13 days England-Scotland Part-2 [London]

Trip : England–Scotland [November 2017] Part 2

13 days England-Scotland Part-1 | Part-2 | Part-3 | Part-4 | Part-5 | Part-6 | Part-7 | Part-8 | Part-9 | Part-10 | Part-11 | end

เช้าที่ 2 ในลอนดอนวันนี้วางแผนว่าจะเดินเที่ยวในลอนดอนทั้งวัน ซื้อ London pass แบบ 1 day ไว้ ใช้ขึ้น Hop on Hop off bus ได้ ใช้เข้าที่เที่ยวสำคัญๆได้ แถมลงเรือล่องแม่น้ำเทมส์ได้ด้วย (อาจจะสงสัยว่าทำไมซื้อวันเดียว เอาไว้ค่อยเขียนอธิบายในอีกโพสต์เกี่ยวกับการเลือกซื้อบัตรต่างๆ)

เริ่มเดินทางด้วยการใช้ tube เพราะอยู่ใกล้ Paddington station และเลี่ยงรถติด วางแผนไว้ว่านั่งรถไฟไปโผล่ Westminster เหมือนเมื่อวาน แล้วแวะ Westminster Abbey ก่อน แล้วเดินผ่าน St.James Park ไป Buckingham Palace ไปดูทหารเปลี่ยนเวรยาม แล้วค่อยเดินวนผ่าน 10 Downing street กลับไปลงเรือที่ Westminster pier นั่งเรือชมวิวไปลงที่ Tower Pier เพื่อเข้า Tower of London ถ้ามีเวลาเหลือจะนั่งรถเมล์ย้อนมา St.Paul และ Millennium bridge

แต่ความมีดวง(กุด)คือเช้านี้ฝนลงพรำๆ อากาศผิดกับเมื่อวานหน้ามือหลังมือ เหมือนที่ใครๆบอกว่า ฟ้าอังกฤษไว้ใจไม่ได้ ฝนตกเป็นเรื่องปกติ เดี๋ยวตกเดี๋ยวหยุด เดี๋ยวแดดออก สลับไปมาทั้งวัน นั่งรถไฟโผล่ขึ้นมาที่ Westminster station ฟ้าเป็นสีเทาขาวหมดเลย โชคดีที่เมื่อวานได้แวะมาเก็บรูปฟ้าใสๆไว้บ้างแล้ว เลยไม่ได้สนใจถ่ายรูปแถว Bigben และ Westminster bridge เท่าไหร่ เดินข้ามถนนไป Westminster abbey เลย เริ่มมีแถวล่ะ แต่ยังไม่เยอะมาก มี London pass ก็เข้าได้เลย ไม่ต้องต่อคิวซื้อตั๋ว แค่ต่อคิวเข้าเฉยๆ ต่อคิวไม่นานก็ได้เข้า

มองจากด้านนอกดูไม่ใหญ่นัก แต่ข้างในใหญ่และมีรายละเอียดให้ชมเยอะมาก เดินเพลินกันไป มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ก็ร่วม 200 ปีแล้ว มีการปรับปรุงต่อเติมกันมาทุกยุคทุกสมัย มองจากด้านนอกดูไม่ใหญ่นัก แต่พอเข้ามาด้านในแล้วรู้สึกว่าใหญ่และมีรายละเอียดให้ชมเยอะมาก เดินเพลินกันไป มหาวิหารใช้ประกอบพิธีราชาภิเษกและพระราชพิธีสำคัญๆหลายอย่าง และยังเป็นที่เก็บพระศพของกษัตริย์ บรมวงศานุวงศ์ และศพของบุคคลสำคัญ ผู้มีชื่อเสียงมากมาย เช่น พระเจ้าเอ็ดเวิร์ด , สมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่ 1, เซอร์ ไอแซค นิวตัน, ชาร์ล ดาร์วิน โลงศพแต่ละโลงทำจากหินอ่อนแกะสลักสวยงาม พื้น ผนัง กระจก ภายในวิหารสวยงาม ต้องใช้เวลาค่อยเดินดู อย่ารีบร้อน

ออกจากมหาวิหาร ก็เดินลัดเลาะสวนสวย St. James Park ที่ใบไม้กำลังร่วงปูพรมสีทองสวยงาม เริงร่าถ่ายรูปไปเรื่อย ดูนาฬิกาแล้วยังพอมีเวลาก่อนไปดูทหารเปลี่ยนเวรยามหน้า Buckingham Palace เป็นความสะเพร่าที่โทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง ที่ไม่ได้เช็คเวลาให้แน่นอนอีกครั้ง ตอนทำแผนเที่ยวได้ข้อมูลไว้ว่า Changing guard เริ่มตอน 11:30 เราก็เลยเอ้อระเหยลอยชายไปถึงหน้าบัคกิ้งแฮมก็เกือบ 11 โมงครึ่ง ก็สงสัยอยู่ว่าทำไมไม่มีการกั้นเชือกจัดพื้นที่ ทำไมผู้คนเดินกันขวักไขว่ไปหมด เดินถ่ายรูปรอเวลาจน 11:45 ชักเอะใจ เลยเข้าเวปไซต์ดูใหม่ โอ้ว!! แม่เจ้า มีขึ้นข้อความพร้อมเครื่องหมาย !!! ว่า Changing guard เปลี่ยนเวลาเป็น 11:00 สลดหดหู่ไปพักใหญ่ แต่ก็ต้องทำใจ มันพลาดไปล่ะ แต่ก็ยังพอมีทหารม้าเดินแถวเล็กๆมาให้ชมอยู่บ้าง จำไว้เลยว่าให้เช็คข้อมูลใหม่ทุกครั้งก่อนเดินทาง อ้อ แล้วก็ไม่มีทุกวันนะ ให้เช็ควันที่มีพิธีเปลี่ยนเวรยามของทหารรักษาการณ์ (Changing guard) ได้ที่เวป https://changing-guard.com/dates-buckingham-palace.html

เดินอ้อม St. James Park อีกฝั่ง ไม่ซ้ำกับขามา ใบไม้ร่วงเต็มสนาม สวยงามไปทุกมุม อากาศเย็นเพราะไม่ค่อยมีแดด เดินไปเรื่อยๆจนกลับมาถึง Westminster bridge ลงไปท่าเรือ Westminster pier เพื่อดูรอบเรือ ก็ได้เวลาพอดี ระหว่างยืนรอเรือมา ฝนเจ้ากรรมก็โปรยลงมาอีกรอบ เป็นคนไม่ถูกโฉลกกับเรือเอาเลย นั่งเรือชมวิวทีไรฝนมักจะตก จะออกไปยืนถ่ายรูปที่หัวเรือท้ายเรือก็ไม่ได้ ฝนตกแรงบ้างเบาบ้างสลับกันไป ต้องปรับเปลี่ยนอารมณ์ภาพถ่ายให้เป็น ลอนดอนแบบขรึมขลังและลึกลับ เรือแวะจอดรับ-ส่งนักท่องเที่ยว ที่ท่า London eye pier แล้วก็ไป Tower pier ระหว่างทางก็ลอดสะพานอยู่หลายสะพาน ผ่านจุดท่องเที่ยวริมฝั่งแม่น้ำหลายที่ เช่น St. Paul Cathedral, London Glove เสียดายที่ไม่มีเวลาได้ไปแวะเที่ยว นั่งเรือไปราวๆเกือบชั่วโมง โชคดีที่ฝนซาเม็ดตอนถึงที่หมาย แต่อากาศชื้นแฉะหนาวเย็นเป็นอะไรที่อังกฤษที่สุด

Tower of London ก็เข้าได้เลยเพราะมี London pass เข้าไปรับแผ่นพับมาดูก่อนเพราะ ข้างในค่อนข้างซับซ้อน วกไปวนมา ดูแล้วจะได้เดินได้ทั่วๆ หอคอยแห่งลอนดอนสร้างมาเกือบพันปีแล้ว มีประวัติเกี่ยวข้องกับการขึ้นครองราชย์ การแย่งชิงราชบัลลังก์ ของอังกฤษมากมายหลายยุคหลายสมัย เคยใช้เป็นทั้งพระราชวัง ป้อมปราการ ที่คุมขังนักโทษและเป็นลานประหาร มีเสียงร่ำลือเรื่องผีดุ ถึงขนาดมีจัดทัวร์กลางคืนกันเลย ผีที่ขึ้นชื่อที่สุดคือ พระนางแอน โบลิน ที่ถูกประหารฐานนอกพระทัยพระเจ้าเฮนรี่ มีลานประหารที่ล้อมรั้วไว้ให้ดูด้วย

เข้าไปแล้วจะเจออิกาบินว่อนก่อนเลย เพราะที่นี่เลี้ยงอิกาดำไว้ 7 ตัวตามความเชื่อว่า หากอิกาหายไปจากปราสาท ราชอาณาจักรจะล่มสลาย เดินต่อไปที่ลานกลาง โชคดีที่ตอนเราไปถึง มีขบวนทหารเปลี่ยนเวรยามพอดี ขบวนอาจจะไม่อลังการเท่าหน้าพระราชวังบัคกิ้งแฮม แต่ก็ถือว่าเป็นรางวัลปลอบใจ ลำดับต่อไปเข้าไปดู เพชร พลอย เม็ดโตๆ ที่ประดับบน มงกุฏ และคฑา ใน The Crown Jewel ตื่นตาตื่นใจพอสมควร แล้วก็ออกมาเดินไล่ดูตามอาคารต่างๆไปทั่วๆ ยิ่งเย็นคนก็น้อยลงก็ยิ่งหลอน ใกล้เวลาปิดตอน 16:30 ก็ออกทางประตูข้าง ไปริมแม่น้ำเทมส์ ยืนชมวิว Tower bridge ยามเย็น ดูเวลาแล้ว ยังขึ้นไป Tower bridge ได้ทัน ก็เลยเปลี่ยนแผนไม่ไป St.Paul ล่ะ

Tower bridge ประกอบด้วย Tower 2 ฝั่ง เชื่อมกันด้วยสะพานรถวิ่ง และทางเดินเชื่อมคู่ขนานด้านบน เริ่มต้นโดยเข้าไปที่ Tower ฝั่ง London tower ต่อคิวขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุด ซึ่งจัดทำเป็นพิพิธภัณฑ์บอกเล่าความเป็นไปเป็นมาของสะพาน แล้วก็เดินบนทางเชื่อมไป Tower อีกฝั่ง ตรงกลางทางเชื่อมมีพื้นกระจกให้ไปเดินส่องลงมาเห็นสะพานรถวิ่งด้านล่างให้เสียวๆกันไป ข้ามไปถึงฝั่งตรงข้าม ลงมาเดินเล่นริมน้ำฝั่งตรงข้าม ถ่ายรูปสะพานอีก ซึ่งตอนนี้ก็มืดแล้วสะพานเริ่มมีแสงสีได้อีกบรรยากาศ

เย็นนี้ เรามีแผนจะไปเยี่ยมร้านน้องสาวของเพื่อนสมัยเรียน ที่มาเปิดร้านอาหารไทยที่ลอนดอน ก็เดินข้ามสะพานกลับไป เพื่อลง tube เดินทางไปถึงที่ร้าน ได้ทานอาหารไทยตั้งแต่วันแรกๆเลย อาหารอร่อย เพราะทำโดยคนไทย ใครมีโอกาสไปเที่ยวลอนดอนอยากทานอาหารไทยรสชาติดี เชิญชวนไปชิมค่ะ http://www.kannathai.co.uk