Trip : England–Scotland [November 2017] Part 5
13 days England-Scotland Part-1 | Part-2 | Part-3 | Part-4 | Part-5 | Part-6 | Part-7 | Part-8 | Part-9 | Part-10 | Part-11 | end
ทริปวันที่ 5 ช่วงเช้าเดินเที่ยวเมืองบาธ จากนั้นก็ขับรถออกสู่ชนบทอังกฤษกันบ้าง เป็นหนึ่งใน highlight ของทริปนี้ของพวกเรา
ใครที่ได้เคยดูหนังใหญ่อย่าง Bridget Jones’s Diary, Stardust หรือซีรีย์สืบสวนชุด Midsommer murder จะมีฉากที่ถ่ายทำในชนบทของอังกฤษ หมู่บ้านเล็กๆ เงียบๆ น่ารัก มีเสน่ห์ ทำให้เราอยากได้มาเห็นภาพอังกฤษแท้ๆแบบนั้นบ้าง แผนการขับรถเที่ยว Cotswolds จึงเพิ่มเข้ามาในทริป
Cotswolds คือกลุ่มพื้นที่ทางตะวันตกของอังกฤษ ถ้าเรียกให้ถูกต้องเต็มๆเลย คือ Cotswolds AONB เพราะ Cotswolds ได้นับรวม เป็นหนึ่งใน AONB (Area of Outstanding Natural Beauty) จะเรียกว่าอะไรดี พื้นที่ๆมีความสวยงามตามธรรมชาติ โดยยังคงความเป็นตัวตนแบบดั้งเดิมได้ อะไรทำนองนั้น โดย AONB นี้มีอยู่ในแถบชนบทของ อังกฤษ 33 พื้นที่, ในเวลส์ 1 พื้นที่ และมี 8 พื้นที่ในไอร์แลนด์เหนือ แนวความคิดในการกำหนดพื้นที่ AONB เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1945 โดย John Dower ที่มีแนวคิดว่า เราควรจะอนุรักษ์พื้นที่ที่มีความสวยงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ …. อยากให้มีคนแบบนี้ในประเทศไทยบ้าง ปายคงไม่เป็นแบบนี้ เชียงคานคงไม่เป็นแบบนี้ ….
Cotswolds “the most English and the least spoiled of all our countrysides” – J.B. Priestley
Castle Combe
ออกเดินทางจากเมืองบาธขึ้นเหนือ รู้สึกถึงความเป็นชนบท เหมือนในหนัง/ละครที่เคยดูล่ะ ประมาณ ½ ชม.ก็ถึงเป้าหมายแรกของวัน “Castle Combe” เมืองที่อยู่เกือบล่างสุดของ Cotswolds เห็นป้ายชี้เข้าเมืองแล้วก็ให้ฉงนเล็กๆเพราะทางมันเล็ก เลี้ยวรถเข้าไปนิดเดียว ก็พบแม่น้ำสายเล็กๆ อยากจะเรียกว่าลำธารจริงๆ แต่มันคือแม่น้ำ By Brook ขับเลียบแม่น้ำไปอีกหน่อย แม่น้ำโค้งซ้ายไปทาง The Manor House โรงแรมหรู 5 ดาว เราขับข้ามสะพานไปเห็นภาพที่เคยเห็นแต่ในอินเตอร์เน็ต คราวนี้มาเห็นด้วยตา โอ้โห… สวยงามมากๆ บ้านที่สร้างด้วย Cotswolds stone สีน้ำตาลบางคนเรียกสีน้ำผึ้ง ปลูกเรียงเป็นแถวตามรายทาง สุดทางเป็น Market Cross เป็นฉากที่จำได้จาก Stradust ขับเลยไปหาที่จอดรถ แล้วลงเดินย้อนกลับมา เมืองเล็กๆ สงบ สงบมาก เท่าที่ขับมายังไม่เจอคนเลย เดินเข้าไปลึกๆที่เป็นละแวกบ้านคนก็ยังไม่มีใครให้เห็น เดินถ่ายรูปริมแม่น้ำ By Brook สักหน่อย เจอนักท่องเที่ยว 2-3 คู่ตรงนี้ นั่งเล่นลมพัดเย็นๆจนพอใจ ค่อยเดินทางต่อ




Bibury
จาก Castle Combe ขับต่อขึ้นเหนือไปอีก ระหว่างทางผ่านเมืองเล็กเมืองน้อย ถ้ามีเวลาเยอะๆอยากแวะให้หมด แต่ด้วยเวลาจำกัด จึงต้องมุ่งสู่เป้าหมายต่อไปที่เมือง Bibury ใช้เวลาชั่วโมงกว่าก็เข้าเขตเมือง ฟ้าใสๆแดดดีๆเมื่อเช้าหายไปล่ะ เริ่มมีฝนลงปรอยๆ หนาวยะเยือกขึ้นมาทันที หลบหนาวเข้าผับชนบท The Catherine Wheel พร้อมๆฝรั่งกลุ่มใหญ่ บรรยากาศเหมือนในหนังจริงๆ พี่ฝรั่งเข้าไปสั่งเบียร์ที่บาร์ แล้วเดินไปหาเลือกที่นั่ง คุยกันสนุกสนาน แต่เราไม่ดื่มนะเพราะต้องขับรถไปต่อ เลือกที่นั่งด้านในๆเพื่อทานอาหาร สั่งปลาเทราท์ เพราะ Bibury เค้าดังเรื่องปลาเทราท์ มีฟาร์มปลาเทราท์ ให้ไปเที่ยวชมด้วย
จากร้านอาหารแล้วจะจอดรถทิ้งไว้แล้วเดินลงไปที่แม่น้ำ Coln ก็ได้ หรือขับรถข้ามแม่น้ำไปก็จะเจอโรงแรมเก่าแก่ The Swan Hotel เลี้ยวขวาเลาะแม่น้ำไปหาที่จอดรถ แล้วลงเดินเล่น จุดท่องเที่ยวที่ใครๆก็มาดูคือ แนวอาคารเก่า Arlington Row สวยดั่งภาพวาด ที่นี่เดิมเคยเป็นโรงเก็บฝ้าย ปั่นฝ้าย ปัจจุบันเมืองได้อนุรักษ์ไว้ กลายเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของเมือง มีหนังหลายเรื่องใช้ที่นี่เป็นฉากถ่ายทำด้วย จุดถ่ายรูปจากฝั่งตรงข้ามผ่านแม่น้ำ Coln ไปก็ดี หรือจะเดินข้ามสะพานไปดูใกล้ๆก็ได้ อากาศหลังฝนตกมันหนาวๆชื้นๆ แต่ก็สดชื่น บรรยากาศเงียบสงบมาก มีนักท่องเที่ยวไม่มาก ถ่ายรูป Arlington Row สักพักก็เดินกลับมาตรง Swan Hotel โชคดีที่สุด เพราะมีทัวร์มาลง เป็นทัวร์จีน เดินมาเป็นสิบ เสียงขากถุยดังก้องไปทั้งเวิ้งถนน




Bourton on the Water
หนีทัวร์จีนขึ้นรถไปต่อกันดีกว่า เป้าหมายอีกเมืองคือ Bourton on the Water ห่างออกไปอีกแค่ 20 กม. เมืองดูใหญ่ขึ้นไปอีกหน่อย วนไปหาที่จอดรถแล้วลงเดินเล่นอีก แต่เมืองดูเงียบเหงาเหลือเกินเพราะฤดูหนาวแค่ 4 โมงเย็นคนก็เข้าบ้านกันหมดแล้ว เดินเล่นเลาะ แม่น้ำ Windrush ไปเรื่อยๆ สวนทางกับผู้คนจ็อคกิ้งบ้าง จูงหมาเดินเล่นบ้าง ซื้อผักผลไม้บ้าง แม้ไม่คึกคักหนาตา แต่ก็มีชีวิตชีวา เดินไปถึงจุดที่อยากไปถ่ายรูปคือ Motor Museum ภาพรถโบราณที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวๆ ที่อยากมาเห็นก็ได้เห็น ระหว่างทางเดินกลับที่จอดรถ แวะซื้อกาแฟอุ่นๆไปจิบระหว่างทางพร้อมขนมปังรองท้อง Bourton on the Water ดูเป็นเมืองใหญ่กว่าเมืองผ่านๆมา มีร้านอาหารร้านเบเกอรี่หลายร้านตลอดถนนเส้นหลักของเมืองที่ขนานไปกับแม่น้ำ ถ้าใครมาเที่ยว Cotswolds หาที่พักกลางทาง เมืองนี้น่าจะเป็นที่พักได้ดี

Stow on the Wold
ออกจาก Bourton on the Water มา 5-6 กม.เห็นป้ายทางเข้าเมือง Stow on the Wold ก็อดไม่ได้ขอแวะเข้าไปสักหน่อยแม้จะเริ่มโพล้เพล้แล้ว ดูนาฬิกาก็แค่ 4 โมงเย็น เลี้ยวไปจอดรถที่ Market Cross แล้วเดินไปที่ St Edward’s Church เพราะอยากเห็นประตูต้นไม้ล้อม อารมณ์เหมือนหน้าต่างโบสถ์วัดบางกุ้ง เดินอ้อมโบสถ์ยามโพล้เพล้ไปเจอหลุมฝังศพด้านหลังเริ่มรู้สึกหลอนๆ พอเลี้ยวมุมตึกไปก็เจอหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่มาถ่ายรูปประตูเดียวกัน ดีขึ้นหน่อยที่มีเพื่อน ต่างรีบผลัดกันถ่ายรูป เพราะความมืดมาเร็วมาก และพาความหนาวมาด้วย เดินกลับที่ไปที่จอดรถ มีเวลามองดูรอบๆ Stow on the Wold ก็เป็นเมืองใหญ่ไม่น้อย เสียดายที่ไม่มีเวลาได้เยี่ยมชม ติดได้ก่อน

Broadway
จุดหมายปลายทางคืนนี้คือ The Lodge at Broadway บูทิคโฮเทลเก๋ๆที่จองผ่าน Booking.com มา กว่าจะมาถึงเมืองบรอดเวย์ก็เกือบ 5 โมงเย็น แต่มืดสนิทล่ะ และ GPS บอกตำแหน่งผิด วนหาแล้วหาอีก ลงจอดถามทางร้านขายของชำลุงกับป้าก็ไม่รู้จัก วนไป 2-3 รอบจนเจอ ด้วยว่าเป็นโรงแรมที่ต้องเดินเข้าซอกอาคารมา และไม่มี Front desk แต่มีน้องคนสวยมานั่งต้อนรับแขกเป็นบางเวลา ทำ Check in แล้วก็แจกกุญแจเข้าประตูหลักและกุญแจห้องพัก จากนั้นเราไม่ได้เจอน้องคนสวยอีกเลย ตอน Check out ก็เอาทุกอย่างวางไว้ ง่ายๆแบบนี้เลย ห้องพักน่ารักมาก ชอบมาก แต่หายากจังถ้ามามืดๆนะ คืนนี้ถามน้องคนสวยไว้ว่าทานอาหารเย็นที่ไหนดี น้องทำหน้ามึนๆแล้วบอกว่าเมืองนี้มีไม่กี่ร้านหรอก เราก็เลยเลือกร้านที่ไม่ไกลจากที่พักเดินไปได้ แม้เมืองจะเงียบเชียบแต่พอเข้าไปในร้านอาหารใน Swan Hotel (โรงแรมหงส์นี่มีแทบทุกเมือง ไม่ใช่สาขานะ แค่ชื่อซ้ำ) กลับเจอคนเต็มไปหมด นึกว่าจะอดแล้วเพราะไม่ได้จองมา แต่พนักงานบอกว่าถ้าพี่ทานอาหารไม่นานพี่ทานได้นะ มีโต๊ะอยู่เขาจองไว้ 2 ทุ่ม พอดูเวลาแล้วก็เลยขำตัวเองเพราะเพิ่งห้าโมงครึ่งเอง ก็มืดซะขนาดนี้สมองก็เลยสั่งว่าควรไปทานข้าวเย็นได้แล้ว แม้จะยังไม่หกโมงเย็นแต่ก็ตกลงทานที่นี่ กว่าอาหารจะมาก็หกโมงกว่าพอดี อิ่มแล้วยังมีเวลาสั่งเบียร์มาจิบเพลินๆได้อีก ถ้าเจ้าของโต๊ะมา ก็สามารถย้ายไปจิบที่บาร์แทนได้
Broadway
ที่นอนดีนอนหลับสบาย ตื่นมาแต่เช้า ออกไปเดินเล่นที่ถนนกลางเมือง เดินไปเรื่อยๆผ่าน Swan Hotel ที่ทานข้าวเมื่อคืน เลี้ยวซ้ายเข้า Church street ไม่เจอชาวบ้านชาวเมืองสักคน ก็มันหนาวขนาดนี้ใครจะมาเดินเล่นแต่เช้า แต่คนเมืองร้อนดีใจเดินรับไอเย็นกันใหญ่ เดินวนกลับมาฝั่งตรงข้ามโรงแรมเป็นร้านขายผักผลไม้ “Broadway Deli” เปิดขายแต่เช้า น้องคนสวยบอกไว้แล้วว่าถ้าอยากทานอาหารเช้าให้มาร้านนี้ เข้าไปดูด้านในถึงได้เห็นผู้คนมานั่งทานอาหารเช้ากันเต็มร้าน อารมณ์สภากาแฟของเมือง แต่เช้าเกินกว่าเวลาอาหารเช้าของเรา ก็เลยแค่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ OTOP พวกแยม น้ำผึ้ง ผลไม้สด ผลไม้แห้ง
คืนกุญแจแล้วขับรถออกชมเมืองอีกรอบ บ้านสวยๆทุกหลัง อยากลงไปถ่ายรูปแต่ก็เกรงใจเจ้าของบ้านอยู่ เลยได้แต่นั่งชมวิวไป จุดหมายเช้านี้คือไป Broadway Tower ขับออกนอกเมืองมาไม่ไกล เลี้ยวเข้าป่ามานิดหน่อยพ้นแนวป่าก็เลี้ยวตัดผ่านทุ่งเลี้ยงแกะ มองเห็น Broadway Tower แต่ไกล สวยงามตามที่คาด ไปถึงจุดจอดรถซึ่งเป็น Coffee Shop สามารถซื้อตั๋วเข้า Tower ได้ใน Shop แต่ตอนนี้ Tower ยังไม่เปิด แต่เดินเข้าไปถ่ายรูปวิวทั่วไปได้ ยกเว้นไม่ได้ขึ้น Tower แต่เราพอใจกับวิวแค่ตรงนี้เพราะ Tower ก็อยู่บนเนินมองเห็นวิวได้กว้างไกลแล้ว ไม่ต้องขึ้น Tower ก็ได้ ถ่ายรูปจนพอใจก็เดินมาจิบกาแฟและครัวซองอร่อยๆในร้านเป็นอาหารเช้า
Chipping Campden
ร่ำลา Broadway ออกเดินทางต่อ เป้าหมายคือเมืองน่ารักอีกเมืองที่ห่างออกไปแค่ 10 กม. ขับไปแค่ 15 นาทีก็เข้าตัวเมืองแล้ว ผ่าน High Street ถนนสายหลักของเมืองไปจนถึง St.James Church กว่าจะได้ที่จอดรถ เมืองไม่ใหญ่แต่ก็ใช่จะหาที่จอดรถได้ง่ายๆ จอดรถได้แล้วเลยเข้าไปเดินชมโบสถ์ก่อนเลย St.James Church เป็นโบสถ์ที่สวยงามแห่งหนึ่งใน Cotswolds โบสถ์ตั้งอยู่บนเนินเขาที่ทิวทัศน์ดีไม่น้อย จากนั้นก็เดินเล่นไปตาม High St. เดินย้อนกลับไปตามทางที่ขับผ่านมานั่นแหละ อาคารที่สร้างด้วย Cotswolds stone สวยงามตามรายทาง เดินไปถึง The Old Market Hall ที่นึกสงสัยว่าสมัยยังคึกคักเป็นตลาดจริงๆจะเป็นแบบไหน เหมือนตลาดสดตามหมู่บ้านเมืองไทยมั๊ย สังเกตุเห็นป้ายบอกทางเดิน Cotswolds way ก็เดินตามได้เลย (Cotswols way เป็นทางเดินยาวต่อเนื่อง 161 กม. เริ่มมาตั้งแต่เมืองบาธมาจบที่ Chipping Campden นี่แหละ ซึ่งจะผ่านทิวทัศน์อันสวยงาม ผ่านสถานที่ประวัติศาสตร์ รวมทั้งเมือง AONB หลายๆเมือง ใช้เวลาร่วม 20 ชั่วโมง ใครสนใจเชิญแบกเป้เดินได้ รวมแวะเที่ยวด้วยน่ะคิดว่าใช้เวลาสัก 2 วัน 2 คืนนะ เราแค่เดินเล่นระยะสั้นๆเวลาเจอทางเดินนี้ในเมืองต่างๆก็พอล่ะ)

จบการเที่ยว Cotswolds ที่เมือง Chipping Campden หากมีเวลาก็อยากใช้เวลาใน Cotswolds ให้มากกว่านี้ มีเมืองเล็กๆที่อยากแวะเข้าไปอีกหลายเมือง แม้จะเล็กจนเหมือนไม่มีอะไร แต่มันก็จะมีอะไรในแบบของมันเอง มีเสน่ห์ในความเล็ก มีเสน่ห์ในความสงบ สำหรับคนชอบอะไรแบบนี้ ขับรถเที่ยวเล่นใน Cotswolds สัก 3 วันกำลังดี มีเวลาเดินเล่น ชมวิว จิบชากาแฟ นั่งมองท้องฟ้ากับทุ่งเลี้ยงแกะบ้างก็คงดี
ช่วงบ่ายขับรถต่อไปที่เมือง Statford Upon Avon เมืองบ้านเกิดของนักเขียนบทละครและนักกวีชื่อดัง “William Shakespeare” ก่อนจะขับยาวๆต่อไปนอนที่เมืองลิเวอร์พูล เดี๋ยวไปเล่าต่อตอน 6
Day 5/6 Driving tips (2 day)
Day 5 (Afternoon) : Castle Combe – Bibury – Bourton on the Water – Stow on the Water – Broadway
Day 6 (Morning) : Broadway – Chipping Campden
<< Town map >>





