้ถึงเร็วๆ ปรากฎว่าเป็น 3 กิโลเมตรที่ยาวมาก

เส้นทางเทรลในอุทยาน Abisko สวยงามมาก เป็นป่าที่สมบูรณ์ มีน้ำตกหลายสายไหลมาบรรจบกัน

เมื่อมาถึงเส้นชัยก็มีคนปรบมือต้อนรับกันน่ารักมาก บรรยากาศสนุกสนาน

Trekker ทุกคนต้องนำขยะที่จะทิ้งไปที่จุดแยกขยะ จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลให้ทิ้งขยะลงในถังขยะที่ถูกประเภท

ตอนกลางคืนทาง Fjallraven จัดงานปาร์ตี้ให้กับ Trekker ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน ต้องขอบคุณทีมงาน Fjallraven ทุกคนที่จัดงานได้อย่างมืออาชีพมาก และขอบคุณเพื่อนร่วมทางทุกคนที่คอยให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือกันตลอดเส้นทาง เป็นมิตรภาพที่ประทับใจมากๆ

“Fjällräven Classic Sweden takes place in the wilderness. There are no access roads, there is pretty much no phone reception and the weather can change quickly. However, you’re not alone.”

วันแรกของการร่วม trekking กับงาน Fjallraven classic Sweden เห็นเฮลิคอปเตอร์บินขึ้นอยู่หลายรอบ เข้าใจว่าเป็นการขนส่งของเข้ามา supply ในเทรล วันหลังๆ เดินไปได้คุยกับ trekker หลายกลุ่ม ปรากฎว่าเป็นการรับส่ง Emergency case ออกจากเทรล

ทาง Fjallraven ที่เป็น organizer มีการบริหารจัดการดีมาก มีการให้ข้อมูลอย่างละเอียดในการเตรียมความพร้อม มีการแจกแผนที่อย่างละเอียด มีจุดให้อาหารตาม Checkpoint อย่างเพียงพอ

เจ้าหน้าที่แต่ละคนทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ข้อมูลอย่างชัดเจนกับ trekker ในทุกจุดตั้งแต่เริ่มลงทะเบียน จนถึงจุด Checkpoint ทุกจุดในเทรล

ที่สำคัญคือมีการกำหนดให้ trekker ทุกคนต้องติดป้ายสีส้มให้เห็นอย่างชัดเจน ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินจะได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว

จบทริป Fjallraven classic Sweden 110 กิโลเมตร ใช้เวลา 6 วัน 5 คืน
ขอบคุณน้องทรายและน้องตาร์ ที่เป็นเพื่อนร่วมทางตั้งแต่ต้นจนจบ
ขอบคุณ Thailand Outdoor ที่ช่วยจัดทริปให้มาร่วมงานครั้งนี้

Leave a comment

Website Built with WordPress.com.

Up ↑