Hello Albania ตอน 4 เที่ยว 2 เมืองมรดกโลก [Gjirokaster, Berat]

ALBANIA Trip : September 2023

Hello Albania ตอน 1 เที่ยวเมืองหลวง Tirana กับเมืองโบราณ Kruja
Hello Albania ตอน 2 ขึ้นเหนือไปเที่ยวเขา (Shkoder, Theth, Lezhe)
Hello Albania ตอน 3 Albania Riviera [Durres, Vlore, Sarande]

เที่ยวแอลเบเนียมาแล้ว 7 วัน จากเหนือสุดลงมาใต้สุด จากนี้จะขับตัดเข้าตรงกลางไปเที่ยว 2 เมืองมรดกโลก Gjirokaster กับ Berat แล้วกลับเข้า Tirana ครบวงรอบ

Day-8 จากเมืองชายทะเลไปเมืองมรดกโลก Sarande – Gjirokaster

ที่พักใน Sarande เป็นห้องอพาตเมนต์ ก็เลยทำอะไรง่ายๆกินตอนเช้าได้ไม่ต้องไปหากินข้างนอก (ยังแอบเสียดายอาหารเช้ากับวิวทะเลงามๆยามเช้า ทำไม?ต้องไปอ่านในตอนที่ 3 เอานะ หงุดหงิดไม่หาย) วันนี้จะออกจากเมือง Sarande ขับรถตัดเข้าตอนกลางของแอลเบเนีย แวะเที่ยว Blue Eye ภาคใต้ แล้วไปที่ Gjirokaster เมืองมรดกโลก

ซากปรักหักพังมีให้เห็นทั่วไปในเมือง Sarande

Sarande เป็นเมืองใหญ่ก็จริงแต่ถนนก็แคบๆเล็กๆ แถมมีรถจอดทุกถนน ต้องทำ One Way เกือบทั้งเมือง

จุดหมายปลายทางวันนี้คือเมือง Gjirokaster ระยะทาง 60 กม. แต่ระหว่างทางจะแวะเที่ยว Blue Eye ก่อน

Blue Eye

จาก Sarande ใช้เส้นทาง SH99 ระยะทาง 22 กม. ขับไปไม่ถึง 1 ชม.ก็ถึง Blue Eye ด่านแรกที่เจอคือลานจอดรถขนาดใหญ่ที่ใครๆก็เลี้ยวเข้ามาจอด เสียค่าจอด 200 Lek แล้วเดินขึ้นไปตามถนนอีก 400 ม. ถึงจะเจอที่ขายตั๋วเข้า Blue Eye ซึ่งตรงนี้ก็มีลานจอด ไม่เสียเงิน! และไม่ต้องเดิน!! แต่ลานนี้เล็กกว่า แนะนำว่าให้ขับเข้ามาดูก่อนถ้าเต็มค่อยลงไปจอดที่ลานด้านหน้า

ลานแรกติดถนนนี่ไม่ต้องจอดนะ ขับตรงเข้าไปก่อนเลย

ขับเข้ามาสุดทางมีลานจอดฟรี / ธุรกิจให้เช่า scooter รายได้ดีไม่น้อย

ค่าเข้า 100 Lek (ถูกกว่าค่าจอดรถอีก แค้นไม่หาย) ซื้อแล้วก็เดินข้ามสันเขื่อนของทะเลสาบเล็กๆไป (ทะเลสาบนี้คือน้ำที่มาจากน้ำผุด Blue Eye นั่นเอง) วันนี้แดดดีแดดแรง ร้อนเหงื่อซึมตั้งแต่ต้นทาง ทางที่เดินไปคือทางเท้าตามถนนนั่นแหละ แต่กั้นไว้ไม่ให้รถวิ่ง จะมีรถเจ้าหน้าที่วิ่งผ่านไปมาบ้าง ทางขึ้นเขาคดเคี้ยวไป 1.5 กม. แต่ไม่ได้ชันมาก ไม่เหนื่อยแต่ร้อน นึกสงสัยไปตลอดทางว่ามีถนนแต่ทำไมต้องให้เดิน (วะ)

มีถนนแต่ก็ต้องเดิน

ออกข้างทางไปถ่ายรูปมุมไกล เห็นจุดหมายปลายทางอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่

Blue Eye ที่นี่ไม่เหมือน Blue Eye ทางเหนือของหมู่บ้าน Theth ที่เราไปในวันแรกๆ ที่นั่นเป็นน้ำตกที่ตกลงในแอ่งน้ำสีฟ้าใส แต่ Blue Eye ที่ Sarande นี้เป็นบ่อน้ำผุด สิ่งที่เหมือนกันคือ น้ำใสสีสวยเหมือนกัน

น้ำสวยใสมากจริงๆ

สิ่งที่แตกต่างกันอีกอย่างคือ บรรยากาศ ที่ Blue Eye Sarande ไม่ต้องปีนเขาแค่เดินตามถนนง่ายๆ แถมอยู่ใกล้เมืองใหญ่ จึงเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งมาเป็นรถส่วนตัว รถแท้กซี่ รถทัวร์ มากันเป็นหมู่คณะ

ที่ Blue Eye Sarande ไม่ได้มีอะไรมากนัก มีแต่จุดถ่ายรูปบ่อน้ำสีสวยไม่กี่จุด (แต่มี Trail ให้เดินด้วยนะ ถ้าสนใจ) เห็นมีป้ายห้ามลงเล่นน้ำ แต่ก็เห็นมีคนเตรียมชุดมาเล่นน้ำกันอยู่ ไม่มีเจ้าหน้าที่ห้าม หรือจุดที่ไม่มีป้ายลงเล่นได้ก็ไม่แน่ใจนะ ออกจาก Blue Eye ก็ขับต่อไป 40 กม. ไปที่เมือง Gjirokaster ทางเขาแต่ถนนดีไม่สูงชัน ใช้เวลาแค่ 45 นาทีก็ถึง

จิโรคัสตรา | Gjirokaster เมืองในหุบเขาทางตอนใต้ของแอลเบเนีย ตั้งอยู่ระหว่างเขา Gjerë กับ Drino เป็น 1 ในเมืองมรดกโลกของแอลเบเนีย ได้ฉายาว่า The City of Stone เพราะเป็นเมืองที่มีการใช้หินเป็นวัสดุหลักในการสร้างทุกอย่าง ตั้งแต่ถนน รั้ว อาคาร บ้านเรือน ไปจนถึงหลังคา ซึ่งยังมีให้เห็นได้ถึงปัจจุบัน

Gjirokaster ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกโดย Unesco ในปี ค.ศ. 2005 ด้วยลักษณะทางสถาปัตยกรรมตามแบบฉบับของยุคออตโตมันอย่างชัดเจน และยังคงรักษาเอกลักษณ์ได้เป็นอย่างดี

ภาพแรกเมื่อขับรถมาถึง คือ เมืองใหม่เชื่อมต่อกับเมืองเก่าตามเชิงเขาของหุบเขาดริโน (Drino Valley)

มาถึงก็เข้าไปเช็คอินที่พักก่อนเลยเพราะที่พักให้เช็คอินได้ตั้งแต่เที่ยง เลือกที่พักก่อนถึงตัวเมืองเก่าไม่ไกล B.Vishe Guesthouse เป็นห้องอยู่ในบ้านหลังกระทัดรัด มีระเบียงหน้าบ้านนั่งชมวิวเมืองได้ ห้องพักขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่มีห้องน้ำในตัว สะอาดเรียบร้อยดี มีที่จอดรถได้แค่ 2 คันด้านหน้าบ้าน อยู่ในซอยเล็กๆแถมเป็นทางลงเขา

B.Vishe Guesthouse ห้องพักราคา 33 € ต่อคืน

เก็บกระเป๋าแล้วขอหลบร้อนอยู่ในห้องแอร์สักพัก เพราะช่วงบ่ายแบบนี้แดดแรงมาก แต่ก็อยู่ได้ไม่นานทนหิวไม่ไหว ที่พักไม่มีขายอาหาร จอดรถทิ้งไว้หน้าบ้านพัก แล้วเดินขึ้นไปตามถนนอีกไม่กี่ร้อยเมตร เข้าไปในเขตเมืองเก่า

เดินขึ้นไปสุดถนน ก่อนเข้าในเขต Old Bazaar จะเป็นลานกว้างจอดรถได้ แต่ตอนนี้ปิดพื้นที่จอดรถไม่ได้ โชคดีไม่เอารถขึ้นมา กำลังปรับพื้นที่ โดยมีการเจาะอุโมงค์ลงไปเป็นที่จอดรถด้วย ปีหน้าใครไปเที่ยวก็ขับขึ้นไปจนสุดทางน่าจะมีที่จอดรถสะดวกสบายมากขึ้น

Gjirokaster Old Bazaar

Old Bazaar ในภาษาอัลแบเนีย “Qafa e Pazarit” เป็นย่านค้าขายเก่าแก่สร้างขึ้นในยุคศตวรรษที่ 17 แต่อาคารดั้งเดิมส่วนมากโดนไฟไหม้ไปช่วงปลายของศตวรรษที่ 19 ตอนหลังได้มีการบูรณะและก่อสร้างอาคารในรูปแบบดั้งเดิมขึ้นมาใหม่ เป็นอาคาร 2 หรือ 3 ชั้น ชั้นล่างเป็นชั้นที่ช่างฝีมือใช้ทำงานฝีมือต่างๆ เช่น ทำหมวก ทำงานเย็บปัก แล้วเปิดขายของด้วย บางห้องก็เป็นร้านอาหาร ร้านกาแฟ ส่วนชั้น 2-3 จะมีทางเข้าแยกด้านหลัง บางหลังก็เป็นที่พักของเจ้าของบ้าน บางหลังก็เปลี่ยนชั้นบนเป็นห้องพักรับนักท่องเที่ยว พื้นทางเดินเป็น Cobble Stone ตามแบบยุคกลาง

เดินวนหา Obelisk จนมึน ถามทางแล้วถามทางอีก ทุกคนชี้มาทิศเดียวกันแต่กว่าจะหาเจอแทบถอดใจ เพราะป้ายมันแขวนรวมกับป้ายร้านอาหาร ทางเดินเข้าไปก็คือทางเข้าร้านอาหาร สุดท้ายก็เจอจนได้

เสา Obelisk สูง 7 ม. สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในการเฉลิมฉลองระบบการศึกษาของอัลแบเนีย ในค.ศ.ที่ 20 เพราะในยุคของออตโตมัน ไม่อนุญาตให้มีการเรียนการสอนภาษาท้องถิ่น ตึกสีขาวข้างๆคือ “liria” (freedom) school ที่เปิดสอนตั้งแต่ปี ค.ศ. 1895 เป็นโรงเรียนแห่งแรกในเมือง Gjirokastra ที่สอนด้วยภาษาอัลแบเนีย ปัจจุบันเป็น Gjirokaster Conservation and Development Organization (GCDO) ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ ลานด้านบนชมวิวได้ 360 องศา

“liria” (freedom) school, the first Albanian school in Gjirokastra

ใช้เวลาช่วงบ่ายๆ เดินเล่นวนเข้าถนนโน้นออกถนนนี้ แวะนั่งจิบกาแฟบ้าง ไอติมบ้าง ช้อปปิ้งบ้างตามต้องการ แล้วค่อยขึ้นไปเที่ยวป้อมปราการบนยอดเขา ซึ่งอยู่ใกล้ๆ เดินขึ้นไปจากตรง Old Bazaar ได้เลย

The Castle of Gjirokaster

มาถึง Gjirokaster ห้ามพลาดขึ้นไปป้อมปราการบนยอดเขา เดินทะลุ Old Bazaar ไปจะมีบันไดเดินตัดขึ้นไปที่ป้อมปราการได้ จะนั่งรถเมล์ก็ได้ หรือจะขับรถขึ้นไปก็ได้ แต่เราจอดรถไว้ที่พักแล้วเดินเที่ยว ก็เดินผ่าน Old Bazaar ขึ้นไป แค่พอเมื่อยขาก็ถึงทางเข้า มีค่าเข้า 400 Lek

ป้อมปราการแห่งจิโรคัสตรา ตั้งอยู่บนยอดเขาสูงสุดของเมือง สร้างขึ้นในยุคอาณาจักรออตโตมัน 12 ปีก่อนคริสตกาล เป็นป้อมปราการที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆในแถบบอลข่าน มีส่วนจัดแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ อย่าง ปืนใหญ่ ปืนกล รถถัง เดินทะลุออกไป มีจุดชมวิวเมืองได้รอบ เป็นป้อมปราการที่อยู่ในทำเลที่ดีมากมองเห็นได้กว้างไกลรอบทิศ ปัจจุบันก็เลยเป็นจุดชมวิวได้สวยงามสุดๆด้วย

Gjirokaster “The City of Stone”

ซาก American Lockheed T-33

พื้นที่ในป้อมปราการกว้างขวางใหญ่โตพอสมควร เดินไปอีกด้านก็จะได้วิวอีกแบบ คือมีมุมมองได้ 360 องศา มีแนวเทือกเขา สวยๆรอบด้าน

เดินชมป้อมปราการจนบ่ายแก่ๆ บรรยากาศดีมาก บางคนรอชมแสงสุดท้ายบนนี้ แต่เราไม่รอล่ะ เพราะหน้าร้อนกว่าจะมืดก็ทุ่มครึ่งถึงสองทุ่ม บ่ายแก่ๆก็กลับลงไปเดินเล่นใน Old Bazaar

ระหว่างทางลงมีจุดชมวิวเมืองได้อีก มองเห็นเซเคทเฮาส์ | Zekate House บ้านสถาปัตยกรรมแบบออตโตมันที่ยังมีสภาพสมบูรณ์ สร้างขึ้นช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เปิดให้เข้าเที่ยวชมด้านในได้ แต่ไกลเกินเดินไปไม่ไหว

เริ่มมืดก็หาร้านอาหารนั่งกินมื้อเย็น เดินเลือกดู มีทั้งอาหารพื้นเมือง อาหารอิตาเลี่ยนอย่างพิซซ่า พาสต้า แต่เราเลือกร้านเคบับ สั่งมากินกับขนมปัง จิบเบียร์เย็นๆ ในวันที่อากาศเย็นสบาย

Old Bazaar ยิ่งมืดยิ่งคึกคัก กินข้าว เดินเล่น จนพอใจก็ลาป้อมปราการยามค่ำคืน แล้วเดินฝ่าอากาศเย็นยะเยือกกลับที่พัก ตอนนี้เลือกชอบเมืองนี้มากที่สุด ต้องดูเบรัตวันพรุ่งนี้อีกเมืองว่าจะชอบมากกว่าเมืองนี้หรือไม่

Day-9 จากเมืองมรดกโลกไปอีกเมืองมรดกโลก Gjirokaster – Berat

เวลาเดินทาง แม้จะวางแผนดีแค่ไหนเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นได้เสมอ อย่างเช่นเช้านี้ ความตั้งใจที่จะตื่นเช้ามาต้มกาแฟออกไปนั่งจิบที่ระเบียงบ้านพร้อมชมวิวเมืองก่อนลาก็ต้องพังลง เนื่องจากตื่นมาพร้อมความมืดเพราะไฟดับ ห้องน้ำก็มืด ครัวก็มืด จะปิ้งขนมปังสักแผ่นยังไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจลากันเลย

Good morning Gjirokaster

ขับรถลงไปหากาแฟกินในเมืองด้านล่างก็ได้ ลงจากบนเขามาที่เมืองด้านล่าง น่าจะเป็นเขตเมืองใหม่ มีตึกสูงหลายตึก มีธนาคาร มีสำนักงานต่างๆ โรงแรมก็เยอะ นักท่องเที่ยวบางส่วนก็นอนด้านล่าง แล้วค่อยขับรถหรือเรียกแท้กซี่พาขึ้นไปเที่ยว เราเลี้ยวรถเข้ามามองหาร้านกาแฟ เจอหลายร้านแต่ปัญหาคือไม่มีที่จอดเลย!

Orthodox Cathedral of Gjirokastër

Bulevardi 18 Shtatori ถนนสายหลักของเมืองที่พุ่งตรงเข้าเชิงเขา ถ้าขับตรงไปก็มีทางวนขึ้นเขาไปตามบ้านในย่านเมืองเก่าที่เราถ่ายรูปมาจากจุดชมวิวเมื่อวาน และวนไปได้ถึง Old Bazaar และ Gjirokaster Castle

สุดท้ายก็ต้องวนรถกลับออกมา ไปเจอร้านกาแฟตรงถนนสายหลักเป็น Kafe 24Hr. แต่มีที่จอดก็จอดเลย มีคุณลุงคุณอามานั่งจิบกาแฟคุยกันเต็มระเบียงร้าน เหมือนสภากาแฟบ้านเรา แต่ร้านกาแฟแบบนี้ขายแต่กาแฟจริงๆ อยากได้ขนมปังรองท้องก็ไม่มี แต่พนักงานพาเราเดินเข้าซอยไปร้านเบเกอรี่ บอกให้เลือกซื้อแล้วเอาไปนั่งกินที่ร้านได้เลย น่ารักมาก

วันนี้จะไปที่เมืองเบรัต Berat เมืองสุดท้ายของทริปแอลเบเนียแล้ว ระยะทางจาก Gjirokaster ไป Berat 160 กม. เป็นทางเรียบ+ทางเขา ขับรถ 2 ชม.กว่าๆก็ถึง ช่วงเช้าไม่มีแผนเที่ยวอะไร หลังอาหารเช้าก็ออกเดินทางได้เลย

เช่ารถขับมา 7 วัน จากเหนือลงมาใต้ ขึ้นเขา ลุยน้ำ เลาะเลียบทะเล ไม่มีเกเรเลย

ถนนที่แอลเบเนียแม้จะเล็กแต่พื้นผิวถนนดีตลอด ขับผ่านเมือง Fier พักหากาแฟจิบสักหน่อย

เสาหินข้างทาง อนุสรณ์ถึงกองกำลังของกองพลจู่โจมที่ 7 กองทัพน้อยในยุคสงครามการปลดปล่อยแห่งชาติ ประกอบด้วยเสาหินสูงรูปร่างปลายกระบอกปืนไรเฟิลพร้อมธง ฐานแผ่นหินสลักรูปแสดงฉากการต่อสู้ ตั้งอยู่ข้างถนนสายหลักระหว่าง Fier และ Berat บริเวณหมู่บ้าน Sqepur

พ้นเขต Fier ก็เข้าเขตุพื้นที่ Berat แล้ว

เบรัต | Berat เมืองเก่าแก่ย้อนไปได้ถึง 4-500 ปีก่อนคริสตกาล เบรัตก็เหมือนกับหลายเมืองในแอลเบเนีย ที่เคยถูกปกครองโดยจักรวรรดิ์ต่างๆ ทั้งจักวรรดิ์กรีก-โรมัน จักรวรรดิ์ไบแซนไทน์ จักรวรรติ์ออตโตมัน ทำให้สิ่งก่อสร้างต่างๆ มีสถาปัตยกรรมปะปนกันหลายรูปแบบ แต่สิ่งที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบันคือ อาคารบ้านเรือนที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบออตโตมัน สร้างเรียงรายกันอยู่ตามเชิงเขาริมแม่น้ำโอซูม | Osum River ยังคงได้รับการดูแลให้คงรูปแบบเดิม และยังคงมีคนอยู่อาศัย เมืองเก่าเบรัต จึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2005 คู่กับ Gjirokaster และยังขึ้นทะเบียนพื้นที่เพิ่มเติมในเบรัตอีกในปี 2008

อาคารที่พักอาศัยตลอดแนวทางเข้าไปกลางเมืองเก่าเบรัต / บ้านเรือนตามเชิงเขาที่ก่อสร้างใหม่ด้วยวัสดุสมัยใหม่ก็มี

จอดรถบนถนน Antipatrea เดินหาข้าวกลางวันกิน ผ่าน Saint Demetrius Cathedral กับ Lead Mosque

จุดเด่นของเมืองเบรัตคือ บ้านเรือนแบบออตโตมันที่สร้างเรียงรายตามเชิงเขา มองไปเห็นกรอบสีเหลี่ยมของประตูหน้าต่างมากมายจนเบรัตได้ฉายาว่า The City of Thousand Window เราจึงเลือกที่พักอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ (Gorica) เพื่อจะได้มุมมองไปที่วิวกระจกพันบานได้ตลอดเวลา โรงแรมที่เราคิดว่ามุมดีที่สุดคือ Hotel Muzaka แต่มันเต็ม เราจึงจองห้องพักที่ Hotel Ajka ห่างกันไม่ถึง 200 ม. มุมมองคล้ายๆกัน อยู่ใกล้สะพานที่ข้ามไปฝั่งเมืองเก่า

Hotel Ajka ห้องพักราคา 43 € ต่อคืน รวมอาหารเช้า

โรงแรมบรรยากาศทึมๆ เหมือนถ้ำเพราะสร้างอยู่บนเชิงเขา ใช้หินเป็นวัสดุก่อสร้างตามแบบดั้งเดิม เลือกห้อง 3 คน (แต่นอน 2 คน) ไม่มีระเบียงแต่มีหน้าต่างเปิดชมวิวได้ มุมดีพอสมควร ดูแผนผังแล้วห้อง 2 คนจะอยู่ชั้น 3 คือต้องแบกกระเป๋าขึ้นไป 3 ชั้น และห้องจะอยู่ตรงลานอาหารเช้า ซึ่งรู้สึกแปลกๆที่เปิดประตูห้องมาก็เจอโต๊ะอาหารเช้าเลย ดูไม่เป็นส่วนตัว เลยเลือกห้อง 3 คนที่ชั้น 2 แทน ห้องที่ได้พักสะอาดใช้ได้ แต่เตียงนอนไม่ค่อยสบาย ที่ไม่ชอบคือห้องน้ำ ค่อนข้างเก่า มีคราบดำตามร่องกระเบื้องและที่สำคัญน้ำรั่ว คืออาบน้ำแล้วน้ำซึมออกมาในห้องนอน ไหลมากระเป๋าเดินทางเปียกอ่ะ ควรซ่อมแซมขนานใหญ่

ห้องนอนชั้น 3 หน้าห้องคือระเบียงสำหรับทานอาหารเช้า / ชั้น 4 เป็นร้านอาหาร กับชั้นบนสุด Rooftop bar

ชั้น 4 เป็นร้านอาหารที่ไม่ได้ตั้งใจมากิน แต่ตั้งใจไปร้าน Antigoni ร้านอาหาร Traditional ที่อยู่ใกล้ๆอีกร้าน เพราะรีวิวว่าวิวสวยอาหารอร่อย แต่ไปถึงร้านปิด! เจ้าของร้านแปะป้ายว่า ไปเที่ยว! ก็เลยเดินกลับมากินที่โรงแรม ปรากฏว่าอร่อยกว่าที่คาด และบรรยากาศดีวิวดี เจ้าของร้านบริการดีมากด้วย ยังมี Roof top อีกชั้นที่เป็น Bar เครื่องดื่ม

Gorica Quarter

ฝั่งโรงแรมของเรา ชื่อว่า Gorica Quarter มีบ้านปลูกตามเชิงเขาเหมือน Mangalem Quarter แต่มีน้อยกว่า และไม่มีสิ่งก่อสร้างใหญ่ๆให้เป็นจุดท่องเที่ยว แต่เป็นฝั่งที่เงียบสงบกว่า คนไม่พลุกพล่าน และเป็นฝั่งที่มองเห็น Berat Old Quarte และ Berat Castle ได้สวยที่สุด

Church of Saint Thomas โบสถ์เล็กๆใน Gorica Quarter มีมุมถ่ายรูป Mangalem Quarter ได้สวย

จอดรถทิ้งไว้หน้าโรงแรม แล้วออกเดินเที่ยวกันตอนบ่ายๆ จากโรงแรมเดินไปที่ New Bridge ข้ามแม่น้ำโอซูมไปย่านเมืองเก่า (Mangalem Quarter)

แม่น้ำโอซูม | Osum River

สะพานแขวนข้ามแม่น้ำโอซูม จากฝั่ง Gorica ไปย่านเมืองเก่า

Berat, The City of Thousand Window

บ้านแบบออตโตมันที่สร้างด้วยหินเรียงรายตามเชิงเขา เดินเที่ยวลัดเลาะไปตามซอกซอย เงียบสงบดี ทางเดินพิ้นหิน บางช่วงก็ชันเหมือนกัน บางซอยเป็นบันไดยาวเลี้ยวไปเลี้ยวมา เดินหลงเอาได้ง่ายๆ หลายแห่งปรับปรุงเป็นห้องพัก ใครจะพักบนนี้ต้องเดินขึ้นอย่างเดียว รถเข้าไม่ได้ แม้แต่มอเตอร์ไซค์ก็ขึ้นไม่ได้ทุกซอกทุกซอย

ลงจากตรอกซอกซอยมาที่ถนน เดินเที่ยวย่านเมืองเก่าด้านล่างกันต่อ มีทั้งโบสถ์ ทั้งมัสยิดเยอะแยะ ติดๆกันๆ

3. The St. Michael’s Church โบสค์เซนต์ไมเคิลอยู่บนหน้าผาต้องเดินขึ้นเขาไปเท่านั้น ไม่มีทางรถ

Gate of the Pasha / Xhamia Mbret / รูปปั้นของ Ilias Vrioni อดีตนายกรัฐมนตรีแอลเบเนียที่เป็นคนเมืองเบรัต

อากาศวันที่แดดดีแบบนี้ แม้ลมจะเย็นแต่แดดแรงแสบผิวมากๆ สู้ไม่ไหวต้องขอพักหลบแดดสักหน่อย เดินไปถนนคนเดิน Bulevardi Republika หาร้านกาแฟนั่งพักหน่อย เป็นร้านกาแฟร้านแรกในแอลเบเนียที่มีกาแฟแฟนซี อย่างกาแฟใส่น้ำส้ม กาแฟปั่นต่างๆ แถมมีเบเกอรี่หลากหลาย อารมณ์เหมือนคาเฟ่ในเมืองไทย

Berat Castle (Castle Quarter)

มาถึงเมืองเบรัต มองขึ้นไปบนยอดเขาจะเห็นแนวป้อมปราการและธงชาติแอลเบเนียปลิวไสวของ Berat Castle เหมือนทุกเมืองในแอลเบเนีย ที่จะมีป้อมปราการบนยอดเขา เอาไว้สังเกตการณ์

ถ้าอยากใช้พลังงานขาก็สามารถเดินขึ้นไปได้ ทางทั้งสูงและชัน เราขอเลือกวิธีสบายด้วยการขับรถขึ้นไป แม้จะเลือกวิธีสบายแต่ก็เลือกทางผิดไปหน่อย เราเลือกทางจากในตัวเมือง ซึ่งเป็นถนนเล็ก พื้นเป็นหิน Cobble Stone ก็จะลื่นๆหน่อย พอขึ้นไปเรื่อยๆก็แคบลงๆ ต้องอาศัยชั้นเชิงในการหลบรถสวนทาง พอขึ้นไปถึงด้านบนจึงเห็นว่า มันมีทางขึ้นอีกด้านที่เป็นถนนคอนกรีตอย่างดี กว้างขวาง รถนักท่องเที่ยวทั่วไปเขามาทางนี้กัน ฮา…

ทางแสนแคบที่ขับขึ้นมา คนไม่มีรถเดินขึ้นกันทางนี้ก็มี

เราขับขึ้นมาทางขวา คนธรรมดาเขาขับขึ้นมาทางซ้าย / นี่คือทางที่คนส่วนใหญ่เขาขับขึ้นมา

จอดรถด้านหน้าแล้วเดินเข้าไป ไม่เจอที่เก็บเงิน แถมระหว่างที่เดินก็มีรถขับผ่านเราเข้าประตูป้อมไปหลายคัน จนเมื่อเราผ่านเข้าไปแล้วถึงได้เข้าใจว่า ภายในป้อมนั้นเป็นชุมชน มีบ้านคน มีร้านอาหาร มีร้านขายของ มีโรงแรม คือไม่ใช่ป้อมร้าง แต่เป็นเมืองๆหนึ่งบนยอดเขา

ตอนเช็คอินห้องพัก พนักงานบอกที่เที่ยวคร่าวๆให้ฟัง ได้ยินว่า Berat Castle open 24 Hrs. คิดว่าฟังผิด ก็เพิ่งจะเข้าใจว่าฟังถูกแล้ว บนนี้ไม่มีเวลาปิด มันคือหมู่บ้าน เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ยังเห็นแนวกำแพงล้อมรอบ มีบ้านที่สร้างด้วยหิน เปิดเป็นร้านขายของ ขายอาหาร มี Byzantine church กับ Ottoman mosque หลายที่ในรั้วกำแพง ทั้งที่เป็นซากหักพังและทั้งที่ยังใช้งานอยู่

พื้นที่ภายในกว้างขวางมาก (380 กม.2) เดินรอบใช้เวลาไป 2 ชม.จนเกือบมืด มีจุดชมวิวได้ทุกมุม บรรยายไม่ถูก ดูจากรูปแล้วกัน ใครอยากพักบนยอดเขาก็มีโรงแรมด้วย ทั้งถูกทั้งแพง หรือจะขับรถขึ้นมาทานอาหารเย็นก็เห็นมีร้านอาหารวิวสวยหลายที่ ถ้านอนบนนี้บรรยากาศตอนเช้าน่าจะสวยมากๆ

1.Entrance ผ่านประตูเข้าไปในป้อม เหมือนผ่านเข้าเมือง ชอบที่ความสะอาด ไม่มีขยะ ไม่มีของวางเกะกะ ไม่มีกลิ่นปัสสาวะ

ปีนขึ้นไปบนแนวกำแพง หามุมสวยๆถ่ายรูป

(ซ้าย) ตามแผนที่ มุมนั้นคือ 14. Church of St. Theodore, Orthodox church แต่ดูยังไงว่าเป็นโบสถ์นะ

เดินเลาะเลียบแนวป้อมปราการไปทางซ้าย มีวิวสวยๆข้างซ้าย ด้านขวาเป็นบ้านสร้างด้วยหินแบบดั้งเดิม เปิดเป็นร้านอาหารบ้าง ขายของบ้าง งานฝีมือสวยๆ อย่างเสื้อ หรือพรม ราคาถูกมาก

วิว Berat Old Quarter มีเทือกเขาเป็นฉากหลัง เหมาะกับการมานั่งจิบกาแฟ หรือนั่งชมวิว รับลมเย็นๆ

เดินมาสุดแนวฝั่งซ้ายตรงเสาธง ที่มองเห็นจากด้านล่างนั่นเอง เป็นจุดถ่ายรูปสวยๆอีกจุด

Berat Old Town มองไปถึงย่านอาคารใหม่ๆ

แม่น้ำโอซูมในหน้าร้อน แบ่งเมืองเบรัตเป็น 2 ฝั่ง

Gorica Quarter มองเป็น City of thousand windows เหมือนฝั่ง Magalem Quarter อยู่เหมือนกัน

Gorica Bridge สะพานดั้งเดิมที่ใช้เชื่อมระหว่าง 2 ฝั่งเมือง

เดินต่อขึ้นไปตามแนวกำแพงเมือง

ขึ้นมาเจอโบสถ์ 10. Church of St.George ที่ไม่คิดว่าเป็นโบสถ์ถ้าไม่ดูแผนที่

ซากที่หลงเหลือของ 9. Red Mosque

8. Citadel

แผนที่บอกว่าตรงนี้เคยเป็น 7. White Mosque

เดินมาได้ 3/4 ทาง พระอาทิตย์จะตกแล้ว

มาถึง 6. Church of Holy Trinity ในช่วงเวลาที่แสงสีทอง แต่พอถ่ายรูปต่างมุม สีแสงก็เปลี่ยนไป

Giant head of Constantine the Great

เดินครบรอบกลับมาถึงตรงทางเข้าจนได้ ไม่ได้ตัดเข้าซอยกลางๆเลย เวลาไม่พอ แต่แค่เดินครบรอบก็พอใจล่ะ หากใครอยากนอนบนนี้ก็มีที่พักหลายที่ อยู่ใกล้ๆกันแถวทางเข้านี่แหละ ขับรถขึ้นมาจอดใกล้ๆที่พักได้เลย

ยังอาลัยอาวรณ์วิวสวยๆก่อนกลับ

ขากลับใช้ทางที่คนส่วนมากเข้าใช้กัน ทางดี วิวสวย

กลับมาถึงหน้าโรงแรมได้ถ่ายแสงไฟของหน้าต่างพันบาน กับฟ้าที่ยังไม่มืดสนิทพอดี คุ้มค่ากับการจองโรงแรมฝั่งนี้

อย่างที่เล่าไว้ว่าร้านอาหารเย็น Antigoni Traditional Restorant ที่จะไปกินดันปิด เพราะเจ้าของไปเที่ยว ก็เลยตัดสินใจกินที่ร้านอาหารของโรงแรม Restorant Ajka ที่อยู่ชั้น 4 วิวสวยและอาหารอร่อยเกินคาด จบแอลเบเนียวันที่ 9 กับอาหารเย็นและวิวเมืองเบรัต พรุ่งนี้กลับเข้า Tirana เพื่อขึ้นเครื่องกลับเมืองไทย

มุมมองจากร้านอาหารสวยมาก

Day-10 Goodbye Albania : Berat – Tirana >> Bangkok

วันนี้ต้องบึ่งรถกลับเข้า Tirana เอารถไปคืนที่สนามบิน Flight 13:50 ก็ควรไปก่อนเวลาสัก 2-3 ชม. ระยะทาง 120 กม. ขับรถประมาณ 2 ชม. แต่ก็ต้องเผื่อเวลา เกิดโชคร้ายเจอรถติดหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จัดการอาหารเช้าเสร็จก็ออกเดินทางเลย

Good Morning Berat

แวะถ่ายรูป Gorica Bridge กับแนวป้อมปราการบนเขาและ St. Michael’s Church บนหน้าผาก่อนกลับ

จาก Barat ขับขึ้นเหนือกลับไป Tirana ระยะทาง 120 กม. ถนนเป็น Highway ตลอด

สนามบิน Tirana International Airport นี้เล็กมาก ขนาดประมาณสนามบินเชียงรายได้ มีอาคารเดียว ชั้นเดียว ขาเข้ากับขาออกอยู่ติดกันเลย Counter Check-in มี 2 แถวๆละประมาณ 12 ช่อง เวลาเปิดเคาเตอร์เช็คอินก็เลยค่อนข้างกระชั้น เราเผื่อเวลาไป 3 ชม. ต้องไปรอเคาเตอร์เปิดก่อนเวลาบินแค่ 2 ชม. มีร้านอาหารอยู่ทั้งข้างนอกและข้างในสนามบิน แต่ราคาแพงหูดับเหมือนเมืองไทย

ขาเข้าขาออกก็อยู่ติดๆกันนี่แหละ

Security Check & Immigration counter อยู่ชั้น 2 ที่น่าจะเรียกว่าชั้นลอยมากกว่า ใช้เป็นพื้นที่ตรวจนิดเดียว จากนั้นอีกครึ่งชั้นก็เป็นที่ขายของ ขายอาหาร ขายกาแฟ เวลา Boarding ต้องลงไปชั้นล่าง มีแค่ 13 Gate แบบไม่มีงวง ถึงเวลา Gate Open ก็ให้ทุกคนออกไปยืนรอด้านนอก มีเชือกกั้น พอเช็คคนครบแล้วก็เปิดเชือกมีคนพาเดินข้ามไปขึ้นเครื่อง ถ้าเครื่องจอดไกลหน่อยก็คงให้นั่งบัส

ตม.ที่แอลเบเนียเป็นระบบ Online 100% ไม่มีประทับตราใดๆในเล่มหนังสือเดินทางเลย มีแค่ประทับตราตรวจที่ Boarding pass ใครจะไปจำได้ว่าเคยไปตอนไหนละเนี่ย

มี Duty Free Shop เล็กๆด้านใน ก็พอจะมีของขายบ้าง ไปยืนดู Raki หรือเหล้าของแอลเบเนียว่าจะซื้อสักหน่อย นึกได้ว่าเอาไวน์กลับมาหลายขวดแล้ว น่าจะเกินโควต้า เผื่อโดนศก.เมืองไทยตรวจ ขี้เกียจเสียค่าปรับ

กลับด้วยสายการบิน Fly Dubai ไปต่อ Emirate Airline ที่ Dubai เหมือนขามา นั่งสบายมาก บริการดี เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการไปแอลเบเนีย ปกติคนนิยมบิน Turkish Airline ไปต่อเครื่องที่ Istanbul แต่ตอนนี้ราคา Turkish Airline แพงมาก แบบเกือบ 2 เท่าจากช่วงก่อนโควิด ส่วนระยะเวลาถ้าบิน Turkish Airline ช่วงแรก BKK-IST 9 ชม. แล้วจาก IST-TIA 2 ชม. เหมาะกับคนชอบนั่งยาว เราชอบ Emirate เพราะ Dubai เป็นระยะกลางทางพอดีๆ BKK-DXB 6.45 ชม. DXB-TIA 5.45 ชม. นั่งพอเมื่อยก็ได้ลงมายืดเส้นยืดสาย

สรุป ใช้เวลาเที่ยวในแอลเบเนีย 8 วันครึ่ง (ตีว่า 9 วันแล้วกัน) เช่ารถขับ 7 วัน เที่ยวไป 8 เมือง (ประมาณ 70% ของประเทศ) ถามว่าจะไปเที่ยวอีกมั๊ย ก็คิดว่าถ้าจะไปอีกก็น่าจะต้องพ่วงไปกับ เที่ยว North Macedonia เพราะอยากไปเมือง Korce ที่อยู่ใกล้ชายแดนมาซิโดเนียอยู่เหมือนกัน

One response to “Hello Albania ตอน 4 เที่ยว 2 เมืองมรดกโลก [Gjirokaster, Berat]”

  1. […] Hello Albania ตอน 4 เทียว 2 เมืองมรดกโลก (Gjirokaster, Berat… […]

    Like

Leave a reply to Hello Albania | รู้ไว้ก่อนไปแอลเบเนีย Cancel reply