Munich, Germany
July 1998
แวะเข้ามาทำความรู้จักประเทศเยอรมันแบบผิวเผิน 1 วัน 1 คืน ต่อเนื่องจาก ทริปเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ ของพวกเราที่ขับรถเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ขึ้นมาทางตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งมีพรมแดนติดต่อกับประเทศเยอรมัน การขับรถข้ามพรมแดนในยุโรปสะดวกสบายมากๆ ไม่ยุ่งยากวุ่นวาย แค่มีเอกสารเช่ารถ มีพาสปอร์ตที่มีวิซ่าของทุกคน ก็ข้ามได้ง่ายๆและรวดเร็ว มีด่านให้ข้ามหลายด่านแล้วแต่ใครจะขับรถเที่ยวเส้นทางไหน หลังจากแวะนอนที่เมือง Rorschach, Switzerland 1 คืน พวกเราก็ขับรถข้ามเข้าไปที่ประเทศเยอรมัน บรรยากาศสดใสสวยงามไม่น้อยหน้าสวิสเซอร์แลนด์เลย


แวะเก็บสตอเบอรี่ที่ไร่ข้างทางสักหน่อย ก่อนจะไปปราสาทในเทพนิยาย

วิวระหว่างทางอย่างสวย
Neuschwanstein Castle / Hohenschwangau Castle
Schloss Neuschwanstein / Schloss Hohenschwangau
หลังจากข้ามพรมแดนเข้าประเทศเยอรมันมา ก่อนจะไปมิวนิคพวกเราขับรถออกนอกเส้นทางไปเล็กน้อย ผ่านเมือง Füssen ไปที่หมู่บ้าน Schwangau เพื่อตอบสนองความฝันในวัยเด็กของพวกเรา เด็กๆส่วนมากน่าจะเคยได้ดูการ์ตูนหรือดูหนังของ Waltz Disney มาบ้าง โลโก้ของวอลต์ดิสนีย์เป็นรูปปราสาทในเทพนิยาย ปราสาทนี้มีต้นแบบมาจากปราสาทนอยชวานสไตน์นี่เอง

ปราสาทนอยชวานสไตน์สร้างโดยพระเจ้าลุดวิคที่ 2 | King Ludwig II เกิดจากที่พระองค์ต้องการสร้างปราสาทที่สวยงามดังอยู่ในฝัน จึงโปรดให้สร้างอยู่บนยอดเขาในเทือกเขาแอลป์ ของแคว้นบาวาเรีย อิงจากบทละครของริชาร์ด วากเนอร์ | Richard Wagner คีตกวีชื่อดังที่พระองค์ชื่นชอบผลงานอย่างมาก มีผู้ออกแบบฉากละครมาออกแบบปราสาทให้เหมือนฉากในละครด้วย พระเจ้าลุดวิคที่ 2 เป็นกษัตริย์ที่สนใจแต่เรื่องศิลปะ ดนตรี วรรณกรรม ไม่สนใจบริหารบ้านเมืองมากนัก การสร้างปราสาทนอยชวานสไตล์ใช้งบประมาณไปมากมาย และยังมีโครงการจะสร้างปราสาทอื่นๆต่ออีก สุดท้ายก็เลยโดนเหล่าเสนาบดียึดอำนาจ โดยให้เหตุผลว่าไร้ความสามารถในการบริหารบ้านเมือง จับพระองค์ไปขังไว้ พอ 2 วันต่อมาก็พบว่าสวรรคตอยู่ในทะเลสาบ เศร้าไปหน่อยนะ


จอดรถที่ลานจอดแล้ว ก็ต้องขึ้นไปบนเขาที่ตั้งของปราสาทนะ ถ้าเดินขึ้นคงตาย พวกเราเลือกนั่งรถ Shuttle bus เสียค่ารถเท่าไหร่จำไม่ได้ อีกทางเลือกคือนั่งรถม้าขึ้น ดูดีมีความคลาสสิค แต่แพงและคิวยาวยืด ขึ้นไปถึงด้านบนแล้วพวกเราต้องต่อแถวท่ามกลางอากาศหนาวยะเยือกแม้จะเป็นฤดูร้อน ซึ่งแถวก็ยาวเหยียด ปราสาทยอดนิยมก็เป็นแบบนี้

จุดถ่ายรูปตัวปราสาทได้สวยที่สุดต้องไปตรงสะพาน Marienbrücke เดินไปตามป้ายบอกทางเลย
รอคิวเข้าได้ก็เดินเที่ยวปราสาทได้ตามสะดวก คือปราสาทใหญ่มาก มีทางเดินไต่บันไดแคบๆขึ้นไปตามชั้นต่างๆ แต่ถ่ายรูปไม่ได้ มุมยอดนิยมคือมุมมองที่เห็น ทะเลสาบโฮเฮนชวานเกา [Alpsee Hohenschwangau | Lake Hohenschwangau] กับเทือกเขาสลับซับซ้อน มันสวยมาก จินตนาการว่าช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง ส้ม แดง ยิ่งสวยมากขึ้นไปอีก หรือถ้าเป็นฤดูหนาวที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะก็น่าจะสวยไปอีกแบบเหมือนกัน แต่พวกเรามาหน้าร้อน แถมวันนี้อากาศมัวซัวสุดๆ ก็ยังรู้สึกว่าบรรยากาศมันสวยจริงๆ


จากปราสาทนอยชวานสไตน์เดินต่อไปที่ ปราสาทโฮเฮนชวานเกา Hohenschwangau ที่มองเห็นไกลๆได้ แต่เพราะเราดันมัวแต่ถ่ายรูปทำให้หลงกับเพื่อนๆ เดินวนไปวนมา กลับออกมาที่ถนนเฉยเลย ส่วนเพื่อนๆเดินไปดูปราสาทโฮเฮนชวานเกากันต่อ ไอ้เราก็เลยไปนั่งรอหนาวๆอยู่แถวรถ อดดูปราสาท


ปราสาทที่ไม่ได้ไปดูกับเพื่อนใจร้ายทั้ง 5 เบลอหน้าแก้แค้น
กว่าเพื่อนจะกลับออกมาก็ปล่อยเรานั่งหนาวจนจะแข็งตาย จากนั้นก็ขับรถต่ออีก 100 กม.ตรงเข้าสู่มิวนิค คืนนี้นอนในเมืองมิวนิค
MUNICH || MÜNCHEN
มิวนิค เป็นเมืองหลวงของแคว้นบาวาเรีย อยู่ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมัน มิวนิคไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศ แต่เป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันมาก เลยทำให้บางคนเข้าใจผิด
มีเวลาเที่ยวมิวนิคไม่เต็ม 1 วันดี เพราะต้องขับรถข้ามประเทศกลับไปซูริค เพื่อนขึ้นเครื่องกลับเมืองไทยคืนนี้ ก็เลยเดินเที่ยวกันเรื่อยเปื่อย เก็บตกจุดน่าสนใจเท่าที่ทำได้


จาก Maxmonument อนุสาวรีย์ King Maxmillian II เดินข้ามสะพาน Maximilian Bridge | Maximiliansbrücke ไปถ่ายรูป The Parliament | Maximilianeum รัฐสภาของเมืองมิวนิค และเป็นที่ตั้งของมูลนิธิแมกซ์ซิมิเลียนที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1852 โดย King Maximilian II of Bavaria เพื่อให้ทุนการศึกษากับนักเรียนนักศึกษาในมิวนิค แล้วเดินเลาะเลียบแม่น้ำอีซาร์ Isar river กับสวน Maximiliansanlagen ไปที่อนุสาวรีย์ Angel of Peace ที่มีนางฟ้าสีทองบนยอดเสาสูง 38 เมตร อนุสรณ์แห่งสันติภาพในโอกาสครบรอบ 25 ปี แห่งการยุติสงครามฟรังโก-เยอรมัน


The Angel of Peace || Friedensengel


The Feldherrnhalle | Field Marshals’ Hall กับ The Theatinerkirche

Bayerische Staatsoper | The Bavarian State Opera
Max-Josph Platz ลานกว้างหน้า State Opera House กำลังจัดนิทรรศการอะไรก็ไม่รู้ เดินต่อไปอีกไม่ไกลก็ถึงจุดรวมพลนักท่องเที่ยวที่ จัตุรัสมาเรียนพลาสซ์ (Marienplatz) เป็นย่านเมืองเก่าที่มีอาคารสไตล์บาวาเรียนอยู่ล้อมรอบ มีทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวเต็มลานทั้งวันทั้งคืน


The Old Town Hall | Altes Rathaus


The Rathaus-Glockenspiel | Clock Tower @New Town Hall
อีกจุดที่นักท่องเที่ยวตั้งใจมาดูกันคือ The Rathaus-Glockenspiel | Clock Tower หอระฆังที่ศาลากลางหลังใหม่ เวลา 11 โมงเช้าในฤดูหนาว และ 17.00 น. ในฤดูร้อน จะมีตุ๊กตาออกมาเต้นระบำ พร้อมเสียงระฆัง 43 ใบส่งเสียงดังไปทั้งลาน
When is the glockenspiel at Marienplatz?
Source: https://www.muenchen.travel/artikel/stadt-viertel/glockenspiel-neues-rathaus
Daily at 11 a.m. and 12 p.m., as well as at 5 p.m. from March to October.
Every day at 9 p.m. the night watchman blows his horn while the angel blesses the Munich Kindl .
เดินต่อมาจะเจอตลาด Viktualienmarkt อยู่ใกล้ๆกับมาเรียนพลาสซ์ เป็นตลาดที่ขายทั้งผัก ผลไม้ ดอกไม้ และของกินหลากหลาย เดินเที่ยวได้เพลินๆ




The Sendlinger gate
มีเวลาอยู่ในมิวนิคแค่ 1 วัน ได้แค่เดินเที่ยวในเมืองนิดหน่อย แต่ก็ปาไป 6 กม.เหมือนกัน เดินกันเมื่อยเลย แต่ยังมีจุดน่าสนใจที่ไม่มีเวลาไปอีกเยอะแยะ ครั้งนี้ถือว่ามาทำความรู้จักกันแบบผิวเผินไปก่อน แม้จะมาเยอรมันเป็นครั้งที่ 2 แล้ว แต่ก็เหมือนยังเที่ยวได้น้อยมาก เยอรมันมีเมืองน่าไปอีกเยอะเลย

จบทริปด้วยการนั่งจิบเบียร์ที่ราคาถูกกว่าน้ำ แกล้มไส้กรอกเยอรมัน
Leave a Reply