GEORGIA TRIP #1 TBILISI
End of October 2025

ทริปจอร์เจีย 12 วัน ถือว่าเป็นทริปยาวพอสมควร ไม่สามารถรีวิวให้ครบได้ใน 1 โพสต์ จึงขอแบ่งเป็น 3+1 ตอนแล้วกัน

  • Gorgeous Georgia #1 : Tbilisi
  • Gorgeous Georgia #2 : Kazbegi – Mtskheta – Gori – Kutaisi
  • Gorgeous Georgia #3 : Mestia – Ushguli – Batumi
  • Things to Know about Georgia

แผนเที่ยวจอร์เจีย 12 วัน ตั้งต้นที่เมืองหลวงทบิลิซี (Tbilisi) เลือกบินกับ Air Astana มาถึง Tbilisi ก็เกือบสามทุ่มแล้ว จากข้อมูลที่หามา ก็คืออย่าเรียก Taxi ที่มารอดักเรียกอยู่ด้านนอกเพราะจะโดนโก่งราคาได้ (เหมือนทุกประเทศ รวมประเทศไทยด้วยแหละ) ให้เรียกรถผ่าน App Bolt หรือ Yandex Go ราคาโดยประมาณ 30GEL แต่ด้วยความประสาทหวาดระแวงของเราจากที่เคยเจอปัญหาเรียกรถไม่ได้ตอนไปรัสเซีย ประกอบกับมาถึงมืดแล้ว เลยตัดสินใจจองรถมาล่วงหน้าตอนจองโรงแรมเลย ราคาแพงกว่าเกือบเท่าตัว (55GEL) แต่เอาสบายใจ มาถึงดึกแล้วอยากรีบไปนอน

ถึง Tbilisi แล้ว กว่าจะได้ออกมาขึ้นรถก็สี่ทุ่มพอดีเลย

Tbilisi | ทบิลิซีเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของจอร์เจียมี แม่น้ำคูรา (Kura river) ไหลผ่าน มีประชากรมากกว่า 1.3 ล้านคน เป็นเมืองเก่าแก่ย้อนได้ถึงศตวรรษที่ 5 สถาปัตยกรรมของทบิลิซีเป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมจอร์เจียน (Georgian), ไบแซนไทน์ (Byzantine), นีโอคลาสสิก ( Neoclassical), อาร์ตนูโว (Art Nouveau), โบซาร์ (Beaux-Arts), ตะวันออกกลาง (Middle Eastern), และศิลปะโซเวียตยุคใหม่ (Soviet modern)

เลือกมาเที่ยวจอร์เจียในช่วง ฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม-พฤศจิกายน) อากาศเปลี่ยนจากร้อนเข้าสู่หนาว คาดหวังใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีไปทั่วทั้งเมือง ทั่วทั้งหุบเขา แต่ใน Tbilisi ใบไม้ส่วนมากมันยังเขียวอยู่ เสียใจนิดหน่อย แต่ว่าอากาศกำลังสบายดีมาก ใส่เสื้อหนาวธรรมดา 1 ตัวเดินเล่นได้ กลางคืนจะหนาวหน่อย

วางแผนเที่ยว Tbilisi ไว้ 2 วันเต็มๆ เป้นแผนคร่าวๆว่าอยากไปที่ไหนบ้าง สุดท้ายก็สลับไปมาไม่ได้ตามแผนทั้งหมด แต่ก็ได้ไปเกือบครบที่วางแผนไว้นั่นแหละ มีทั้งเดิน ทั้งนั่งรถ ที่เรียกง่ายราคาไม่แพง อยู่ในทบิลิซีแนะนำว่าไม่ต้องเช่ารถเลยจริงๆ

7 โมงเช้า พระอาทิตย์เพิ่งจะเริ่มเห็นแสงเรืองๆเท่านั้น

ที่พักของเราอยู่ริมหน้าผาติดแม่น้ำคูรา ใกล้ Metekhi church มาก และแค่เดินข้ามถนนไปก็เป็น Rike Park จุดขึ้นกระเช้าไปยอดเขาที่ตั้ง Mother of Georgia ได้ แผนวันนี้ จะเดินจากโรงแรมไปถ่ายรูปวิวจาก Queen Darejani Palace แล้วไปนั่งกระเช้าขึ้นเขาทักทายพระแม่จอร์เจีย แล้วเดินลงเขามาเดินเล่นย่านเมืองเก่า ระยะเวลาไม่ได้กำหนด เดินตามสบาย ไม่ตรงตามแผนที่วางไว้ที่กะจะเดินลงทาง Narikala Fortress ลงไปตรงโรงอาบน้ำแล้วเดินเล่นลัดเลาะขึ้นไปถึง Liberty Square แต่เนื่องจาก Narikala Fortress ปิดซ่อมแซม ทางลงตรงนั้นก็เลยปิดไปด้วย ก็เลยเดินลงทางพระแม่จอร์เจียแทน แล้วเดินย้อนกลับมาตรงโรงอาบน้ำ ตามแผนเดินนี้เลย ช่วงแรกนี้เดินแค่ประมาณ 2 กม.

ออกจากโรงแรมก็เดินไปที่ Queen Darejani Palace ก่อน คือไปอ่านเจอจากเวปคนต่างชาติเขาชอบไปถ่ายรูปจากบนระเบียงกัน เห็นว่าสวยดี ใกล้ที่พักมากและเข้าฟรี มีหอคอยกับระเบียงที่มองไปเห็นเมืองสวยงามดี

Queen Darejani Palace (Sachino Palace) เคยเป็นที่ประทับของพระมเหสีองค์ที่สามของกษัตริย์เอเรเคิลที่ 2 (King Erekle II of the Kartli-Kakheti Kingdom) ทรงมีอิทธิพลอย่างมากต่อการเมืองและราชสำนัก ตอนหลังเมื่อรัสเซียเข้ายึดครองจอร์เจีย พระราชินีดาเรจันถูกเนรเทศไปยังรัสเซีย

พระราชวังสร้างขึ้นบนซากของกำแพงป้อมปราการเมืองเก่า ผสมผสานองค์ประกอบของป้อมปราการแบบจอร์เจียและสถาปัตยกรรมพระราชวัง ส่วนล่างของหอคอยประกอบด้วยก้อนหิน ขณะที่ส่วนบนใช้อิฐสี่เหลี่ยม จุดเด่นของพระราชวังคือหอคอยทรงกลมที่มีระเบียงไม้แกะสลักสีฟ้าอ่อน เป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของพระราชวัง สมกับชื่อ “Sachino (ซาชิโน)” ในภาษาจอร์เจียที่แปลว่า “โดดเด่น” หรือ “สูงส่ง” ที่หมายถึงทำเลที่ตั้งอันโดดเด่น

จากหอคอย มองเห็นวิวเมืองเก่าและMother of Georgia รวมทั้ง Metekhi Church จากมุมสูงได้

แนวกำแพงป้อมปราการเก่า | Fotress of Isani

Berlin Memorial Wall ชิ้นส่วนของกำแพงเบอร์ลิน เป็นของขวัญที่นายกรัฐมนตรีจอร์เจียได้รับมอบในระหว่างการเยือนเยอรมนี เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพระหว่างจอร์เจียและเยอรมนีเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2017 (มองเห็น Metekhi Church ด้านหลัง)

ลงจากด้านบนมาเดินข้ามถนนไปที่ Rike Park เพื่อขึ้น Cable Car มาตอนเช้าคนจะไม่เยอะ (เช้าก็ 10 โมงแหละมันเพิ่งเปิด) เราซื้อตั๋วเที่ยวเดียวเพราะตั้งใจเดินลง ถ้ามาทัวร์ส่วนมากคงให้นั่งกระเช้าขึ้นลง แต่ถ้าพวกฝรั่งชอบเดินทั้งขึ้นทั้งลงกัน พวกเราขอเป็นลูกครึ่งนั่งกระเช้าขึ้นแล้วเดินลง ที่นี่รับแต่เงินสดนะ เที่ยวละ 3.5GEL ต่อคน แต่ต้องใช้บัตรเติมเงินของเขา ซึ่งมีค่าบัตร 5GEL (บัตรนี้เอาไปเติมเงินแล้วใช้ขึ้นรถเมล์ รถไฟใต้ดินได้ต่อ)

ตรงวงเวียนนี้มีชื่อว่า Europe Square (เพราะอะไรก็ไม่รู้)

เดินข้ามถนนตรง Europe Square มาเจอต้นไม้นี้ นึกถึง Harry Potter เลยนะ

ซื้อบัตร Metro Card พร้อมเติมค่าขึ้นกระเช้า บัตร 1 ใบใช้แตะเข้า 2-3 คนได้เลย

ขึ้นถึงด้านบน เลี้ยวซ้ายไป Narikala Fortress (ตอนนี้ปิดซ่อม) ถ้าเลี้ยวขวาเดินไปหน่อยจะเป็นรูปปั้น Mother of Georgia ตลอดทางมองเห็นวิวเมือง Tbilisi ได้ คนเลยชอบขึ้นมาช่วงเย็นๆ มารอดูพระอาทิตย์ตก

Mother of Georgia (Kartlis Deda) รูปปั้นสตรีสูง 23 เมตรในเครื่องแต่งกายประจำชาติของจอร์เจียตั้งอยู่บน ยอดเขาซอลอลากี (Solo Laki Hill) สร้างขึ้นในปี 1958 เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 1,500 ปีของการก่อตั้ง Tbilisi มองเห็นเด่นชัดจากทุกมุมเมือง เป็นสัญญลักษ์ประจำเมืองไปแล้ว

รูปปั้น Mother of Georgia ยืนถือถ้วยไวน์ในมือซ้าย และถือดาบในมือขวา เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงจิตวิญญาณของชาวจอร์เจีย เมื่อมาเยือนอย่างมิตรเราก็ยื่นไวน์ให้ แต่หากมาเยือนอย่างศัตรูเราก็จับดาบพร้อมสู้

Narikala Fortress (ปิดซ่อม พย.2025) เลยได้แต่ยืนถ่ายรูปด้านนอก

ตามแผนเดิมจะเดินเที่ยวป้อมนาริกาล่าแล้วเดินลงเขาทางด้านนั้น ลงไปจะเจอ Sulphur Bath เลย แต่ป้อมปราการปิด ทางลงก็เลยโดนปิดไปด้วย พวกเราก็เลยไปเดินลงทางรูปปั้น Mother of Georgia แทน ทางก็เดินสบายดี วิวถ่ายรูปสวยงาม

เดินลงมาถึง Betlemi Street มองกลับไปจะมีมุมถ่ายรูป Mother of Georgia อยู่หลายมุม

Hotel Check in นี้เก๋ไก๋ดีมาก นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายรูปกัน ไม่พักก็เดินเข้ามาถ่ายรูปเล่นได้ มีส่วนที่เป็น Cafe ด้วยแต่ไม่ได้ชิม

ชุมชนแถบนี้น่าจะเป็นทาสแมว

เดินมาเรื่อยๆทะลุที่ Vakhtang Gorgasali Square (มองเห็น Holy Trinity Church ด้วย)

มาแวะถ่ายรูปป้าย I ❤️ TBILISI หน้าร้าน Machakhela cafe กันหน่อย ให้สมเป็นนักท่องเที่ยว

เดินต่อเข้าไปตาม Samghebro street มุ่งหน้าไป Sulphur Bath ระหว่างทาง แวะกินข้าว กินกาแฟ พักขาหน่อย ร้านอาหารกินได้ แต่กาแฟไม่ได้ดีเท่าความน่ารักของร้านกับบาริสต้า ใครผ่านทางนี้แวะได้ทั้ง 2 ร้าน เพราะเราว่าดูดีสุดในละแวกนี้ (รวมไปถึงแถว Sulphur Bath ด้วยเดินดูหมดแล้ว)

ยังคงเจอแต่แมว

🍽 Odo’s House (odos house) : 8 AM–10 PM
📍 https://maps.app.goo.gl/rmZ2th3jvDRDJ5SK9

มื้อเที่ยงที่ร้านนี้ Odo’s House (odos house) ได้ 4.6⭐️ ใน Google เลยนะ ความจริงก็คือเดินดูสุ่มๆเอา เห็นป้ายชื่อร้านเป็นรูป Khinkali มันต้องเป็นเมนูเด็ดของร้านแน่ มื้อเที่ยงแรกขอลองอาหารจอร์เจียเลย จัดของประจำชาติอย่าง Khinkali อาหารจอร์เจียที่หน้าตาเหมือนเสี่ยวหลงเปา แต่แป้งจะหนากว่าไม่นุ่มเนียนเหมือนของจีน แป้งแน่นๆเนื้อจุกๆ 1-2 ก้อนแทนข้าวจานย่อมๆได้เลย มีไส้หลากหลาย ไส้ผัก ไส้เนื้อ ไส้ชีส ราคาต่างกัน และจะบอกเป็นราคาต่อตัว แต่ทุกร้านที่เจอคือขั้นต่ำ 5 ตัว ก็ยังสงสัยว่าทำไมไม่ขายเป็นจานไปเลย เพิ่งเห็นวันหลังๆว่า คือเขาสั่งกันแบบ 10 ชิ้น 11 ชิ้น 12 ชิ้น ตามจำนวนคน อาจจะ x2 x3 แล้วแต่ ก็บวกราคาต่อชิ้นเพิ่มไป เขากินกันจริงจังมาก ยกมาเสิร์ฟกันทีเป็นชามเปล ของเรา 5 ชิ้น 2 คนจุกนะ

มื้อนี้สั่ง Khinkali, Salad, Trout อิ่มมาก ราคาก็ตามรูปเมนู

Khinkali with beef ตัวละ 2.18GEL (จานนี้ 10.9GEL) / Chicken Salad ที่มีทับทิมโรยมาด้วย ราคา 21GEL

☕️ Abara Coffee (กลับมายังไม่ถึงเดือนเลย เข้าไปใน Google map มันบอก “Temporarily closed” งั้นใครผ่านไปลองแวะดู เผื่อมันจะเปิดแล้ว)
📍https://maps.app.goo.gl/dJpx96sn1ExyjY3v5

ส่วนร้านกาแฟนั้น มองหามาเรื่อยๆไม่ค่อยเจอร้านกาแฟจริงจัง ส่วนมากเป็น ร้านอาหารแต่ขายกาแฟด้วย ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายการนั่งจิบกาแฟของเรา เดินผ่านมาเห็นร้านนี้ มองดูไม่แน่ใจ เพราะมีทั้งชื่อร้าน Wine และชื่อร้าน Coffee แต่ที่แน่ๆมันมีเขียนว่า “How much coffee you decide?” มันต้องเน้นกาแฟระดับนึงละวะ เดินเข้าไปในร้าน ก็ตามนั้น คือส่วนนึงเป็น Wine Shop แต่อีกส่วนก็เป็น Coffee Bar นี่ซิที่เราต้องการ น้องบาริสต้าหน้าเหมือนแฮรี่ พอตเตอร์ พูดอังกฤษปร๋อ ลองถามเล่นๆว่ามีลาเต้เย็นมั๊ย น้องว่ามี เลยสั่งมา 2 แก้ว แต่พอมาเสิร์ฟ ตกใจเล็กน้อยคือแก้วใหญ่มาก แต่น้ำขาวมาเลย ใจคิดว่าพลาดแล้ว ลืมตัว พูดแค่ Ice Latte ซึ่งคำว่า Latte แปลว่านม เวลาไปต่างประเทศต้องสั่ง Coffee Latte ถึงจะได้กาแฟใส่นม ไม่อย่างนั้นจะได้นมมาแทน ไปคุยกับน้องแฮรี่ น้องบอกนั่นมีกาแฟแล้วนะ! คือมี Espresso shot แล้ว ห้ะ! จริงดิ ชิมแล้ว อืมมม แบบไม่ได้รสกาแฟเลย น้องเลยไปเพิ่ม shot ให้ ดีขึ้นเยอะ ที่พีคคือพอจะจ่ายเงินน้องก็บอก เท่าไหร่ก็ได้จ้ะ ตามที่เขียนไว้เลย “How much coffee you decide?” เลยคุยกันยาวหน่อยว่า ราคากาแฟที่จอร์เจียมันประมาณเท่าไหร่ เพิ่งเป็น Coffee Break มื้อแรก ไม่รู้เลย ได้ความว่า มีตั้งแต่ 6GEL ขึ้นไปถึง 10 กว่า ตามคุณภาพแล้วไอ้เราอยากให้แค่ 5GEL เหอะ แต่น้องน่ารัก เพิ่ม shot ให้อย่างไม่อิดออดด้วย เลยให้ไปแก้วละ 10GEL จ่ายเท่าไหร่ก็ได้เหรอเนี่ย

จ่ายค่ากาแฟตามความพอใจว่าพีคแล้ว มีพีคกว่านั้นอีก คือมีนักท่องเที่ยวเดินลงมาถามหาห้องน้ำ น้องแฮรี่ชี้ไปที่ตู้นั่น
เฮ้ย! ฉันนั่งกินกาแฟอยู่หน้าตู้นี้ตั้งนาน มันคือทางเข้าห้องน้ำเหรอ? นี่มันหมู่บ้านฮอกส์มี้ดแน่ๆ

เดินต่อจากร้านอาหาร-ร้านกาแฟไปอีกไม่ไกลก็เลี้ยวเข้าถนน Abano ก็จะมองเห็นโดมอิฐกลมๆเต็มไปหมด นั่นคือ Sulphur Bath โรงอาบน้ำโบราณ (Abanotubani) ที่ปัจจุบันก็ยังมีเปิดบริการอยู่ ใครสนใจอยากได้ประสบการณ์การแช่น้ำแร่ ที่ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง แล้วมีบริการขัดถูอย่างหนักหน่วงก็เชิญลองใช้บริการได้

Tbilisi Juma Mosque มัสยิดแห่งเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่ในเขตเมืองเก่าของ Tbilisi

จอร์เจียร์ก็มี Bridge of Love แขวนกันแน่นไม่แพ้เกาหลี

เดินตามทางเข้าไปด้านในมีอีกสะพาน Bridge of Love 2 ได้รับความนิยมจนต้องมีสะพาน 2 กันเลย

เดินผ่าน Leghvtakhevi Canyon

สุดทางที่น้ำตก Leghvtakhevi Fall

เดินเล่นละแวกนี้จนทั่วแล้ว ก็เดินย้อนกลับ มาข้ามสะพาน Metekhi กลับโรงแรม พักขาหน่อย แล้วเรียก Bolt ไป Holy Trinity Cathedral of Tbilisi ความจริงเดินไปก็ได้นะ แค่ 1 กม. เดินชมเมือง แต่…มันขึ้นเนินตลอด นั่งรถไปสบายกว่า ขากลับค่อยเดินลง

Holy Trinity Cathedral of Tbilisi เป็นอาสนวิหารในคริสตจักรออร์โธดอกซ์จอร์เจีย (Georgian Orthodox Church) อยู่บนเนินเขาเซนต์อิลยา (St. Ilya) ได้รับการยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์ของจอร์เจียยุคใหม่ อยู่ทิศตรงข้ามกับ Mother of Georgia มองเห็นกันได้เลย

จากเนินเขาฝั่ง Mother of Georgia มองไปเห็น Holy Trinity Cathedral ที่เนินเขาฝั่งตรงข้าม

จากที่พักระยะทางเดินแค่ 1 กม. แต่ถ้านั่งรถที่จอร์เจียเนี่ย มันจะต้องขับอ้อมโน่นนี่ ระยะทางเลยกลายเป็น 2 กม. ค่ารถแค่ 6.2GEL (77 บาท) นั่งรถเถอะ

Holy Trinity Cathedral คนท้องถิ่นเรียกว่า ‘Sameba’ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1989 เพื่อรำลึกถึง 1,500 ปีแห่งการสถาปนาตนเองของคริสตจักรออร์โธดอกซ์จอร์เจีย และ 2,000 ปีหลังการประสูติของพระเยซู

Holy Trinity Cathedral เป็นโบสถ์อีสเทิร์นออร์โธด็อกซ์สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก ด้วยความสูง 101 เมตร การวางรากฐานของอาสนวิหารเป็นไปตามประเพณีดั้งเดิมทุกประการ ผังของอาสนวิหารก็สร้างตามแบบกรุงเยรูซาเล็ม

ขากลับก็เดินลงไปตามทางเรื่อยๆ สวนกับนักท่องเที่ยวที่เดินขึ้นมากันเยอะอยู่เหมือนกัน ทางชันเหมือนกันแหละ ใครอยากเดินก็เชิญเลย ทางเดินจะผ่าน ด้านข้างของ State Palace of Ceremonies ลงมาตามถนนจนถึงถนนใหญ่

Nikoloz Baratashvili Statue

The Palace of State Ceremonies (Avlabari Residence) มีพื้นที่ประมาณ 22,000 ตารางเมตร ตัวอาคารทั้งหมดตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิค มี 4 ชั้น มีพระคัมภีร์ไบเบิลอันล้ำค่าจากศตวรรษที่ 11 อยู่ที่โถงกลางของโดม ชั้น 1 เป็นส่วนพิพิธภัณฑ์ พื้นที่ส่วนมากของอาคารใช้สำหรับจัดพิธีการของรัฐและของประเทศ และยังมีพื้นที่มากกว่า 1,000 ตารางเมตรเป็นทำเนียบประธานาธิบดี

จากนั้นก็ข้ามถนน (ถนนตรงนี้ใหญ่มาก หาทางลอดใต้ดินข้ามเอานะ) ไปเดินเล่นใน Rike Park เลาะเลียบริมแม่น้ำ Kura เดินไปเรื่อยๆ ก็ถึง Bridge of Peace สะพานทรงล้ำของทบิลิซี

อาคารหน้าตาแปลกๆนี้เข้าใจว่าเป็น Concert Hall

เดินไปเดินมาเจอโรนัลด์ เรแกน เลยนั่งบ่นกับแกสักหน่อยว่า ปธน.เมกาตอนนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ (Statue of Ronald Reagan)

Bridge of Peace สะพานแห่งสันติภาพ ที่ออกแบบโดยสถาปนิกอิตาลี สร้างด้วยโครงเหล็กและกระจกใส ไม่รู้ว่าแรงบันดาลใจคืออะไร แต่สื่อถึงความทันสมัยได้ชัดเจน แม้จะดูขัดความรู้สึกไปหน่อยที่สะพานหน้าตาล้ำยุคนี้สร้างข้ามแม่น้ำคูราเพื่อเชื่อมย่านเมืองเก่ากับเมืองใหม่

ข้ามจากฝั่งเมืองใหม่กลับไปย่านเมืองเก่า ช่วงเย็นคนคึกคักมาก เดินข้ามสะพานกันไปมา พวกเราเลี้ยวซ้ายเข้าถนน Erekle II ถนนเส้นแคบๆที่มีบ้านสวยตลอดแนว มีระเบียงยื่นออกมาทุกหลัง แต่เปิดเป็นร้านอาหารเรียงรายทั้งถนน แต่ละร้านกางร่มเต็มพรืด เลยถ่ายรูปได้แบบสวยด้านบนมีร่มด้านล่าง

Zion Cathedral of the Dormition of Tbilisi, Georgian Orthodox Church ที่สำคัญของจอร์เจีย

มื้อเย็นก็เลยเลือกนั่งแถบนี้ ไม่เน้นอะไรเป็นพิเศษ แค่จิบไวน์จิบเบียร์แกล้มพิซซ่า ซึมซับบรรยากาศยามเย็น ร้านที่นั่งคือร้าน Stelzenhaus เป็นร้านแรกถัดจาก Zion Cathedral ไม่ได้อร่อยพิเศษอะไร แต่บรรยากาศดี เปิดโล่งโปร่งสบายกว่าร้านอื่นๆด้านใน

ยิ่งมืดก็ยิ่งหนาว เดินกลับห้องพักดีกว่า เดินต่อไปที่ Vakhtang Gorgasali Square แล้วข้ามสะพาน Metekhi Bridge กลับโรงแรม นับว่าเลือกพักย่านที่สะดวกสบายดี เดินเที่ยวง่าย ผู้คนคึกคักตลอดเวลา ไม่เปลี่ยว ไม่น่ากลัว

สรุปค่าใช้จ่ายท่องเที่ยววันนี้ ค่าเข้าสถานที่เที่ยว 0 บาท เสียค่า Cable car เที่ยวเดียว 40 บาท/คน เสียค่า Taxi ไป Holy Trinity Cathedral 70 บาท ที่เหลือเป็นค่าอาหาร ค่ากาแฟ ซื้อน้ำ ซื้อไวน์ ซื้อเบียร์ กลับที่พัก รวม 1,800 บาท (2 คน ก็ตกคนละ 900 บาท) คือที่เที่ยวไม่เสียเงินเลย ดูแล้วค่ากินอยู่ก็ไม่ได้ถูกมากนะ (แต่ก็ถูกกว่ามากถ้าเทียบกับยุโรปกลางหรือแถบสแกน) แต่คุณก็ยังเลือกกินอยู่ให้ถูกกว่านี้ได้อีกถ้างบจำกัด


ตื่นเช้ามาชมแสงเช้าตั้งแต่ 7 โมง ยังมืดอยู่เลย แผนวันนี้จะเก็บส่วนที่เหลือจากแผนที่วางไว้ว่าอยากไปที่ไหนบ้าง โดยจะเริ่มจากจุดใกล้บ้านสุดคือ Metekhi Church แล้วเรียกรถไป Chronicle of Georgia ก่อนเลย เพราะไกลสุด แล้วนั่งรถกลับมาในเมืองค่อยเที่ยวไปเรื่อยเปื่อยตามต้องการ ไปเดินเที่ยวแถบบนที่เมื่อวานยังไม่ได้ไป อย่าง Clock Tower, Liberty Square ไปถึง Hero Square แล้วก็ย่านชิคๆคูลๆศูนย์รวมวัยรุ่นอย่าง Fabrika

เดินจากที่พักแค่ 100 ม.ก็ถึง Metekhi Church แล้ว

Metekhi Church of the Nativity of the Virgin Mary สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดย กษัตริย์วัคตัง จอร์กาซาล (Vakhtang Gorgasali) ผู้สถาปนาเมืองทบิลิซีเป็นเมืองหลวงของจอร์เจีย แทนเมืองหลวงเก่า มิสเคต้า (Mtskheta) ตั้งอยู่บนหน้าผาริมแม่น้ำคูรา (Kura River) เป็นโบสถ์คริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ ภายในโบสถ์มีภาพฝาผนังแบบปูนเปียก (Fresco)

อนุสาวรีย์ทรงม้าของกษัตริย์ Vakhtang Gorgasali กษัตริย์สำคัญในประวัติศาสตร์ของจอร์เจีย เป็นนักรบและผู้รวมแผ่นดินและขยายอำนาจของอาณาจักรอิแบเรีย และมีบทบาทสำคัญในการทำให้คริสต์ศาสนานิกายออร์โธดอกซ์ถูกเผยแพร่ในภูมิภาคนี้

จากนั้นเราก็เรียกรถ Bolt ไป Chronicle of Georgia ระยะทางประมาณ 12 กม. ค่ารถ 12.5GEL (ประมาณ 150 บาท) จากในเมืองอากาศสดใสดี พอออกไปถึง Chronicle of Georgia อากาศกลับอึมครึมเมฆเยอะ ลมแรง และหนาวมาก

The Chronicle of Georgia ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงริมทะเลสาบ Tbilisi สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 3,000 ปีแห่งการก่อตั้งรัฐจอร์เจียและการเผยแพร่คริสต์ศาสนาครบรอบ 2,000 ปี ออกแบบและสร้างเป็นเสาเหลี่ยมสูง 16 ต้น แกะสลักเป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ ศาสนา และวัฒนธรรมของประเทศจอร์เจีย เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ คศ. 1985 จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เพราะขาดเงินสนับสนุน

เสาหินแกะสลักขนาดใหญ่ จำนวน 16 ต้น ความสูง 35 เมตร ประดับด้วยภาพแกะสลักเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของจอร์เจียตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงยุคกลาง เสาแต่ละต้นจะแบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนล่างสุดเป็นเรื่องราวของพระคัมภีร์ศาสนาคริสต์ ส่วนกลางเป็นเรื่องราวของข้าราชการชนชั้นสูง กษัตริย์ และวีรบุรุษในประเทศ และชั้นบนสุดเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของประเทศจอร์เจีย

เดินทะลุไปด้านหลังจะมีโบสถ์เล็กๆ 1 หลัง พร้อมชมวิวทะเลสาบ ที่วันนี้ท้องฟ้าอึมครึม เมฆเยอะ ลมแรงจนหนาวทนไม่ไหว ชมวิวได้แป้บเดียวต้องเข้ามาหลบลมด้านใน

ทะเลสาบ Tbilisi Reservior อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ใช้ในเมืองทบิลิซี

ขากลับก็เรียก Bolt เหมือนเดิม คิดว่าจะรอนานเพราะอยู่นอกเมือง แต่เรียกแล้วมีรถเลย เพราะมีรถจอดรอรับอยู่หลายคัน เรียกรถไปลงแถว Clock Tower ซึ่งระยะทางใกล้กว่าขามา แค่ 11 กม. แต่ค่ารถแพงกว่า 18GEL (ประมาณ 220 บาท) จากนี้ก็จะเดินเที่ยวไปเรื่อยๆ จาก Clock Tower เดินไป Liberty Square จุดเริ่มต้นการเดินเรื่อยเปื่อยตามถนน Shota Rustaveli Ave. ถนนสายสำคัญของทบิลิซี

Berikaoba Statue

รถจอดส่งตรงริมถนน Nikoloz Baratashvili St. เจอรูปปั้น Berikaoba ก่อนเลย แล้วเดินเข้าถนนเล็กๆ ที่มีรูปปั้นเรียงรายเข้าไป ก็จะเจอ Clock Tower

Clock Tower of Tbilisi เป็นหอนาฬิกาของ Puppet Theater (Gabriadze Theater) อยู่ในย่านเมืองเก่าบริเวณ Teatraluri Square สร้างขึ้นมาตอนปี คศ. 2010 มีรูปทรงแปลกตาเพราะมันทั้งเอียงทั้งดูบิดเบี้ยว สิ่งพิเศษของหอนาฬิกาตามเมืองท่องเที่ยวส่วนมากคือ มีประตูเล็กๆที่เปิดออกมาทุกๆชั่วโมงแล้วมีตุ๊กตาออกมาเป่าปี่ตีกลองหรือเคาะระฆัง ที่ Tbilisi ก็เหมือนกัน นอกจากความแปลกของหอนาฬิกาที่เอียงกะเท่เร่แล้ว คนก็จะมารอดูตุ๊กตานางฟ้าตัวน้อยออกมาเคาะระฆังในทุกๆชั่วโมง ซึ่งเราก็ไปรอประมาณ 20 นาที คาดว่าน่าจะออกมาแบบเสียงระฆังเสียงเพลงอลังการสักหน่อย แต่นางฟ้าน้อยออกมาแบบเงียบเชียบ มาแบบช้าๆ งงๆ แล้วก็หันหลังกลับเข้าประตูไป

คนก็มาเยอะแยะตลอดเวลา ยิ่งตอนใกล้ๆครบชั่วโมงคนยิ่งเยอะ

นางฟ้าออกมาตรงเวลา มาช้าๆ มาเงียบๆ แล้วก็หมุนตัวกลับไป

Clock Tower of Tbilisi อันนี้นอกจากนาฬิกาแบบเข็มที่เดินอยู่ด้านบนแล้ว ยังมีนาฬิกาเล็กๆซ่อนอยู่ด้านในด้วย บางคนบอกว่ามันคือ Smallest clock tower in the world แต่ก็มีหลายคนบอกว่ามันไม่ได้เล็กที่สุดในโลกนะเธอ มีที่อื่นอีก ก็ไม่รู้แหละ ก็ไปต่อคิวเพื่อส่องดู มันเล็กๆจิ๋วแต่ยังเดินตรงเวลา

ระหว่างรอเวลานางฟ้าในหอนาฬิกาออกมา ก็เดินไปชมโบสถ์ Anchiskhati Basilica ได้ เพราะอยู่ใกล้ๆ และถ้าเดินต่อไปอีกหน่อยก็จะไปเจอ Erekle II St. ที่พวกเราเดินเล่นกันเมื่อวานเย็น

Anchiskhati Basilica

กลับออกมาที่ Berikaoba Statue ตอนนี้โดนป่ายปีนเต็มไปหมดล่ะ

ได้เวลาอาหารเที่ยง พวกเราก็เลยเดินย้อนกลับไปที่ Nikoloz Baratashvili St. ข้ามถนนเดินไป Orbeliani Square หาข้าวกลางวันกิน อ่านรีวิวมาว่ามันมีที่กินข้าวคล้ายๆ food court แต่หาไม่เจอ ดันไปเจอร้านอาหารไทย ก็เลยจัดอาหารไทยตั้งแต่วันที่ 2 ของทริปเลย

Orbeliani Square จัตุรัสกลางเมืองทบิลิซี เคยเรียกกันว่า Post Square ในปี ค.ศ. 1828 ต่อมาเปลี่ยนเป็น Soldier’s Market และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น Russian’s Market เป็นไปตามยุคสมัยของประเทศ ต่อมาจัตุรัสได้รับความนิยมว่าเป็น Kolmeurneoba (“ฟาร์มรวม”) เพราะเป็นที่ตั้งของตลาดเกษตรกร ในชั้นล่างของอาคารตลาด ที่ตอนนี้เป็น Carre Four ไปแล้ว ปัจจุบัน จัตุรัสออร์เบลิอานี (Orbeliani Square) เป็นสถานที่พักผ่อนเงียบสงบกลางเมือง มีสวนสวย บ่อน้ำพุ มีแผงขายดอกไม้สีสันสดใส อาคารรอบจัตุรัสเป็นสถาปัตยกรรม คศ.ที่ 19 และ 20 ที่เพิ่งได้รับการปรับปรุงให้สวยงาม

🍽 Mai Thai Restaurant (მაი თაი) : 11 AM–02 AM
📍 https://maps.app.goo.gl/CYT7REt9d6mnNJVN8

อาหารไทยมื้อแรก เจอโดยบังเอิญแท้ๆ ก็สั่งเมนูง่ายๆ อย่างมาม่าผัดขึ้เมา กับข้าวราดไก่ผัดพริกแกง+ไข่ดาว ก็อร่อยดีนะ น้องที่ร้านน่ารัก ดูแลดี แถมชวนว่าเย็นๆมากินหมูกระทะได้นะคะ เสียดาย เวลาไม่พอ เลือกนั่งหน้าร้านเลย อากาศเย็นสบายดี มองดูคนเดินไปเดินมา มื้อนี้หมดไป 71GEL (870 บาท)

อิ่มมื้อเที่ยงแล้วก็เดินไปที่ Liberty Square เป็นจุดตั้งต้นเดินเล่นชมเมืองไปตามถนน Shota Rustaveli Ave. ที่มีอาคารสวยๆ มีประวัติศาสตร์ ให้ชมไปตลอดถนน

เดินเข้าถนน Pushkin St. หันหลังไปก็จะเห็น Holy Trinity Cathedral ตามที่เคยเล่าว่า อยู่ที่ไหนในเมืองก็มองเห็นได้

Pushkin Park

Liberty Square หรือ Freedom Square เคยมีชื่อว่า Tsarist Square ในช่วงที่จอร์เจียเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซีย ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Freedom Square ในปี 1991 เมื่อจอร์เจียได้รับเอกราชจากสหภาพโซเวียต ที่แห่งนี้จึงกลายเป็นสัญญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและความเป็นอิสระของประเทศ จึงมักเป็นจุดนัดหมายในการทำกิจกรรมทางการเมือง หรือการประท้วงต่างๆ

Liberty Square (Freedom Square)

เดินเข้าถนน Shota Rustaveli Av. ที่ 2 ฝั่งถนนมีแต่อาคารประวัติศาสตร์

The Galleria ห้างหรูของทบิลิซีมีรถไฟ สถานี Liberty Square อยู่ข้างใต้เลย ใครนั่งรถไฟใต้ดินก็มาขึ้นตรงนี้ได้เลย

Parliament of Georgia วันนี้มีประท้วงนะ

Shalva Amiranashvili Museum of Fine Arts

National Youth Palace (Viceroy Palace)

National Gellery

ด้านล่างเป็นร้านขายของแบรนด์ต่างๆ ด้านบนเป็นอพาตเมนต์ให้เช่า น่าอยู่ดีเหมือนกัน

“I am Georgian and therefore I am European,” attributed to the late Georgian Prime Minister Zurab Zhvania in 1999

Opera and Ballet Theater of Tbilisi

The Biltmore Hotel

แผนที่วางไว้คือ เดินมาถึงร้านกาแฟร้านดัง Kvarts Coffee จะมาแวะจิบกาแฟร้านดัง ที่ไม่ได้ดังที่กาแฟ แต่ดังที่บริการพิเศษ วาดรูปคนดื่มให้บนแก้ว จะว่าบริการก็ไม่ได้เพราะคิดราคาเพิ่มจากราคากาแฟปกติ แต่…ไม่ได้ตามแผน เพราะคิวยาว ต้องสั่งไว้แล้วเขาจะประเมินเวลาของเรา (ให้คิวเป็นเวลา) แล้วค่อยกลับมาให้วาดรูป ซึ่งคิวของเราคืออีก 2 ชม.! ก็เลยเอาคิวไว้แล้วเดินเล่นต่อไป

Rustaveli-Mtatsminda Cable Car (Lower Station) อยู่ด้านหลังของ The Cinema House สถานีนี้เคยเปิดใช้เมื่อ 60 ปีก่อนแต่ปิดบริการไปนานร่วมสิบปี เพิ่งกลับมาเปิดใหม่ไม่นานมานี้ กระเช้านั่งขึ้นไปบน Mount Mtatsminda ที่มี Amusement Park และเป็นจุดชมวิวเมือง ซึ่งเมื่อก่อนการขึ้นไปด้านบนนอกจากทางรถ ก็ต้องไปขึ้น Funicular ที่ Station อีกทีหนึ่ง

ซื้อตั๋วจากด้านนอกแล้วเข้ามาเดินวนๆๆขึ้นไปด้านบนเพื่อนั่งกระเช้า [ค่าขึ้นกระเช้าเที่ยวละ 12GEL เปิด/ปิด 12:00-21:00]

2 อาคารสวยที่ Rustaveli Square [Khinkali House (Left) / Georgian National Academy of Sciences (Right)]

Shota Rustaveli Monument & Fountain

ตามแผนเดิม เดินมาถึง Rustaveli Metro Station ก็จะนั่งรถไฟไป Fabrika แต่ผิดแผน เพราะอยากได้แก้วกาแฟวาดรูปร้าน Kvarts ก็เลยไม่ได้ลงรถไฟ ต้องเดินย้อนกลับไปรับคิว

เดินข้ามแยก Rustaveli ไปต่อ ตั้งเป้าเดินไปที่ร้านหนังสือ Stamba Bookstore เพื่อหาซื้อ Georgia Photo Book เดินไปถึง Stamba Hotel เข้าไปดูแล้วงงมาก มันเป็นโรงแรม ถึงมีชั้นหนังสือใหญ่ยักษ์ แต่เหมือนมีไว้ตกแต่งไม่เหมือนร้านหนังสือ เหมือนที่ฮิปๆของวัยรุ่นบ้านเรา มาเดินถ่ายรูปกัน

☕️ Kvarts Coffee (9:00AM-10:00PM)
📍https://maps.app.goo.gl/q25ukWzsynsqYMQy8

Kvarts Coffee “Coffee with Art” ร้านกาแฟสุดฮิตของนักท่องเที่ยว กาแฟเฉยๆแก้วละ 7-9GEL ถ้าให้วาดรูปด้วยราคา 15GEL ต้องมายืนเป็นแบบให้น้องคนสวยวาด มาตามคิว วาดเสร็จแล้วน้องก็จะถามชื่อ แล้วจะเขียนชื่อเราในภาษาจอร์เจียนให้ด้วย

แก้วกาแฟที่วางอยู่ คือคิวรอวาดรูป

ข้ามเวลาไปถึงตอนกลับมาที่ร้านตามเวลาคิว แต่ก็ต้องรออีกประมาณ 15-20 นาที (ความจริงเอากาแฟมากินก่อนเลยก็ได้ แล้วค่อยเดินกลับมาวาดรูป เพราะยังไงแก้วที่กินกับแก้วที่วาดมันคนละใบกัน แล้วทำไมเราไม่กินก็ไม่รู้ งง ดันรออีก 2 ชม.ตอนเดินกลับมาวาดรูปค่อยเอากาแฟกิน เหอๆ)

น้องคนวาดหน้าตาสวยน่ารักดี วาดออกมาไม่ได้เหมือนเท่าไหร่นะเราว่า แต่ก็เอาน่ะ เป็นที่ระลึก ใครไม่อินไม่ต้องแวะ เสียเวลา กาแฟก็เฉยๆ

ตามแผนคือจะแวะซื้อกาแฟ แล้วเดินต่อไปเรื่อยๆ เจอสถานีรถไฟ Rustaveli Station ก็จะลองใช้บริการนั่งไปลงสถานี Marjanishvilli Station เพื่อเดินเล่นย่าน Fabrika ถ้าบรรยากาศถูกใจก็จะนั่งจิบอะไรเพลินๆท่ามกลางเหล่าวันรุ่นเสียหน่อย เพราะว่าผิดแผนที่วางไว้ ก็เลยขี้เกียจเดินกลับไปสถานีรถไฟอีกรอบ ก็เลยเรียกรถ Bolt ไป Fabrika เลย มาถึงเย็นไปหน่อย แสงเลยไม่สดใส

Fabrika ภาษาจอร์เจียแปลว่า โรงงาน อาคารเก่านี้เคยเป็นโรงงานเย็บผ้าในยุคสหภาพโซเวียต ช่วงปี ค.ศ. 1970 – 1980 นำมาปรับปรุงเปิดใหม่เป็นทั้ง โฮสเท็ล คาเฟ่ บาร์ สตูดิโองานศิลปะ ร้านขายแผ่นเสียง ร้านตัดผม สถาบันการศึกษา และยังเป็น Co-Working Space ด้วย ด้านหลังอาคารมีลานโล่งสำหรับจัดงานอีเวนต์ต่างๆได้

ย่านนี้มีกราฟฟิตี้เต็มไปหมดจริงๆ แต่มันไม่ได้สวย มันเลอะๆเละๆซะเป็นส่วนมาก

เดินถ่ายรูปเล่นสักพัก ก็ไปเจอย่าน Hang out ของวัยรุ่นจนได้ (เดินทะลุตัวอาคารไปด้านหลังก็ได้ หรือเดินด้านนอกสุดตึกไปเข้าประตูเหล็กอ้อมไปก็ได้)

เดินชมบรรยากาศแล้วไม่ถูกใจเท่าไหร่ เลยเดินออกไปด้านนอกมองหาร้านอื่นๆ ไม่เจอร้านอะไรน่าสนใจ แต่ตึกแถวนี้ก็สวยดี

เปลี่ยนใจอีกรอบ กลับไปหาร้านกินแถวใกล้บ้านดีกว่า เรียกรถกลับไปส่งที่ Vakhtang Gorgasali Square

Vakhtang Gorgasali Square ยามเย็น

☕️ Casa jose (9:30AM-02:00AM)
📍https://maps.app.goo.gl/axwb2xjiqv42fvbbA

มื้อนี้เลือกร้าน Georgian – Spanish ร้านตรงหัวมุมเลย สั่งไก่ย่างกับผักย่าง ข้าวผัดสเปน-ปาเอญ่า สั่งเบียร์ นั่งดูถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีอังกฤษไปด้วย ใช้ชีวิตเหมือนอยู่เมืองไทยเลย อาหารก็ดีใช้ได้ มื้อนี้ 95GEL ประมาณพันกว่าบาท

ระหว่างรออาหารก็ลงไปเดินเล่นดูของฝากที่ Meidan Bazaar อยู่ด้านล่างของร้านลงไปใต้ดิน แต่ไม่ได้ซื้อเพราะราคาค่อนข้างแพง แต่มีของหลากหลายครบครัน ใครหาซื้อของฝากไม่เกี่ยงราคาก็มาแวะดูได้

อิ่มแล้วเดินข้าม Metekhi Bridge กลับโรงแรมเหมือนเดิม คืนนี้อยู่ทบิลิซีคืนสุดท้าย พรุ่งนี้เช้าบริษัทรถเช่าจะเอารถมาส่ง แล้วพวกเราก็จะเปิด Road trip ยาวๆอีก 10 วัน


เช่ารถจาก Localrent ให้มาส่งที่โรงแรมตอนเช้า ต้องจ่ายเงินสด แล้วมายืนกรอกรายละเอียดประกันอยู่ริมถนน ตรวจสภาพกันริมถนน แต่ไม่ดูใบขับขี่ ไม่ต้องมีเงินประกันหรือมัดจำใดๆทั้งสิ้น เสร็จเรียบร้อยพี่แกก็ยกมือ Bye ไปเลย พวกเราก็ขนกระเป๋าขึ้นรถ ออกเดินทางกันเลย ง่ายดายจนแอบเสียวว่าถ้ารถมีปัญหามันจะมีการช่วยเหลือรวดเร็วเท่าตอนส่งรถมั๊ยนะ

จุดแรกที่จะจอด คิดไว้เลยคือปั๊มน้ำมัน เพราะอ่านรีวิวมาหลายคนบอกว่า เช่ารถที่จอร์เจียนี่แปลก รถมาน้ำมันไม่เต็มถังมีแค่ไหนตอนคืนก็คืนเท่านั้น ก็เลยวางแผนจะไปเติมน้ำมันก่อนโดยกำหนดปั๊มไว้เลย ด้วยเหตุที่มันอยู่ตรงข้ามกับ Bank of Georgia ที่เราอยากมาเห็นอยากมาถ่ายรูป แต่ผิดแผนอีกล่ะ รถเช่ามาน้ำมันเต็มถังเลย แล้วปั๊มที่จอร์เจียเนี่ยมันจะไม่ใหญ่โต แบบมีร้านสะดวกซื้อ มีร้านกาแฟ มีห้องน้ำ เหมือนในเมืองไทย มันจะเล็กๆแบบเลี้ยวเข้าไปก็ต้องจอดตรงที่เติมน้ำมันเลย ก็เลยไม่แวะ อาศัยถ่ายรูปจากในรถเอา ก็พอได้อยู่นะ

Bank of Georgia | Tbilisi’s Iconic Soviet Architecture

Bank of Georgia เป็นหนึ่งในอาคารยุคสหภาพโซเวียต | Tbilisi’s Iconic Soviet Architecture เป็นสถาปัตยกรรมแบบ Brutalist หรือ Soviet Modernism ที่เน้นรูปทรงเรขาคณิต และก่อสร้างด้วยคอนกรีตเปลือย แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรง มั่นคง ในทบิลิซีมีอาคารยุคสหภาพโซเวียตที่สวยแปลกตาหลงเหลืออีกหลายอาคาร ต้องมีเวลาอีกสักครึ่งวันไปตระเวนดู เพราะแต่ละที่อยู่ห่างกันมาก (หลายอาคารทรุดโทรมหรือโดนรื้อถอนไปบ้างแล้ว)

เที่ยวทบิลิซี 2 วันเต็มๆ ก็ได้เยอะอยู่นะ ดูจากแผนที่แนะนำย่านที่น่าท่องเที่ยว ก็ไปได้ 80% นะ ถ้ามีเวลาอีกสักวัน ก็อาจได้ทัวร์สถาปัตยกรรมยุคโซเวียตที่อยากดูอีกหลายที่ หรือเดินเล่นตามตรอกซอกซอยชิลๆเพิ่มอีกหน่อย ทบิลิซีมีอะไรให้ดูเยอะมาก เที่ยว 2 วันไม่ทั่วเลยจริงๆ พวกเรากลับมานอนที่ทบิลิซีอีก 1 คืนก่อนบินกลับไทย แต่ไม่ได้มีเวลาเที่ยวอะไรมาก ไว้เล่าตอนสุดท้าย วันที่ 12

แผนที่จากเวป https://georgiantravelguide.com/en/old-tbilisi เข้าไปดูได้มีรายละเอียดหมด


TBILISI

🛏 Boutique Hotel Double room with Balcony W/BF (186GEL/Night) Cash/Card
📍 https://maps.app.goo.gl/StCEWUFsBLfNSuXu9

ที่พักอยู่ริมหน้าผาติดแม่น้ำคูรา เลือกโรงแรมนี้จากทำเลที่อยู่ตรงข้ามกับเมืองเก่า ใกล้จุดขึ้นกระเช้า และแค่เดินข้ามสะพานก็ถึงย่านเมืองเก่าแล้ว ตั้งใจมาถ่ายรูปภูเขากับ Mother of Georgia ยามเช้าหรือยามเย็น แต่พอมาเห็นจริงมันจะเอียงมาหน่อยทำให้ถ่ายรูป Mother of Georgia ไม่ได้อย่างที่คาด

มุมจากระเบียงเฉียงออกมาไกลหน่อย มองเห็น Mother of Georgia ลิบๆ

ได้วิวภูเขา และ Tabor Monastery of the Transfiguration แทน

ตัวอาคารเป็นอาคารเก่า ไม่มีลิฟต์ ต้องเอากระเป๋าใหญ่ขึ้นลงบันได โชคดีเราได้ชั้นล่างจากโถงต้อนรับไปชั้นเดียว ระเบียงเป็นระเบียงรวมไม่ใช่ระเบียงส่วนตัว แต่ชั้นเรามีห้องเดียว ขนาดห้องกว้างพอสมควร ที่นอนใช้ได้ไม่แข็งไม่นิ่ม ห้องน้ำกว้าง เก่าแต่สะอาด เสียที่ไม่มีผ้าเช็ดเท้า ไม่มีไดร์เป่าผมแต่ไปขอยืมได้ มีเครื่องอาบน้ำให้พอสมควร มีแอร์และฮีทเตอร์ มีทีวี มีตู้เย็น(ที่ไม่มีอะไรเลย) wifi ใช้ได้ดี ปลั๊กไฟเป็นยุคโซเวียต ต้องใช้หัวแปลง

ข้อเสียคือ อยากเปิดหน้าต่างนอน เพราะอากาศกำลังดี แต่เปิดแล้วนอนไม่ได้ ด้วยเสียงรถวิ่งดังมาก ถึงถนนจะอยู่ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำ แต่ช่วงเช้ามืดรถใหญ่วิ่งเยอะเสียงดังมาก ต้องปิดหน้าต่างนอน ปิดแล้วเงียบสนิทเลย หน้าต่างประตูดีมาก

อาหารเช้าเริ่ม 9:00 (แปลกใจมาก เราตื่นมากิน 9 โมงเช้า ไม่เจอห้องอื่นเลย เขากินกันกี่โมงนะ แล้วสุดท้ายก็พบว่าทุกที่อาหารเช้าเริ่ม 9:00) อาหารกินได้ ให้มากพออิ่ม แต่เหมือนเดิม 3 เช้าเลย

ห้องอื่นอยู่ชั้นบน ต้องเดินลงมากินอาหารเช้าตรงนี้ เขาจัดโต๊ะให้นั่ง แต่ห้องเราอยู่ชั้นนี้ จัดให้นั่งโซฟาหน้าห้องเลย VIP ไปอีก

อาหารหน้าตาแบบนี้ทั้ง 3 วัน

สรุปว่า ดี ใช้ได้ ให้ 8/10

One response to “Gorgeous GEORGIA #1”

Leave a comment