
มหากาพย์ 11 วันในศรีลังกาก็จบลงแล้วนะคะ ทริปข้ามปีใหม่ 2018-2019 ที่ผ่านมา กลับมาค่อยๆทำรูปค่อยๆเล่าไป 3 เดือน เขียนจากความจำผสมรายละเอียดจากรูปที่ถ่ายมา เผื่อจะเป็นแรงบันดาลใจในการไปเที่ยวศรีลังกาสำหรับคนชอบเที่ยวแนวนี้ มีบางคนเขียนมาถามว่าศรีลังกาอันตรายมั๊ย ตอบตรงนี้อีกครั้งว่า ไม่อันตรายค่ะ ถ้า… เรารู้จักระมัดระวังตัวเองไม่เอาตัวเข้าไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เช่นเดินในที่เปลี่ยวตอนกลางคืน หรือแม้แต่กลางวันก็เถอะ ไม่แต่งตัวล่อเป้าล่อสายตา โดยตัวของคนศรีลังกาเองแล้ว เท่าที่เจอมาใน 11 วัน เป็นคนใจดี หน้าตาอาจจะดุแต่ลองคุยกับเขาดูจะพบว่าคนศรีลังกาใจดีกว่าที่คาดค่ะ

ศรีลังกาเป็นประเทศที่คนไทยต้องขอ Visa แต่การของ่ายมาก แนะนำให้ทำ Online Application ที่ ETA official website of the Department of Immigration & Emigration (DI&E) of the Democratic Socialist Republic of Sri Lanka. เข้าไปกรอกข้อมูลส่วนตัวและรายละเอียดแผนการท่องเที่ยวนิดหน่อย จ่ายค่า Visa online ไป 35$ โดยการตัดบัตรเครดิตไป หรืออยากไปทำ Visa On Arrival ที่สนามบินก็ได้ ก็อาจจะเสียเวลาหน่อย Apply Application แล้ว จ่ายเงินเรียบร้อย อีก 24 ชม. จะมี Email ยืนยันกลับมาว่าVisa approve ให้ Print email นั้นไปให้เจ้าหน้าที่ตรวจด้วย

ศรีลังกาเป็นเมืองพุทธ สถานที่ท่องเที่ยวส่วนมากเกี่ยวพันกับความเชื่อและศาสนา การแต่งกายจึงควรสุภาพตามสมควร อาจจะดูเป็นเมืองร้อน แต่ก็ไม่ได้ร้อนจัดมากสำหรับคนเอเชียอย่างเรา จึงไม่เห็นความจำเป็นในการแต่งตัวสั้นจู๋สายเดี่ยวหรือผ้าบางจนเห็นไส้เป็นขดๆ ปล่อยชาวยุโรปเขาไปค่ะ การเข้าไปในวัดหากเตรียมการไปได้ก็ควรใส่ชุดสีขาว หรือสีสุภาพ คนศรีลังกาจะใส่สีขาวเข้าวัดกันค่ะ นักท่องเที่ยวก็จะเดินแล้วดูแปลกแยกชัดเจน เขาไม่ว่าหรอกค่ะ แต่เราใส่สีสุภาพเพื่อเป็นการเคารพสถานที่
ศรีลังกามีสุกลเงินของตัวเองเป็น ศรีลังการูปี (Rs. or LKR) ไม่มีร้านรับแลกเงินในไทยที่มีเงินรูปีศรีลังกาให้แลก ต้องเอาเงินสกุลหลักเช่น US$ / Euro € / JPY ¥ / Thai฿ ไปแลกที่สนามบิน รับกระเป๋าออกมาด้านนอกจะมีเคาเตอร์รับแลกเงินหลายที่ (อัตราแลกเปลี่ยน ณ ธันวาคม 2561 > 1$ : 180.5Rs. / 1฿ : 5LKR.)



เล่าเรื่องที่พัก
ที่พักในศรีลังกาถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน มีทั้งหรูหรา 5 ดาว ไปถึงโฮมสเตย์ จองที่พักได้ผ่านเวปจองที่พักทั่วไป หรือ email ไปจองตรงกับที่พัก ตัวอย่างที่พักที่เราไปพัก จองล่วงหน้าไปทั้งหมด เลือกจากสถานที่เป็นหลักเช้นเคย อย่างบางที่อยากอยู่ใกล้ที่เที่ยว หรือบางที่อยากอยู่ใกล้สถานีรถไฟจะได้เดินไปกลับสะดวก ก็แล้วแต่แผนการเดินทางของแต่ละคนประเมินความดีงามของที่พักจากรีวิว ทำจองออนไลน์แล้วไปจ่ายเงินที่โน่น พักทั้งโรงแรม ทั้งเกสเฮาส์ ทั้งโฮมสเตย์ โดยรวมแล้วดีหมด
- Colombo: C1 Hotel, Fort
- Galle: Be Relaxing @ NO. 1 Galle City
- Tissa: The Cool Nest Yala Hotel
- Ella: Tunnel Gap Homestay
- Kandy: Hotel Blue Pillars Kandy
- Dambulla: Hotel Gala Addara
- Anuradhapura: Amsterdam Tourist Rest

C1 Hotel, Fort
ที่พักทำเลดี อยู่ในย่าน Fort Colombo มีตึกสวยๆ ร้านเก๋ๆ ให้เดินเล่น อยู่ใกล้ Ministry of crab
ราคา 8,370 Rs. นอน 3 คน ห้องพักสะอาดใช้ได้ มี wifi มีทีวี ตู้เย็น มีลิฟต์ รวมอาหารเช้า
ห้องอาหารชั้นดาดฟ้า วิวเมือง

ที่พักลักษณะ Air bnb เจ้าของเป็นพนักงานธนาคารนิสัยดีมากๆ มีบ้านมาเปิดให้เช่าพัก
ทำเลอยู่ใกล้สถานีรถไฟ จะไปเที่ยวใน Galle Fort ต้องนั่งรถไป
ราคา 13,000Rs. ได้บ้านทั้งหลัง 2 ห้องนอน สะอาด อุปกรณ์ครบครัน ทีวี ตู้เย็น ห้องครัว เครื่องซักผ้า
ข้อเสียคือหายากหน่อย ไม่มีป้ายชื่อ ต้องหาจากเลขที่บ้าน No.1

ที่พักในเมืองเล็กๆ Tissa ราคา 11,800 รูปี แต่บ้านพักหลังใหญ่ สะอาด พร้อมห้องนั่งเล่นห้องครัว
พนักงานพูดอังกฤษได้ดี ติดต่อซาฟารีทัวร์ให้ได้ มีอาหารง่ายๆให้สั่ง เช่น ข้าวผัด
อยู่ไม่ไกลจากกลางเมือง เดินเข้าเมืองได้ไม่ไกลมาก

ที่พักลักษณะ Homestay พักอยู่กับเจ้าของบ้าน มีห้องให้เช่าอยู่ 4 ห้อง มีห้องน้ำในตัว
ห้องที่เราพักมี 2 เตียงนอนได้ 4 คน ราคาคืนละ 8,000 รูปี/ห้อง นอนที่นี่ 3 คืน
Suda และครอบครัวเจ้าของบ้านน่ารัก เป็นกันเอง ใจดี ช่วยเหลือดีมาก อาหารเช้าเต็มโต๊ะ
บ้านอยู่บนเนินเขา ต้องเดินขึ้นลง มีไร่ชาของครอบครัวอยู่ติดกัน
เพราะที่พักอยู่บนเนินเขา ทำให้วิวดีใช้ได้ มีน้ำชากาแฟพร้อมขนมให้กินตลอดเวลา

บูทิคโฮเทลเก๋ๆ ห้องพักดี วิวดี แต่ไม่ได้อยู่กลางเมือง ต้องเรียกรถมาจากสถานีรถบัสหรือรถไฟ
อาคาร 3 ชั้น ไม่มีลิฟต์ ราคาห้อง 2 คน 8,000 รูปีต่อคืน (ไม่รวมอาหารเช้า) ห้องอาหารชั้นบนสุด วิวดีเหลือร้าย

ที่พักในสวน มีห้องพักแค่ 4 ห้อง Welcome Drink เป็นน้ำฝรั่งจากสวน หวานอร่อย
ที่พักสะอาด ดี ตามมาตรฐาน ราคา 5,800 รูปีต่อห้อง 2 คน รวมอาหารเช้า
เมือง Dambulla ค่อนข้างเงียบ เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ไปพักที่ Sigiriya

ที่พักดี บริหารงานด้วยครอบครัว พ่อแม่ลูก อยู่ไม่ไกลจากเมืองโบราณ
คุณพ่อผู่เป็นผู้จัดการ ช่วยเหลือในการวางแผนการท่องเที่ยวและเดินทางดีมาก
คุณแม่เป็นแม่ครัวทำอาหารอร่อยใช้ได้ แต่ทำอาหารเป็นเวลา สั่งอาหารนอกเวลาไม่ได้
หัวค่ำยุงเยอะมาก และยังมียุงมากวนตลอดคืน ที่พักจึงมีมุ้ง ห้องพัก 3 คน ราคา 8,370 รูปี รวมอาหารเช้า
เล่าเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม
อาหารศรีลังกา ลักษณะคล้ายอาหารอินเดีย คือมีเครื่องเทศ มีข้าว มีโรตี มีแกงกระหรี่ แกงเผ็ด คนไทยน่าจะกินได้อยู่ ราคาอาหารไม่ได้แพงมาก แล้วแต่ร้านที่คุณเลือก ถ้าเป็นแหล่งท่องเที่ยวก็ราคาบวกเพิ่มไปหน่อย ถ้าเป็นระดับภัตตาคารก็บวกเพิ่มไปอีก
อาหารศรีลังกาชุดพื้นฐานจะมี ข้าว แกง และเครื่องเคียง ข้าวแต่ละเมืองก็ไม่เหมือนกัน มีทั้งเม็ดสั้น เม็ดยาว แต่ไม่นุ่มอร่อยเหมือนข้าวหอมมะลิบ้านเรา
อาหารศรีลังกาชุดพื้นฐาน สั่งชุดเดียว เพิ่มข้าวทานด้วยกันก็ได้ Papadum แป้งโรตีทอดกรอบๆบางๆ รสเค็มๆมันๆ จิ้มแกงปลาอร่อยมาก
เมนูสร้างสรร omelette curry จากร้าน Matey hut ร้านอร่อยราคาถูกที่เมือง Ella ปกติเจอแต่ Chicken / fish / veg Curry นี่ทอดไข่หนาๆนุ่มๆมาราดแกง อร่อยเข้ากันดีมาก ข้าวผัด หาสั่งได้ตามร้านทั่วไป ข้าวเม็ดสั้น ร่วนๆหน่อย ผัดแห้งๆดี
นอกจากโรตี ก็มีเส้นหมี่แผ่นบางๆแบบนี้ ที่สั่งเอามากินกับแกงได้ แปลกดี แต่ก็เข้ากันอยู่นะ ข้าวกับแกงเผ็ด อาหารแบบนี้หาง่าย
ถ้ากินได้ก็เที่ยวศรีลังกาสบาย
Kotthu หรือผัดโรตี หน้าตาเหมือนผัดซีอิ๊ว
แต่รสชาติประหลาดๆ ชิมแล้วไม่ชอบแผ่นโรตีฉีก เอาไว้ผัด Kotthu มีขายทั่วไปเหมือนร้านผัดไทยข้างทางบ้านเราที่ฝรั่งชอบกิน
Hopper ไข่ดาวขนมครก หากินได้ตามร้านทั่วไป กระทะทำ Hopper ตอนเดินผ่านนึกว่าร้านทำกุ้งอบวุ้นเส้น 5555 เปิดฝามา เป็นหม้อหลุม เทแป้งลงไป แงะกินแต่แป้งก็ได้ หรือใส่ไข่ลงไปด้วยก็ได้
มาศรีลังกาต้องมาลองชิมปูศรีลังกา “Ministry of Crab” ราคาแรงใช้ได้ Garlic Chilli Crab 1 Kg. จานนี้ 13,400 รูปี “Ministry of Crab” นอกจากปู ก็มีกุ้ง
และอาหารอื่นๆอีกพอสมควร อร่อยใช้ได้ทุกอย่าง
“Ministry of Crab” ร้านดังในโคลอมโบ ใครอยากไปชิมปูศรีลังกาที่ร้านนี้ให้โทรจองก่อน เพราะมีคน Walk in แล้วไม่ได้โต๊ะก็หลายคนอยู่
มะพร้าวศรีลังกาสีเหลืองนะ มีขายทั่วไป ชิมแล้วหอมหวานสู้มะพร้าวน้ำหอมบ้านเราไม่ได้ แต่ได้กินตอนอากาศร้อนๆก็ชื่นใจดี สั่งที่ไหนก็จะตัดแต่งมาแบบนี้ เหมือนทรงบังคับ 555 ผลไม้ศรีลังกา ก็เหมือนๆบ้านเรา ส้ม ทับทิม กล้วย




ของกินเล่น ชื่ออะไรจำไม่ได้ แป้งทอดใส่ผัก หรือเนื้อสัตว์ ใส่เครื่องเทศด้วย ชิ้นละ 50 รูปี ใส่ตะกร้าเดินขายทั่วไปตามทารถ สถานีรถไฟ
กินแล้วคอแห้งมาก แต่ประทังความหิวได้Lion Beer เบียร์ศรีลังกา จืดๆดื่มเพลิน
ราคาประมาณ 300 รูปี ชอบ กระป๋องสวย
ร้านอร่อยที่ Ella

Matey Hut ร้านอาหารศรีลังกาใน Ella อยู่ใกล้อุโมงลอดใต้ทางรถไฟ ร้านติดดาวใน TripAdvisor ไปลองตามรีวิวโดยแท้ และยอมรับว่าอร่อยจริง แถมราคาถูก ร้านเล็กๆมีที่นั่งไม่เกิน 15 ที่ ไม่รู้ตอนนี้จะขยายรับลูกค้ามากขึ้นหรือเปล่าเพราะผลังวันปีใหม่ปิดปรับปรุงร้าน 3-4 วัน เจ้าของร้านมนุษย์สัมพันธ์ดีเยี่ยม ฝรั่งต่อแถวยาวทุกวัน ไม่อยากรอนาน ก็ไปหัววันหน่อย ฝรั่งจะมามืดๆ

Halpe’ Tea Restaurant เป็นร้านอาหารของโรงงานชา Halpe’ Tea ร้านดูหรูหราหน่อย ราคาก็ตามสถานที่ มีอาหารฝรั่งเป็นหลัก อร่อยใช้ได้เลย ฝรั่งแน่นตอนมื้อดึก ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศจาก ข้าว โรตี แกง ก็มาลองร้านนี้ได้ อยู่เลยจากกลางเมืองมาทางจะไป Little Adam’s Peak เดินมาตอนเย็นๆอากาศดี แต่ขากลับจะมืดหน่อย ติดไฟฉายมาด้วยก็ดี ยกเว้นว่าจะพักอยู่แถวๆนี้
ร้านอาหารใน Kandy

เจ้าของร้าน Jewelry ข้างๆวัดพระเขี้ยวแก้ว แนะนำร้านอาหารที่คนท้องถิ่นกิน “Midland Deli” อยู่ฝั่งตรงข้ามร้าน Jewelry นั่นแหละเหมือนร้านข้าวแกง สั่งตักราดข้าว หรือจะสั่งอาหารจากเมนูก็ได้ มีอาหารหลากหลายนอกจากโรตีกับแกง ก็มีพวกหมี่ผัด สลัดผักด้วย อร่อยดี ราคามิตรภาพมากๆ

The Empire Cafe’ ร้านอาหารในอาคารเก่าที่ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกในเมือง Kandy ร้านสวยคลาสสิค อาหารอร่อย มีทั้งอาหารตะวันตกและอาหารศรีลังกา อยู่ข้างวัดพระเขี้ยวแก้วเลย คนแน่นทุกวัน ส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาหารฝรั่งหน้าตาดูดี รสชาติใช้ได้ บรรยากาศเยี่ยม ราคาภัตตาคาร
ร้านอาหาร Dambulla / Sigiriya

เมือง Dambulla เป็นเมืองเงียบๆคนพักเมืองนี้น้อย ส่วนมากไปพักที่ Sigiriya มากกว่า ถามที่พักและคนขับตุ๊กๆ ต่างบอกให้ไปกินข้าวที่ Marco Polo ชื่อร้านดูหรูหรา แต่ไม่ได้หรูหราเท่าชื่อหรอก มีอาหารศรีลังกาเป็นหลัก ข้าว โรตี แกง แต่มีไก้ทอดให้สั่ง มื้อเย็นมีไก่ย่างด้วย

หลังจากไปปีน Sigiriya Rock (Lion Rock) ตั้งแต่เช้า กลับลงมาตอนสาย นั่งรถกลับที่พักที่ Dambulla เจอร้านนี้ระหว่างทาง R2R : Road to Rock ตั้งใจแวะจิบกาแฟ พบว่าร้านดีเกินคาด ขายอาหารหลายอย่าง ลอง Club sandwich กับ Springroll อร่อยใช้ได้ มีชา กาแฟสด มี souvenir shop ให้ขาช็อปด้วย เหมือนเจอโอเอซิสกลางทะเลทราย
เล่าเรื่องการเดินทาง
การเดินทางในศรีลังกา ไม่ยากเลย มีทั้งรถบัส รถไฟ หรือเหมารถ ถามว่ารถไฟต้องจองหรือไม่ ตามจริงแล้วถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาลก็ไม่ต้องจองได้ ดวงแย่สุดก็ยืนเอา อย่างที่เล่าในหลายๆตอน ยืนบ้างนั่งบ้าง รถบัสก็เหมือนกันไปซื้อตั๋วที่ท่ารถได้เลย แต่ถ้าให้ดีก็ไปซื้อล่วงหน้า 1 วันก็จะทำให้แผนการเดินทางไม่ผิดพลาด

สถานีรถบัสเมือง Galle สถานีรถบัส Colombo
สถานีรถบัสเมือง Kandyสถานีรถบัสเมือง Tissa

เรานั่งมินิบัสจากคันดี้ไปดัมบุลลาในราคา 220 รูปี

ว่าด้วยเรื่องรถไฟ เป็นการเดินทางที่สะดวกสบายพอสมควร ทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวนิยมนั่งกันเพราะราคาถูกและได้ชมวิวสวยๆ ถ้าไม่กลัวว่าจะต้องยืนก็ไปซื้อที่สถานีได้เลย แต่รถไฟสายยอดนิยมอย่างรถไฟสายชา ช่วง Ella <-> Kandy ถ้าต้องการนั่งชั้น 1 หรือ ชั้น 2 ควรจองไปล่วงหน้า มีเว็บรับจองหลายที่ เช่น visitsrilankatours หรือ seat61.com ลองเทียบราคาดู เพราะจะมีค่าธรรมเนียมการจองไม่เท่ากัน
ทางรถไฟในศรีลังกามี 3 เส้นทางหลักคือ
– Coastal Line คือทางรถไฟวิ่งเลาะชายฝั่ง เป็นเส้นทางสวยงามไม่น้อยเลย โดยมีวิ่งจาก Colombo ลงใต้เลาะชายทะเลไป Galle และ Mattara กับออกจาก Colombo วิ่งเลียบชายฝั่งขึ้นไป Pattalam
– East Line เริ่มต้นจาก Colombo ออกไปทางตะวันออก แยกที Peradeniya เป็น 2 สายไป Badulla และ Matale ทางรถไฟสายนี้สวยงามเพราะเป็นเส้นทางหุบเขา ผ่านไร่ชาและป่าสน มีสายหมอกปกคลุม เส้นทางยอดนิยมคือ เส้นระหว่าง Ella ผ่าน Nuwara Eliya ถึง Kandy
– Northern Line เป็นเส้นทางขึ้นเหนือ จาก Colombo ขึ้นเหนือไปแตกแขนงออกเป็นหลายเส้นทาง ไป Anuradhapura, Mannar ขึ้นไปถึง Jaffna ตอนเหนือของศรีลังกา และมีอีกทางที่แยกไป Trincomalee และ Batticoloa เมืองชายทะเลยอดนิยมทางฝั่งตะวันออกด้วย
สามารถตรวจสอบตารางเวลาการเดินรถได้ที่ Srilanka Railways

มาซื้อตั๋วที่สถานี ได้ตั๋วหน้าตาแบบบ้านเราสมัยก่อน จองตั๋วออนไลน์มา ก็เอาใบมารับตั๋วที่สถานี





ไปซื้อตั๋วที่สถานี เป็นรถนั่งชั้น 2 ราคา 240 รูปี

พวกเรานั่งจาก Ella ขึ้นเหนือไป Kandy ตั๋วนั่งชั้น 2 ราคา 600 รูปี

นั่งจาก Anuradhapura กลับลงมา Colombo ตั๋วนั่งชั้น 2 ราคา 500 รูปี
ว่าด้วยเรื่องตุ๊กๆในศรีลังกา ก็คงเหมือนเมืองท่องเที่ยวทั่วโลก มีทั้งดีและร้าย ที่ร้ายนี้คือบอกราคาแพงกว่าปกติ 2-3 เท่า แต่ราคาที่เป็นปกติคือระยะทางประมาณ 3 กม. 120 รูปี อันนี้ราคาตามมิเตอร์เลยนะ เจอตุ๊กตุ๊กติดมิเตอร์วันแรกวันเดียว นอกนั้นไม่เจออีกเลย แต่ก็พอรู้ราคามาตรฐานแล้ว ก็ต่อรองราคาประมาณนี้ ลองคำนวณระยะทางดูตอนเรียกรถ คนศรีลังกาส่วนมากพูดภาษาอังกฤษได้ดี ก็เพราะเคยมีอังกฤษเข้ามาบริหารประเทศอยู่ยาวนาน




สรุปรวดยอดให้อีกครั้ง 11 วันในศรีลังกา แบ่งเป็น 8 ภาค กับอีก 1 โพสต์เรื่องชาซีลอน
- SriLanka Part-1 [Galle]
- ศรีลังกา วันที่ ๑ : ผ่านเมืองหลวงลงใต้ไปเที่ยวทะเล
- ศรีลังกา วันที่ ๒ : Galle ทะเลใสๆกับกลิ่นอายชาวดัชต์
- SriLanka Part-2 [Stilt fishing]
- ศรีลังกา วันที่ ๒ : ตกปลาแบบศรีลังกาสไตล์
- SriLanka Part-3 [Safari at Yala]
- ศรีลังกาวันที่ ๓ ตามล่าหาเสือ
ดำดาว
- ศรีลังกาวันที่ ๓ ตามล่าหาเสือ
- SriLanka Part-4 [Ella]
- ศรีลังกาวันที่ ๓ Ella เมืองแห่งชา
- ศรีลังกาวันที่ ๔ สวัสดีปีใหม่กลางไร่ชา
- ศรีลังกาวันที่ ๕ ทำความรู้จักกับชาซีลอน
- SriLanka Part-5 [Kandy]
- ศรีลังกาวันที่ ๖ นั่งรถไฟสายชาจาก Ella สู่ Kandy
- ศรีลังกาวันที่ ๗ เที่ยวแบบหวานเย็นในเมืองชื่อเหมือนลูกอม Kandy
- SriLanka Part-6 [Dambulla-Sigiriya]
- ศรีลังกาวันที่ ๘ เที่ยวถ้ำ Dambulla
- ศรีลังกาวันที่ ๙ Sigiriya วังลอยฟ้าที่น่าเศร้า
- SriLanka Part-7 [Anuradhapura]
- ศรีลังกาวันที่ ๙ Anuradhapura เมืองเก่าของเราแต่ก่อน
- SriLanka Part-8 [Colombo]
- ศรีลังกาวันที่ ๑๐ นั่งรถไฟไป Colombo
- ศรีลังกาวันที่ ๑๑ ลาทีศรีลังกา