Trip : England–Scotland [November 2017] Part 7 – Liverpool Day!

13 days England-Scotland Part-1 | Part-2 | Part-3 | Part-4 | Part-5 | Part-6 | Part-7 | Part-8 | Part-9 |  Part-10 | Part-11 | end

ทริปอังกฤษ 13 วันมาถึงวันที่ 7 แล้ว เป้าหมายหลักของทริป 13 วันอยู่ที่วันนี้แหละ ฝันไว้ว่าสักวันจะมาดูลิเวอร์พูลที่สนามแอนฟิลด์ ก็จะเป็นจริงในวันนี้ ขั้นตอนวิธีหาตั๋วฟุตบอลอังกฤษได้เคยเขียนไว้แล้วใน > [TIPS] ไปดูบอลที่อังกฤษ English Premier League

โรงแรมที่พักอยู่ห่างกลางเมืองชนิดเดินไม่ไหวต้องนั่งรถเมล์เข้าไป แต่ป้ายรถเมล์ไม่ไกล ปัญหาเดียวคือฝนตก แต่เที่ยวอังกฤษอย่ากลัวฝน ใครสักคนบอกไว้ เดี๋ยวๆมันตกแต่เดี๋ยวๆมันก็หยุด นั่งรถเมล์แป๊บเดียวเข้ามาถึงกลางเมือง วางแผนไว้ว่าจะเดินเที่ยวในเมืองครึ่งวัน กินข้าวเที่ยง กินกาแฟ แล้วนั่งรถเมล์ไปแอนด์ฟิลตอนบ่ายแก่ๆ จะได้มีเวลาเดินชมสนาม ซึมซับบรรยากาศวันแข่ง ก่อนเข้าดูการแข่งตอนเวลา 18:30

 

ลงรถเมล์แถว Liverpool One ห้างใหญ่ใจกลางเมือง แต่ยังเช้าอยู่เลยยังเงียบๆ นอกจากเราจะเป็นแฟน Moderndog แล้ว เรายังเป็นแฟนเพลง The Beatles ด้วยนะ เมือง Liverpool ถือว่าเป็นต้นกำเนิดของ The Beatles เพราะ John Lennon และ Paul McCartney เกิดที่ลิเวอร์พูล ร่วมก่อตั้งวงที่ลิเวอร์พูล เรียกว่าเป็นจิ๊กโก๋ลิเวอร์พูลก็ว่าได้ ที่นี่จึงมีอดีตมากมายให้แฟน The Beatles ได้มาดู เป้าหมายแรกต้องขอเดินไปโฉบๆดูละแวก Cavern Club หน่อย เป็นคลับที่ The Beatles ได้เคยมาเล่นสมัยแรกๆ คงไม่มีโอกาสมาดูตอนกลางคืน มาดูตอนเช้าก็เอาดี เดินตามแผนที่ไปก่อนจะถึงก็ผ่านโรงแรม Hard Day’s Night ชื่อก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่า Beatles (เป็นชื่อเพลง สำหรับคนไม่รู้) ล้อมรอบโรงแรมจึงที่แต่รูป John Paul George Ringo สมาชิกทั้ง 4 ของ The Beatles เดินถ่ายรูปเพลินไป

       

       

จาก Cavern Club เดินต่อไปตามถนนเจมส์ James St.จนถึง Derby Square แวะดูและถ่ายรูป Queen Victoria Monument เดินผ่านไปอีก มุ่งหน้าแม่น้ำ Mersey ที่เป็นแม่น้ำออกสู่ทะเลได้ Liverpool เป็นเมืองท่ามาแต่โบราณ มีท่าเรือใช้ค้าขายขนถ่ายสินค้า แหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวมักจะต้องไปเดินคือแถบท่าเรือ จาก Derby Square เดินตรงไปจะผ่านอาคารสวยๆหลายหลัง จนถึงถนนแสตรน Strand St. ขวามือจะเจอ The Port of Liverpool Building ตึกใหญ่สวยมาก ด้านในมีทั้งสถานกงสุล ทั้งสำนักงานมากมาย เป็นตึกสวยคลาสสิคอีกแห่งในเมืองลิเวอร์พูล ข้ามถนนต่อไปริมฝั่งแม่น้ำ ลมแรงถึงแรงมาก ทั้งแรงลมและความหนาวเดินกันปากสั่นจมูกแดงเลย ต้องเข้าไปหลบใน Museum of Liverpool สักพักให้พออุ่น หากใครอยากมาถ่ายรูปกับรูปปั้น 4 หนุ่ม The Beatles ให้หันหน้าให้ River Mersey แล้วไปทางขวาอีกหน่อย เราพลาดจุดนี้ไปตอนแรกต้องเดินกลับมาอีกรอบ เพราะลืมหาพิกัดมา (The Beatles Statute รูปปั้น 4 เต่าทองเดินเท่ห์ๆริมถนน มีนักท่องเที่ยวมาต่อคิวถ่ายรูปกันสนุกสนาน เอาอุปกรณ์ประกอบมาแต่งตัวกันเยอะแยะ มีแกงค์หนุ่มใหญ่ 7-8 คน รวมตัวกันใส่แว่นกลมแบบจอห์น เลนน่อน น่ารักมากๆ แฟนบอล Liverpool ที่มาเชียร์บอลวันนี้ก็เอาผ้าพันคอมาผูกคอรูปปั้น น่ารักดี) ออกจาก Museum แล้วเดินเลาะแม่น้ำจาก The Pier Head ไป Albert Dock เพื่อจะไปเที่ยว The Beatles Story

 

       

       

       

 

The Beatles Story เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าความเป็นมาของ The Beatles ด้านในบอกเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆพร้อมจำลองบรรยากาศของสถานที่สำคัญๆไว้มากมาย เดินตามทางที่กำหนดไว้พร้อมฟัง Headphone เล่าเรื่องราวตั้งแต่กำเนิดวงไปจนถึงวันแยกวง และวันสุดท้ายของชีวิต จอห์น เลนนอน และ จอร์จ แฮริสัน สำหรับแฟนๆ The Beatles คุณต้องไปเดินดูเดินชมเอง ประวัติคงไม่ต้องเล่าเพราะคงรู้กันดีอยู่แล้ว เดินครบจบออกมาก็ต้องเสียทรัพย์ให้ร้านขายของที่ระลึกกันเล็กน้อย อยากได้ไปทุกอย่าง

       

       

 

ใกล้เที่ยงแล้ว เดินกลับไปแถว Liverpool One เพื่อหาอาหารเที่ยง จากห้างร้างๆเงียบๆเมื่อเช้า ตอนนี้คนเดินกันคึกคักเหมือนพารากอน มากกว่าครึ่งใส่เสื้อฟุตบอล สุดสัปดาห์ที่มีฟุตบอลแข่งมักจะคึกคักแบบนี้ บรรยากาศดีมาก พร้อมกับร้านอาหารคิวยาวมากๆ อย่าได้เลือกมาก หาร้านที่คิวสั้นที่สุดเข้าไปเลย วันนี้จึงได้กินซูชิเวียน 5555

อิ่มจากซูชิ ก็เดินย่อยอาหารหน่อย เข้าไปดู Liverpool Shop หน่อย ใครไม่ได้ไปสนามแอนฟิลด์แต่อยากได้ของที่ระลึกของทีมหรือพวกเสื้อบอลก็ซื้อที่นี่ได้ Official Shop เหมือนกัน เข้าไปแล้วตาลาย ของก็เยอะคนก็เยอะ เลยยังไม่ซื้ออะไร เพราะพรุ่งนี้มีเวลาอีกวัน บ่ายกว่าแล้ว ไปหารถเมล์นั่งไปแอนฟิลด์ดีกว่า ป้ายรถเมล์ก็อยู่ไม่ไกล เดินไปรอรถ ทุกคนพันผ้าพันคอหรือใส่หมวกทีม รู้เลยว่าไปทางเดียวกัน เสื้อไม่ค่อยเห็นเพราะหนาวทุกคนใส่เสื้อหนาวกันเต็มที่ ยืนรอรถก็พูดคุยสนุกสนาน เป็นบรรยากาศที่ดีมากๆ ยิ่งรู้ว่าเรามาจากเอเชียก็มาถามไถ่กันใหญ่ มายังไง ที่บ้านยูเป็นยังไง บางคนก็บอกว่าเคยไปเที่ยวไทย บลาๆๆๆ รถเมล์มาก็เฮโลกันขึ้น คุยกันแซวกันไปตลอดทาง เพราะทั้งคันรถใส่เสื้อบอล จนถึงสนามก็เฮละโลกันลง

       

ต่อจากนั้นก็คือการเดินซึมซับบรยากาศก่อนเกมส์ เสียดายว่าหนาวไปหน่อย อากาศเลยอึมครึม แต่บรรยากาศก็เหมือนกับที่เคยเห็นตามการถ่ายทอดสด แฟนบอลมากันเป็นกลุ่มๆ เดินกันมาก็มี มารถเมล์ก็มี มารถไฟก็มี เดินอ้อมไปด้านหลังเพื่อจะเข้าสนาม มีลานอาหาร เข้าไปซื้อคูปองกินดื่มได้ มีรปภ.ดูแลตรวจอาวุธ เข้าไปหาอะไรจิบอุ่นๆหรือจะจิบเบียร์แกล้มไส้กรอกก็ได้ มีดนตรีพร้อมจอยักษ์ บรรยากาศคึกคัก มีลานกิจกรรมให้เด็กๆเล่น พ่อแม่ก็ซดเบียร์ไป ลูกก็ไปเตะบอลเล่นได้ นับว่าดี ใกล้เวลาก็เข้าสนามกัน บรรยากาศในสนามน่าขนลุก เพลงเชียร์กระหึ่ม แม้ผลการแข่งขันจะออกมาที่เสมอกัน 1:1 แต่ประทับใจมากๆ สมความตั้งใจ

ขากลับเดินกันออกมาเหมือนคอนเสิร์ทเลิก รถไม่พอขึ้น แถมติดเป็นแถวยาว เดินกันซิรออะไร เดินกันไปเรื่อยๆ ร้องเพลงกันไปบ้าง คุยกันไปบ้าง เดินกันไปจนต่างคนต่างแยกย้านกันไปตามที่จอดรถบ้าง ขึ้นรถเมล์บ้าง เราเดินไป 2-3 ถนนถึงพอเจอรถเมล์ว่างและถนนเริ่มว่างจึงขึ้นกลับเข้าเมือง หาอะไรทานแล้วนั่งรถเมล์กลับโรงแรมนอน

       

 

       

Day 7 Walking tips (1/2 day)

Liverpool One – Hard Days Night Hotel – Mathew Street (Cavern Club) – James St. – Derby Square – Museum of Liverpool – Pier Head – Albert Dock – The Beatles story

♥♥♥♥♥♥♥♥

 

วันที่ 8 ของทริปกับฟ้าฝนที่ยังลงมาเรื่อยๆ เช้านี้ขอเก็บตก The Beatles Location ในลิเวอร์พูลอีกนิดหน่อย ออกจากโรงแรมขับรถไป Penny Lane หาที่จอดรถแล้วลงมายืนเก๊กท่าถ่ายรูปกับป้ายสักหน่อย ย่านนี้เป็นย่านที่จอห์น เลนนอน และพอล แมคคาร์ทนีย์ เติบโตมา จอห์นก็เอาชื่อถนนมาเป็นชื่อเพลงด้วย จากนั้นขับต่อไปอีกหลายเลี้ยว ผ่านออกนอกเมืองไปอีกหน่อย เข้าซอยไปจอดรถถ่ายรูปกับรั้วแดงอมตะของสถานที่ที่ชื่อว่า Strawberry Field ที่มาของเพลง Strawberry Field Forever

ถ้าเป็นแฟนพันธ์แท้ The Beatles แล้วอยากไปอีกหลายๆที่แห่งความทรงจำก็ไปได้ มีคนทำแผนที่ไว้ให้มากมาย อย่างโรงเรียนประถมของจอห์น โบสถ์ที่จอห์นกับพอลเจอกันครั้งแรก ถนนละแวกบ้านจอห์น และอื่นๆอีกเยอะ แต่เราขอพอแค่นี้

จากนั้นขับรถกลับเข้าเมืองเพื่อไป Liverpool Cathedral ไปถึงโบสถ์ฝนลงพอดี วิ่งเข้าโบสถ์ไปแต่โดนกั้น ลืมไปว่าวันนี้วันอาทิตย์ มีทำพิธีกันด้านใน เลยได้แต่ยืนชะเง้อมอง ข้างในสวยงามดูดี แต่เจ้าหน้าที่บอกต้องรอเสร็จพิธีก่อน น่าจะใกล้เที่ยง ก็เลยไม่รอ จะเดินถ่ายรูปด้านนอกก็ไม่ได้เพราะฝนลง จึงจำใจโบกมือลาลิเวอร์พูล พร้อมรุ้งที่พาดผ่านหน้าโบสถ์

       

 

ขับรถไปแอนด์ฟิลกันอีกรอบเพราะวันนี้จะเข้า Stadium tour เราไม่ได้จองออนไลน์มา แต่มาต่อคิวซื้อตั๋วเอาที่สนามเลย คนก็มากันเยอะอยู่ ต่อคิวซื้อตั๋วพร้อมรับ Audio Guide เพื่อฟังบรรยาย มีภาษาไทยให้ฟังด้วย แฟนลิเวอร์พูลไทยคงเยอะจริงๆ ใช้เวลาเดินอยู่ด้านในเกือบ 2 ชม. ได้เห็นทุกอย่างที่เคยเห็นแต่ในทีวี ได้เข้าห้องแต่งตัว ห้องแถลงข่าว ได้แตะป้าย This is Anfield ก่อนเข้าสนามแบบนักเตะ แฟนทีมไหนก็อยากไปเยือนสนามทีมตัวเองสักครั้งแหละ

  

       

       

ทัวร์เสร็จก็ออกมาช้อปปิ้งตามใบสั่ง เพื่อนฝากซื้อของมาก็มี อยากได้เองก็มี เลือกซื้อได้ตามสะดวก วันนี้คนไม่มากแต่ก็ไม่น้อย ซื้อเสร็จแล้วตั้งใจไปทานข้าวใน Restaurant (The Boot Room) แต่โต๊ะเต็มต้องรอคิวนาน เลยไม่เอาดีกว่า (ใครอยากทานควรไปลงคิวก่อนนะ) เลยเอาเวลาไปเดินดู Liverpool Museum ดูเสื้อ ดูเหรียญ ดูถ้วยรางวัล ดูห้อง Steven Gerrard แล้วก็ถึงเวลาร่ำลาลิเวอร์พูล พาเที่ยว Anfield แบบละเอียดกว่านี้ตามไปดูที่ > พาเที่ยว Anfield 

แต่ก่อนจากขอแวะไปเห็นสนามคู่แข่งร่วมเมืองสักหน่อย วนรถออกไปนิดเดียว นิดเดียวจริงๆ ถึงแล้ว Goodison Park สนามของ Everton ทีมร่วมเมือง พอดีฝนลงปรอยๆและที่จอดรถก็ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ ก็เลยอาศัยขับรถวนรอบสนาม วน 1 รอบพอได้เห็นหน้าตาก็ต้องร่ำลาลิเวอร์พูลจริงๆล่ะ เป้าหมายต่อไปคือเมืองแมนเชสเตอร์

 

       

ระยะทางจาก Liverpool ไป Manchester แค่ 52 กม. บางคนจึงเลือกนอนที่ใดที่หนึ่งแล้วนั่งรถไฟไปเที่ยวแบบไปกลับ แต่เรามีรถก็อยากย้ายเมืองไปเรื่อยๆ จึงย้ายมานอนที่เมืองแมนเชสเตอร์ วันนี้ไม่มีฟุตบอล จองโรงแรมได้สบายมาก เลือกจองโรงแรมนอกเมือง แต่ติดกับสถานีรถไฟเข้าเมืองได้สะดวก เพราะถูกและมีที่จอดรถ ไปถึงโรงแรมก็เย็นๆแต่ฟ้ามืดแล้ว วันนี้ขี้เกียจเข้าไปเมืองไปหาของกิน แถวโรงแรมไม่ค่อยมีร้าน เพราะโรงแรมอยู่แถวสนาม Old Trafford สนามของ Manchester United เลย ที่พอเห็นก็เป็น Sport Bar เลยไปนั่งดื่มเบียร์ดูทีมร่วมเมือง Manchester City ลงแข่งอยู่ จิบเบียร์ดูบอลจบก็เดินกลับโรงแรม วันนี้ต้มมาม่ากิน ทำลายเสบียงหน่อยอุตส่าห์ขนมา