“แสง”ท่าเตียน ร้านอาหารบ้านๆที่คิวนานข้ามปี

“แสง”ท่าเตียน
75 ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวง เขตพระนคร, Bangkok, Thailand, Bangkok

“แสง”ท่าเตียน ร้านอาหารที่เชฟออกตัวว่า เป็นอาหารบ้านๆ แต่โด่งดังมาก ใครๆก็อยากมาชิม จึงจองยาก จองนาน ไปจนถึงจองไม่ได้ แล้วยิ่งมาได้ Michelin Guide Thailand 2024 ยิ่งจองยากมากขึ้นไปอีกหลายเท่า

พวกเราเฉี่ยวไปเฉี่ยวมาจะได้คิวมากินแต่ก็ไม่ได้สักที สุดท้ายก็ได้คิว 1 โต๊ะ 6 คน เป็น Set menu คืออาหารมาเป็นชุด ที่รายการอาหารเปลี่ยนไปทุกเดือน ของพวกเราเดือนตุลาคมที่ฝนกระหน่ำเหมือนอยากให้เราร่วมชะตากรรมกับชาวภาคเหนือ คิวพวกเรารอบ 13:30 เดินมาถึงหน้าร้านตรงเวลา เพราะในร้านไม่มีที่รอ เปิดประตูก็เจอโต๊ะอาหารเลย ร้าน 1 คูหาในซอยตรงข้ามวัดโพธิ์ ประตูสีเขียวสด ไม่มีป้ายชื่อร้าน นอกจากกระดาษแปะกระจกว่า “แสง”

ร้านอาหารที่เชฟออกตัวว่าเป็นร้านอาหารบ้านๆนะไม่ใช่อาหารเลิศหรู เหมือนไม่อยากให้พวกเราคาดหวังมากนัก แต่พวกเราก็แอบคาดหวังอยู่ดี เพราะรีวิวที่ได้อ่านมาจากหลายๆช่องล้วนชื่นชมยกนิ้วเลียปากแพล่บๆกันทั้งนั้น แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ

รายการอาหารในมื้อนี้ของพวกเรา เริ่มต้นด้วย “ข้าวตังหน้าตั้ง” ที่เชฟบอกว่าให้เริ่มจากอันนี้ก่อนเพราะรสอ่อนๆ แต่ชิมแล้วรสไม่อ่อนนะ เข้มข้นแต่อร่อย จากใจของคนไม่ได้ชอบกินข้าวตังหน้าตั้งนัก แต่เรากินไป 3 ชิ้น เมนูอื่นที่วางรอไว้เป็นชุดเริ่มต้นตอนพวกเราเข้ามาคือ “กระดูกหมูผัดพริกแกงใต้” ที่กระดูกหมูเปื่อยนุ่มผัดพริกแกงเข้มๆแต่ไม่เผ็ดจัด คลุกข้าวกำลังอร่อย “น้ำพริกลงเรือ” ที่แยกปลาดุกฟูกับหมูหวานให้ตักมาผสมกันเองแต่ละคำและผักแนมที่นอกจากผักทั่วไปก็มีชมพู่ที่เชฟแนะนำว่าให้ลอง เออ น้ำพริกรสเข้มข้นกินแกล้มกับชมพู่ มันเข้ากันได้อย่างน่าแปลกใจ กินน้ำพริกกับชมพู่ว่าล้ำแล้ว เมนูต่อไปคือ “เงาะทรงเครื่อง” ที่หน้าตาคล้ายยำ คลุกเคล้าให้เข้ากันตักเข้าปากด้วยความสงสัยว่าเงาะทำเป็นอาหารคาวไหวมั๊ย โอ้ว…อร่อยเฉย เหมือนยำแบบรสกลมกล่อมไม่ได้เผ็ดจัดเปรี้ยวจี๊ด และอีกเมนูที่ว่ากันว่าเป็นเมนูเด็ดของร้านคือ “สตรอเบอรี่ผัดกะปิหมูหวาน” เป็นเมนูล้ำๆที่หน้าตาแปลกแต่สีสวยงาม สะตอ + สตรอเบอรี่ + ชะอม ผัดกับกะปิใส่หมูหวาน เราไม่กินสะตอแต่แอบตักสตรอเบอรี่กับชะอมมาชิม เออ แปลกแต่ไม่ได้ประหลาดจนกินไม่ได้ รสชาติกลมกล่อม เปรี้ยวหวานเค็ม ถือว่าดี

ข้าวตังหน้าตั้ง

กระดูกหมูผัดพริกแกงใต้

น้ำพริกลงเรือ ปลาดุกฟู หมูหวาน และผักสด

เงาะทรงเครื่อง

สตรอเบอรี่ผัดกะปิหมูหวาน

อาหารที่ออกตามมาดูหน้าตาธรรมดาคือ “ต้มยำไก่บ้าน” ที่เชฟออกมาอธิบายว่า เป็นต้มยำไก่บ้านสูตรราชบุรี ที่ต้องกินกับเส้นใหญ่! เหมือนกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำเส้นใหญ่ น้ำต้มยำรสเปรี้ยวเค็มเผ็ดซดอร่อย ไก่บ้านไม่เหนียวคือดี ต้มชามที่ 2 คือ “แกงเหลืองมะม่วงเบาปลากระพง” แปลกอีกแล้ว ด้วยความเป็นคนหลงใหลแกงเหลืองใต้ และชอบมะม่วงเบา จึงรีบตักชิมทันที ไม่ผิดหวังจริงๆ มะม่วงเบาต้มมาอ่อนนุ่มและไม่เปรี้ยวปรี๊ดเหมือนเวลากินสด น้ำแกงซดได้ไม่เผ็ดจนเหงื่อตก แกงนี้ตักราดข้าวกินไปครึ่งจานกันเลย มีต้มชามที่ 3 ตามมาให้ลดความเผ็ดร้อนในปากคือ “แกงร้อนวุ้นเส้น” ที่หลายๆคนอาจงงว่า แกงกะทิใส่วุ้นเส้นมีด้วยเหรอ ซึ่งเราก็เคยสงสัยเหมือนกัน แต่ได้กินครั้งแรกจากน้องๆที่เป็นคนต่างจังหวัดบอกว่า คนที่บ้านเขาทำกินกันเป็นปกติ เราคนกรุงเทพฯไม่เคยรู้จัก แกงร้อนของร้านแสง รสชาติเค็มๆนัวๆอร่อยเพลินๆดีทีเดียว จานต่อมายังคงเป็นจานรสไม่แรงอีกจานคือ “หน่อไม้ผัดไข่ใส่ปู” หน่อไม้นุ่มๆผัดกับไข่และเนื้อปู กินง่ายๆ ตักมากินแกล้มกับแกงเหลืองเข้ากันดี จานสุดท้ายในรายการคือ “กุ้งทอดเกลือ” กุ้งตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ขนาดกำลังดีทอดมาได้ดีไม่แข็ง มีมันกุ้งเอามาคลุกข้าวได้ อร่อย ข้าวหมดอีกครึ่งจาน

ต้มยำไก่บ้านสูตรราชบุรี กินกับเส้นใหญ่

แกงเหลืองมะม่วงเบาปลากระพง

แกงร้อนวุ้นเส้น

หน่อไม้ผัดไข่ใส่ปู

กุ้งทอดเกลือ

อาหารในชุดหมดที่กุ้งทอดเกลือ พวกเราสั่งเพิ่มอีก 1 อย่างคือ “ข้าวขยำปู” ไม่ใช่ว่าไม่อิ่มนะ แต่หลายคนชื่นชมเมนูนี้เหลือเกิน พวกเราเลยอยากลอง เชฟเบียร์เป็นคนมาคลุกให้เองที่โต๊ะเลย ข้าวกับปูเป็นก้อนๆคลุกเคล้าเบาๆกับพริกเกลือ (คล้ายๆน้ำปลาพริกนั่นแหละ) ซึ่งรสชาติมันกำลังดี ปูก็สดมาก เป็นก้อนๆเลย สรุปคือมันดีจริง กินเพลิน ใครอยากได้รสจัดกว่านั้นก็ตักพริกเกลือราดเพิ่มอีกได้ จบมื้อจริงๆที่ข้าวขยำปูนี่แหละ แม้เพื่อนจะบอกว่า ไข่ตุ๋นที่นี่ก็อร่อยมาก เชฟเบียร์ได้ยินปุ๊บถามเลยว่าเอามั๊ยจ๊ะ ถ้าเอาเดี๋ยวไปตุ๋นมาให้ โอยยย ไม่ไหวแล้วเชฟ พุงจะแตก ขอเป็นโอกาสหน้า (ถ้ามีโชคได้มาอีกนะ)

ข้าวขยำปู

หมดจากชุดอาหารคาว ต่อด้วยของหวานวันนี้คือ “ไอศครีมเผือกกับข้าวเหนียวดำ” ไม่หวานจัด อร่อยใช้ได้ แต่ก็ไม่จบจริง เพราะเพื่อนสั่งโรตีไว้อีก บอกว่าต้องไม่พลาด คิดไปคิดมาเพื่อนบอกเอามา 2 จานเลย เพราะกลัวจะแย่งกัน เพิ่งมารู้ทีหลังว่ามันมีชื่อว่า “โรตีกรอบกุสินารา” ชื่อนี้ได้มาจากที่เชฟไปเมืองกุสินารา ที่อินเดีย แล้วได้กินโรตีทอดแบบนี้ที่วัดทอดแจก แถมมีสูตรพร้อมวิธีทำติดไว้เป็นวิทยาทานด้วย เชฟเลยเอามาทำจนได้ออกมากรอบอร่อยสวยงาม แถมเชฟใจดีให้สั่งกาแฟจากร้านตรงข้ามมาจิบแกล้มโรตีได้ด้วย กินเพลินจริง

ไอศครีมเผือกกับข้าวเหนียวดำ

โรตีกรอบกุสินารา

สรุปรวบยอดอีกครั้งว่า อาหารดี อร่อย เพราะรสมือดี และใช้ของดีของสด อาหารจะจัดมาเป็นชุด 10 อย่าง สำหรับ 6 คน และสามารถสั่งเพิ่มได้อีก คือ ไม่สามารถเข้ามานั่งสั่งทีละอย่างสองอย่างได้ และต้องจองมาก่อนเท่านั้น ได้ยืนยันนัดแล้วก็มาตามเวลาของรอบที่จองได้ (วิธีการจอง ไปติดตามรายละเอียดที่ FB/IG ของร้านเอา คือไม่ปกติแบบโทรไปจองอ่ะนะ ว่ากันว่าตอนนี้จองปีนี้ได้กินปีหน้าอ่ะ คิวขนาดนั้นเลย) อาหารชุดจะเปลี่ยนทุกๆเดือน ราคาในวันนี้ เซ็ตเมนู 6 ท่าน 7,900 บาท


“แสง”ท่าเตียน

75 ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวง เขตพระนคร, Bangkok, Thailand, Bangkok

แสงท่าเตียน – ร้านอาหาร – Facebook

แสง ท่าเตียน – Sang Thatien (@sang_thatien) – Instagram

2 responses to ““แสง”ท่าเตียน ร้านอาหารบ้านๆที่คิวนานข้ามปี”

  1. รบกวนแนะนำวิธีจองด้วยคะ

    Like

    1. ไปติดตาม FB ของร้านดูค่ะ เขาจะเปิดรับจองเมื่อไหร่นั้นไม่รู้เลยค่ะ ซึ่งได้ข่าวว่าคิวยาวข้ามปีเขาเลยไม่ได้เปิดรับจองเลย
      หรือลองโทรไป 062-1696591 (แต่หลายคนว่าติดต่อไม่ได้)
      อีกวิธีนะ คือวอร์คอินไป (แต่ไม่ได้ไปกินนะ) แต่ไปขอฝากเบอร์เราไว้ที่ร้านเลยบอกเขาว่ามีคิวว่างเมื่อไหร่ให้บอกด้วย

      Like

Leave a comment