Trip : England–Scotland [November 2017] Part 8 ~ Manchester Day ~
13 days England-Scotland Part-1 | Part-2 | Part-3 | Part-4 | Part-5 | Part-6 | Part-7 | Part-8 | Part-9 | Part-10 | Part-11 | end
วันที่ 9 ยามเช้าที่ฝนไม่ตก แต่แดดไม่ออกที่เมืองแมนเชสเตอร์ จัดการอาหารเช้า แล้วทิ้งรถไว้ที่โรงแรม ออกเดินข้ามถนนไป 2 ไฟแดงก็ถึงสนาม Old Trafford แล้วมาเมือง Manchester ทั้งทีก็ขอมาเดินดูสนามสักหน่อย ตั้งใจมาเดินดูบรรยากาศรอบๆ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกคงไม่เข้า Stadium Tour ก็ได้ถ่ายรูปด้านหน้าสนามนิดหน่อย ฝากนักท่องเที่ยวไทยที่เจอกันถ่ายให้ เจอคนไทยหลายคน แฟนผีแดงคนไทยเยอะมากอยู่แล้วเลยไม่แปลกที่จะเจอ ยังเดินถ่ายรูปได้ไม่กี่รูป ฟ้าที่อึมครึมก็ปล่อยฝนลงมา ลงมาแบบหนักมากๆ ยืนหลบฝนอยู่สักพักก็เริ่มซาก็เลยกางร่มเดินกลับโรงแรม
ตอนแรกตั้งใจจะทิ้งรถไว้ที่โรงแรมแล้วนั่งรถไฟเข้าไปเที่ยวในเมือง แต่ดูทิศทางแล้ว จากในเมืองเราจะไปเที่ยวสนามฟุตบอลของ Manchester City ด้วย ซึ่งมันอยู่คนละฟากเมือง ไม่อยากเสียเวลาย้อนไปย้อนมา เลยตัดสินใจเอารถไปเลย เสี่ยงหาที่จอดรถกลางเมืองเอา (คิดถูก+คิดผิด 555)
ขับรถเข้าไปวนหาที่จอดในตึกซึ่งราคาโหดมาก แต่ไหนๆก็มาล่ะ ก็จอดเถอะ ได้ที่จอดแถบ Spinningfield ออกมาต้องอย่าลืม Save location ไว้ด้วย เดี๋ยวเดินกลับมาไม่ถูกนะ จากนั้นเดินไปที่แรกที่ตั้งใจมาคือ Manchester Cathedral เดินวนงงอยู่พักหนึ่งก็เจอ ด้วยความโชคดีที่มีตลอดทริปโบสถ์ซ่อมอีกแล้ว!! เจอนั่งร้านรอบโบสถ์อีกล่ะ แต่ไม่เสียใจแล้ว มันชิน ฮา ~
เดินวนเล่นรอบโบสต์สักพักก็ไปต่อ จากที่วางแผนจะเดินตามแผนที่ๆเตรียมมาก็เปลี่ยนเป็นเดินตามใจฉัน เพราะฝนตกๆหยุดๆ ทั้งหนาวทั้งเปียกทั้งแฉะ แต่ก็ตั้งเป้าหมายเป็นจุดหลักๆไว้ 3-4 จุด เช่น Town Hall, Anne Church, Albert Hall ช่วงที่ไปเป็นปลายเดือนพฤศจิกายน แต่อย่างที่เคยเล่า บรรยากาศคริสต์มาสมาเต็มแล้ว การจะได้ถ่ายภาพอาคารสวยคลาสสิคก็ลืมได้เลย เพราะจะเต็มไปด้วยเครื่องประดับสีเขียวแดง ตุ๊กตาหิมะ ซานตาคลอส มาเต็ม แถมด้วยตลาดนัดทั่วทุกมุมเมือง มองด้านบวกก็ดูมีชีวิตชีวาดีนะ เสียดายแต่วันนี้ฝนลงหนักไปหน่อย เลยหนาวจัดไปอีก ช่วงฝนลงหนักๆก็หนีเข้าเต๊นท์ซื้อช็อคโกแล็ตร้อนจิบแกล้มไส้กรอกย่าง ฝนยังไม่หยุดก็หนีเข้าในตึกบ้าง เข้าพิพิธภัณฑ์ก็ได้ถ้าอยากดู
แมนเชสเตอร์เป็นเมืองใหญ่ ประชาชนชาวแมนเชสเตอร์ก็มากมาย มีตึกสูงรูปแบบทันสมัยเยอะแยะ เทียบไปแล้วดูทันสมัยกว่าลอนดอนเสียอีกนะ ตอนนี้มีก่อสร้างอีกเพียบคงมีตึกสูงเพิ่มขึ้นอีก แต่ในย่านกลางเมืองตึกเก่าๆคลาสสิคก็ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี เดินเล่นดูตึกดูอนุสาวรีย์ได้เพลินๆ (ถ้าฝนไม่ตก – -“)
The Mitre Hotel (ซ้าย), The Old Wellington (กลาง), The Oyster Bar (ขวา
เดินเที่ยววนไปวนมาในเมืองอยู่จนบ่าย ก็เดินกลับไปตึกจอดรถ โดนค่าจอดรถไป 11 ปอนด์กับเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมงเต็ม น้ำตาซึมไปเลย ถือว่าเอาสะดวกและประหยัดเวลาก็แล้วกัน ออกรถสู่จุดหมายสุดท้ายในเมืองแมนเชสเตอร์คือ Etihad stadium สนามฟุตบอลของทีม Manchester City FC ต้องขับรถออกนอกเมืองไปหน่อย อยู่คนละมุมเมืองกับ Old Trafford ของ Manchester United FC เลย ไม่เหมือนกับ Liverpool FC กับ Everton FC ที่ห่างกันแค่ขับรถ 2-3 เลี้ยว
ขับรถไปตาม Google Map มาแถบ Eastland ถึงหน้า Etihad Stadium โอ้โห…บริเวณกว้างขวางใหญ่โตมโหฬารมาก เราเลี้ยวเข้าประตูรั้วไปเลย คาดว่าน่าจะมีที่จอดรถให้คนมาเที่ยวชมบ้าง ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่สาวโบกมือเรียกทันที พอบอกว่ามาเยี่ยมชม เธอว่าให้ขับเลยทางเข้านี้ไปนะจ๊ะ ขับไปตามถนนอ้อมสนามจนถึงไฟแดงแล้วมองทางขวานะ มีแม็คโดนัล แล้วหาที่จอดเอา เอิ่มมมม… ก็ต้องจำใจทำตามที่บอก สรุปคือไปหาจอดเอาหน้าห้าง (Asda Superstore) แล้วเดินมา เราก็จอดลานแม็คนั่นแหละ โดยสัญญากับหุ่นแม็คหน้าร้านว่ากลับมาจะมาซื้อของกินไปกินในรถระหว่างทางขับไปยอร์ค
จากบริเวณ Asda Supercenter (ชื่อแอบไทยนะ ซุปเปอร์อัษฎา 555) เดินมาจะเจอกับ Footbal Acadamy ก่อน จะเห็นสะพานพาดข้ามถนน 4 เลนไปยัง Etihad Stadium (new SuisseGas Bridge) แต่เราเดินข้ามถนนไป บริเวณสนามกว้างขวาง อารมณ์เหมือนสนามรัชมังฯกินพื้นที่ไปถึงกกท. วันนี้ไม่มีฟุตบอลแข่งก็เงียบเหงานิดหน่อยเหมือนกันทุกสนาม เดินเข้าไปได้นิดเดียว ฝนเจ้ากรรมก็กระหน่ำลงมาอีกรอบ ต้องวิ่งเข้าไปใน City Store เดินดูของที่ระลึกเล่นๆ ของก็ทำดูดี ธีมสีฟ้าทำอะไรก็สวยอยู่ล่ะ แต่ไม่ใช่แฟนทีมนี้เลยไม่ได้ซื้ออะไร ฝนซาก็เดินออกข้างนอก ด้านหลัง Store เป็นสถานีรถไฟ Etihad Campus Station เก๋มากมีสถานีรถไฟติดสนามเลย ออกมาเดินเล่นถ่ายรูปต่อไปอีกหน่อย ฝนก็ลงอีก ไม่ไหวล่ะ พอฝนซาก็รีบเผ่นกลับไปรถ เข้าไปซื้อของกินในแม็คฯตามสัญญา แล้วออกเดินทางไป York
กลับมาหาข้อมูลเพิ่มเติมดูระหว่าง Old Trafford กับ Etihad Stadium สักหน่อย สนามเอธิฮัดอยู่ในแถบอิสต์แลนด์ ซึ่งบริเวณนี้เหมือนเป็นสปอร์ตคอมเพล็กซ์ นอกจากสนามฟุตบอลแล้วยังมี สนามกรีฑา สนามสควอชต์ มีเวลโลโดม ทำให้เหมือนเป็นเมืองใหญ่ๆ ในขณะที่โอลด์แทรฟฟอร์ดดูแน่นๆไปหน่อย แต่ถ้าเทียบกันแค่ส่วนสนามฟุตบอลแล้ว โอลด์แทรฟฟอร์ดของผีแดงใหญ่กว่า ตัวอัฒจรรย์จุคนได้ 75,500 ที่นั่ง ในขณะที่ เอธิฮัดสเตเดี่ยมของเรือใบสีฟ้าจุคนดูได้แค่ 55,000 ที่นั่ง แต่ที่ว่าใหญ่แล้วแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยังมีแผนจะปรับปรุงพร้อมขยายสนามโอลด์แทรฟฟอร์ดอีก โดยจะขยับขยายอัฒจรรย์รองรับแฟนๆให้ได้มากขึ้น รวมทั้งจะเพิ่มพื้นที่ให้แฟนๆผู้พิการด้วย โดยจะขยายให้เป็น 88,000 ที่นั่ง!! ภายในปี 2020 ระหว่างปรับปรุงสนามก็ต้องหาที่อยู่ชั่วคราวไปก่อน มีข่าวออกมาว่าแมนเชสเตอร์ซิตี้อาจให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมาร่วมใช้สนามในช่วงปิดปรับปรุงก็ได้ อู้ววววว….แล้วจะพอรองรับแฟนผีแดงได้ยังไงกัน รอฟังข่าวต่อไป ใครเป็นแฟนผีแดงอยากจะไปเที่ยวชมสนามก็เช็คข่าวกันล่วงหน้าล่ะ จะได้ไม่พลาดไปแล้วไม่ได้ชมโอลด์แทรฟฟอร์ดนะ
วันที่ฝนตกฟ้าปิดแค่บ่าย 4 ก็โพล้เพล้แล้ว บรรยากาศอังกฤษแท้ๆเลย
กว่าได้ออกจากเมืองแมนเชสเตอร์จริงๆก็เกือบบ่าย 3 ซึ่งหน้าหนาวแถมฝนตกฟ้าปิด มันก็จะโพล้เพล้ล่ะ จากแมนเชสเตอร์ไปถึงยอร์ค ระยะทาง 110 กม. ใช้เวลาราวๆ 2 ชั่วโมง ฝนตกพรำๆไปตลอดทาง ถึงเมืองยอร์คก็มืดสนิท วันนี้เลือกนอนโรงแรมไอบิส Ibis ใกล้สถานีรถไฟ เพราะข้อแรกเราจะคืนรถที่สถานีรถไฟ และวันรุ่งขึ้นเราจะนั่งรถไฟข้ามไปสก็อตแลนด์ เราเลือกจ่ายเหมาค่าน้ำมันไปเลยไม่ต้องมาหาที่เติมอีก แต่ให้คำนวนการใช้น้ำมันว่าให้เกือบหมดเมื่อถึงตอนคืน ไม่งั้นจะขาดทุนนะ การคืนรถต่างประเทศก็เหมือนกันทุกที่ ไม่เคยมีการตรวจ จอดแล้วเอากุญแจไปคืน จบ! ลากกระเป๋าไปโรงแรมได้ คืนนี้ออกเดินใกล้ๆ ลอด Miklegate เข้าไปเจอร้านอาหารไทย เลยจัดสักหน่อย ลืมว่าอาหารเมืองนอกชุดใหญ่มาก ดันสั่งแบบ full set อิ่มแทบอ้วก อร่อยดี แก้เบื่ออาหารฝรั่งได้
ถึง York แล้ว ยังไม่ 6 โมงเย็นก็มืดสนิท / Miklegate ประดับไฟรับเทศกาลล่ะ / ร้าน The Old Siam, Miklegate st.
Day 9 Walking tips (1/2 day)
Spinning field CP > Manchester Cathedral > The Mitre Hotel > New Cathedral Street > Royal Exchange Theatre > St. Ann square > St. Ann Church > Albert square > Manchester Town hall > St. Peter Square > Albert Hall